โปรดเกล้าฯแต่งตั้ง "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" เป็นนายกฯ เวลา 18.00 น. วันนี้ (17ธ.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ "อภิสิทธิ์" เดินสายพบเอกชน หาแนวทางฟื้นเศรษฐกิจ ด้าน "สุเทพ" เผย โควตาพรรค ประชาธิปัตย์ เหลือแค่ 15 ที่นั่ง
(17ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้นัดหมายให้ ส.ส.ของพรรคเตรียมชุดขาวไว้ ภายหลังจากสำนักพระราชวัง ได้ประสานงานมายังพรรคประชาธิปัตย์ ว่า จะมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ในวันนี้ (17ธ.ค.) เวลาประมาณ 18.00 น.
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าที่นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ (17ธ.ค.) ตั้งใจไปพบกับกลุ่มที่สำคัญในการฟื้นเศรษฐกิจ กลุ่มแรกคือทำอย่างไรให้เกษตรกรมีกำลังซื้อ กลุ่มที่สองคือท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบและปัญหาคนตกงาน ทั้งนี้ตลอดทั้งวันนายอภิสิทธิ์มีกำหนดการที่จะเดินทางไปพบกลุ่มเกษตรกร ภาคการท่องเที่ยวและสภาอุตสาหกรรม
ด้านสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีว่า ไม่หนักใจ เพราะพรรคร่วมรัฐบาลที่อยู่กับรัฐบาลที่แล้ว เคยบริหารกระทรวงไหนให้ดูแลกระทรวงนั้น ส่วนกระทรวงพาณิชย์ตกลงให้กลุ่มมัชฌิมาธิปไตย ตั้งแต่ตอนที่มาร่วมรัฐบาลแล้ว ไม่ได้เพิ่งมายกให้ตอนนี้ ส่วนจำนวนรัฐมนตรีใครเพิ่มใครลด อยู่ที่จำนวนเสียงสนับสนุนนายอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรีในสภา ถือเป็นหลักการที่ชัดเจน ดังนั้นหลังจากมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีแล้วจะมีการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลทีละพรรค ว่าพรรคใดจะส่งใครมาเป็นรัฐมนตรี
ส่วนที่หลายฝ่ายปรามาสว่าประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลได้ไม่เกิน 3 เดือนนั้น เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จะอยู่ 3 ปี และไม่รู้สึกกังวลแม้จะมีการจองกฐินอภิปรายไม่ไว้วางใจตั้งแต่ยังไม่ได้ตั้งคณะรัฐมนตรี
โดยสัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ขณะนี้จะเหลืออยู่เพียง 14-15 ที่นั่ง และเมื่อได้โผรัฐมนตรีแล้วจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคและ ส.ส.ในวันพฤหัสบดีที่ 18 ธันวาคม
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า แสดงว่านายสุเทพจะไม่ควบตำแหน่งรองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ตามที่เป็นข่าวใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนเป็นผู้จัดการรัฐบาล ถ้าเอาเก้าอี้ไว้เองก็แย่ ไม่ได้เป็นการเสียสละอะไร แค่ทำงานจัดตั้งรัฐบาลก็เหนื่อยพอแล้ว
เมื่อถามว่า นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะได้ดูแลกระทรวงด้านเศรษฐกิจหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า นายกรณ์จะได้อย่างแน่นอน เพราะเป็นตัววางอันดับหนึ่งในด้านเศรษฐกิจ
รายงานข่าวจากพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา กล่าวกรณีการโหวตเลือกนายกฯ โดยพรรครวมใจไทยฯ เสียงแตก พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร อดีตหัวหน้าพรรค และนางทัศนียา รัตนเศรษฐ ส.ส.นครรราชสีมา แหกมติพรรคโหวต พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก แทน และนพ.ไกร ดาบธรรม ส.ส.เชียงใหม่ ไม่มาประชุม ขณะที่นายสมชาย ฉัตรพัฒนศิริ ส.ส.นครราชสีมา งดออกเสียง ซึ่งส่งผลกระทบต่อโควตารัฐมนตรี 2 ตำแหน่งของพรรคว่า ยืนยันว่าโควตารมว.พลังงานและรมช.คลังคงอยู่พรรครวมใจไทยฯ เพราะนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ และนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรค ได้รับคำยืนยันจากพรรคประชาธิปัตย์แล้ว แม้การลงคะแนนของพรรครวมใจไทยฯจะไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ก็ตาม โดยนายประดิษฐ์จะเป็น รมช.คลัง และนพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล จะเป็น รมว.พลังงาน
