สรุปประเด็นโดยกระปุกดอทคอม
วานนี้ เวลา 09.00 น. นายสันติ พร้อมพัฒน์ รักษาการ รมว.คมนาคม พร้อมด้วยหน่วยงานด้านการบินต่างๆ เช่น สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ หรือไออาต้า องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือไอซีเอโอ และคณะกรรมการด้านการบินอย่างเอโอซี ได้ตรวจความพร้อมในการให้บริการของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จากนั้นนายสันติและคณะได้เดินทักทายกับบรรดานักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นว่า ระบบสนามบินเข้าสู่ภาวะปกติสามารถให้บริการเต็มรูปแบบทั้งสนามบินแล้ว
นายสันติกล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าสนามบินสุวรรณภูมิมีมาตรฐานด้านความปลอดภัย 100% ไม่ว่าจะเป็นระบบทางวิ่ง ทางขับ ระบบการตรวจสอบสัมภาระและวัตถุระเบิด โดยเครื่องซีทีเอ็กซ์ ระบบเช็กอิน และระบบต่างๆ ภายในอาคารผู้โดยสาร ทั้งนี้ สายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลนส์ ของสหรัฐฯ จะเริ่มทำการบินที่สนามบินสุวรรณภูมิในวันที่ 6 ธันวาคม แสดงให้เห็นว่า สหรัฐฯ มีความมั่นใจในมาตรฐานความปลอดภัยและระบบตรวจสอบของสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งจะส่งผลให้ สายการบินชาติอื่นเกิดความมั่นใจด้วยเช่นกัน ทุกฝ่ายได้ร่วมมือกันตรวจสอบการทำงานของระบบต่างๆในสนามบินสุวรรณภูมิ จนสามารถใช้งานได้เต็มรูปแบบภายใน 48 ชั่วโมง หลังกลุ่มผู้ชุมนุมสลายตัว เพราะระบบการทำงานและพื้นที่ภายในอาคารผู้โดยสารส่วนใหญ่ ไม่ได้รับความเสียหาย ขณะที่ระบบทางวิ่งและทางขับ ไม่ได้รับความเสียหายใดๆ
นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) เดินทางมาตรวจความเรียบร้อย และให้การต้อนรับผู้โดยสารที่มาใช้บริการสนามบิน พร้อมกับเปิดเผยว่า หลังจากได้เปิดให้บริการเต็มรูปแบบ ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดวันที่ 5 ธันวาคม ระบบงานต่างๆ ค่อนข้างพร้อมสมบูรณ์ แต่มีปัญหาเล็กน้อย เมื่อจอภาพแสดงตารางการบินยังมีเที่ยวบินที่ขึ้นว่ายกเลิกจำนวนมาก แต่ได้มีการแก้ไขให้ดีขึ้นแล้ว และมีเที่ยวบินล่าช้าบางเที่ยว
สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยสนามบินนั้น ตอนนี้ยังไม่มีการปรับเพิ่ม เนื่องจากระบบการรักษาความปลอดภัยสนามบินนั้น ได้รับรองจากกรมการขนส่งทางอากาศ สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (ไออาต้า) องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอซีเอโอ) คณะกรรมการด้านการบิน (เอโอซี) และ Transportation Security Administration (ทีเอสเอ) สหรัฐอเมริกา ว่า ได้มีมาตรการพร้อมที่จะเปิดให้บริการได้ ดังนั้นข้อเสนอจากนานาชาติ ที่ให้มีกองกำลังติดอาวุธมาอารักขาสนามบิน จึงไม่จำเป็น เพราะหากนำมาจะเป็นการสร้างความตื่นตระหนกตกใจแก่คนไทยและชาวต่างชาติมากกว่า สำหรับเที่ยวบินที่จะทำการบินจากสนามบินสุวรรณภูมิ โดยเฉพาะสายการบินต่างชาติจะทยอยกลับสู่ตารางบินปกติ จากเที่ยวบินทั้งหมดประมาณ 547 เที่ยวบิน แบ่งเป็น เที่ยวบินขาเข้าประมาณ 290 เที่ยวบิน เที่ยวบินขาออก 257 เที่ยวบิน
นายเสรีรัตน์กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม TSA ได้ รับรองระบบมาตรฐานความปลอดภัยของสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว แต่มีข้อเสนอเกี่ยวกับระบบรักษาความปลอดภัยของสายการบิน โดยได้แนะนำให้สายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ และนอร์ทเวสต์เพิ่มมาตรการดูแลด้านความปลอดภัย เช่น การสัมภาษณ์ผู้โดยสารก่อนเช็กอิน การเพิ่มพนักงานรักษาความปลอดภัยของสายการบินบริเวณพื้นที่ก่อนขึ้นเครื่องบิน รวมทั้งให้มีการจัดสุ่มตรวจสัมภาระของผู้ โดยสารในสัดส่วน 10%
นอกจากนั้น TSA ยังจะเข้ามาช่วยวางแผนขั้นตอนการให้บริการในสนามบินสุวรรณภูมิเพิ่มเติมด้วย โดยหลังจากวันที่ 15 ธ.ค.นี้ ทอท.จะได้เชิญ ผู้แทนจาก TSA เข้ามาดูระบบตรวจวัตถุระเบิดของซีทีเอ็กซ์ในสนามบินสุวรรณภูมิ นอกจากนี้ผู้แทนจาก TSA เห็นว่าสนามบินสุวรรณภูมิมีเครื่องมืออุปกรณ์ที่ดีที่สุด แต่ขั้นตอนการทำงานไม่มีความสัมพันธ์กับสิ่งที่มีอยู่ ทำให้ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากเครื่องมืออุปกรณ์ได้เต็มที่ จึงจะเข้ามาช่วยแนะนำให้ ทอท.
กระทั่งเวลา 10.00 น. นายชัยศักดิ์ อังค์สุวรรณ รักษาการอธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ ได้มอบหนังสือรับรองความปลอดภัยการใช้สนามบินสุวรรณภูมิให้แก่ นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยมีคณะผู้บริหารและพนักงานสายการบินต่างๆ รวมทั้งบรรดานักท่องเที่ยวผู้มาใช้บริการสนามบินร่วมเป็นสักขีพยาน เพื่อแสดงว่าสนามบินสุวรรณภูมิ เปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบเรียบร้อยแล้ว
จากนั้นนายชัยศักดิ์กล่าวว่า จากการหารือกับผู้บริหารของ ICAO (ไอซีเอโอ) นั้นพบว่า ไอซีเอโอมีความพอใจในความพร้อมของสนามบินสุวรรณภูมิ ที่สามารถเปิดให้บริการได้รวดเร็ว และมีมาตรฐานความปลอดภัย แต่ในระยะแรกนี้สายการบินยังไม่สามารถทำการบินได้ตามปกติ เพราะต้องมีการประสานกับผู้โดยสาร แต่เชื่อว่าอีก 1 สัปดาห์จะเปิดเที่ยวบินตามปกติ ได้ประกาศแจ้งกับสายการบินแล้วว่าสามารถทำการบินตามตารางบินฤดูหนาวที่แจ้งกับ ขอ. ได้ทันทีไม่ต้องขออนุญาตใหม่
นายชัยศักดิ์กล่าวด้วยว่า ไอซีเอโอยังมีความห่วงใยถึงแนวทางการป้องกันการเกิดเหตุปิดล้อมสนามบิน เพราะเหตุการณ์การปิดล้อมสนามบินที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกในโลกก็ว่าได้ ที่ประชาชนปิดล้อมสนามบินแต่ไม่ใช่การก่อการร้าย ทำให้การแก้ปัญหาไม่สามารถดำเนินการตามมาตรฐานรักษาความปลอดภัย เพราะอาจเกิดความรุนแรงต่อประชาชน ทอท. และ ขอ.จะต้องร่วมกันหารือเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวอีก และจะต้องปรับเพิ่มมาตรการด้านความปลอดภัยให้เข้มงวดมากขึ้น
ส่วนการส่งสนามบินเข้าประกวดให้เป็นสนามบินหนึ่งในสิบที่ดีที่สุดในโลกนั้น เชื่อว่า ทอท.ยังทำได้ และแม้ว่าเกิดการปิดล้อมสนามบินขึ้น ก็ไม่มีทางที่สนามบินของมาเลเซียหรือสิงคโปร์ จะแย่งปริมาณผู้โดยสารจากสุวรรณภูมิไปได้
ทั้งนี้ยังมีรายงานถึงสภาพความเสียหายของสนามบินสุวรรณภูมิ โดยนายสมบัติ เดชาพานิชกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทคิงเพาเวอร์ดิวตี้ฟรี กล่าวว่า ผลจากการปิดสนามบินสุวรรณภูมิในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ต้องสูญรายได้กว่าวันละ 50-60 ล้านบาท รวมทั้งพบว่ามีสินค้าบางส่วนถูกลักขโมยไป ซึ่งมีทั้งที่กล้องวงจรปิดบันทึกภาพได้ และบางพื้นที่ ที่ไม่มีการบันทึกภาพด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมินความเสียหายทั้งหมด ส่วนจะยื่นขอชดเชยจากรัฐบาลหรือไม่นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา รวมทั้งประเด็นเรื่องของการฟ้องร้องกลุ่มพันธมิตรฯ ก็กำลังพิจารณาอยู่
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