รายงานข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยความคืบหน้าการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรคร่วมรัฐบาลว่า ยังไม่นิ่ง โดยเฉพาะในส่วนพรรคร่วมรัฐบาล ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ลดลงเหลือ 15 ตำแหน่ง และสัดส่วนคนนอกด้วย โดยยังดูแลกระทรวงหลัก คือ กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงศึกษาธิการ
รายงานข่าวแจ้งว่า การจัดโควตาพรรคร่วมรัฐบาลอาจมีการสลับสับเปลี่ยนในหลายตำแหน่ง เนื่องจากต้องเอาสัดส่วนเดิมของพรรคร่วมมาเกลี่ยใหม่ เพื่อให้เหมาะสมกับจำนวนสมาชิกพรรคร่วม ขณะเดียวกันได้เกิดความขัดแย้งภายในพรรคประชาธิปัตย์ด้วยกัน แต่พรรคจะใช้เกณฑ์ในการพิจารณาโควตาเป็นรายภาคก่อน โดยแต่ละภาคมีเงื่อนไขความอาวุโส การเป็นที่ยอมรับและมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ เป็นเกณฑ์ในการพิจารณา
ภาคใต้มี ส.ส.มากที่สุด 49 คน ได้ 3 เก้าอี้ รองลงมาคือภาคกลาง 35 คน ได้ 2 เก้าอี้ กทม. 27 คน ได้ 2 เก้าอี้ ภาคเหนือ 21 คน กับภาคอีสาน ภาคละ 1 เก้าอี้ โดยภาคใต้เป็นภาคที่จัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรียากที่สุด เนื่องจากจำนวนสมาชิกอาวุโสมากและว่างเว้นจากการเป็นรัฐมนตรีมาร่วม 8 ปี จึงมีหลายคนจ่อคิวได้เก้าอี้รัฐมนตรี คาดว่าภายใน 1-2 วันนี้จะลงตัว หลังจากพรรคร่วมรัฐบาลได้จัดโควตาลงตัว โดยนายสุเทพได้ขอความร่วมมือสมาชิกพรรคให้จัดเก้าอี้ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลให้ลงตัวก่อน เนื่องจากขณะนี้มีการขอสลับหลายตำแหน่ง จากนั้นจึงเอามาจัดให้คนในพรรค เนื่องจากปัญหาการจัดตั้งรัฐบาลเกิดจากพรรคร่วมหลายพรรค ซึ่งยากต่อการควบคุม ดังนั้น จึงต้องให้พรรคร่วมได้เก้าอี้จนเป็นที่พอใจเพื่อซื้ออายุของรัฐบาล
มีรายงานว่า ในส่วนพรรคประชาธิปัตย์เองนั้น มีการแย่งชิงเก้าอี้รัฐมนตรีหลายตำแหน่ง จนนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค ต้องออกมาเบรก เพื่อให้นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ได้คัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมที่สุด โดยให้คำนึงบุคคลที่เข้ามาช่วยงานตลอดในช่วงที่พรรคประชาธิปัตย์ตกต่ำ และแก้ปัญหาไม่ได้ให้เอาคนนอกเข้ามานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีแทน
รายงานข่าวระบุว่า กระทรวงที่มีความชัดเจนคือ กระทรวงการคลัง คาดว่าเป็นนายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรค ขณะที่ รมช.คลัง 2 เก้าอี้ จะเป็นโควตาคนนอก และอีก 1 เป็นของพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ซึ่งยังเป็นนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรค
ส่วน รมว.มหาดไทย คาดว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส่วน รมช.มหาดไทย คาดว่าเป็นนายถาวร เสนเนียม และ รมช.มหาดไทย อีก 1 เก้าอี้เป็นของกลุ่มเพื่อนเนวิน กระทรวงกลาโหมลงตัวที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ทบ. ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ คาดว่าเป็นของนายเกียรติ สิทธีอมร ส่วน รมช.เป็นโควตาอดีตมัชฌิมาธิปไตย ซึ่งอยู่ระหว่างการตัดสินใจของนางพรทิวา นาคาศัย เลขาธิการพรรค ว่าจะย้ายจาก รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ มารับรมช.พาณิชย์หรือไม่ เนื่องจากพรรคมีโควตา2เก้าอี้ คือ รมว.ทรัพย์ฯ และ รมช.พาณิชย์
ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศยังเป็นการชิงเก้าอี้ระหว่างนายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ส.ส.สัดส่วน กับนายกษิต ภิรมย์ อดีตทูตหลายประเทศ ซึ่งมีรายงานว่า หากตกลงกันไม่ได้พรรคเตรียมหาคนนอกมานั่งเก้าอี้นี้
ตำแหน่ง รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คาดว่าเป็นคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ส่วน รมว.ยุติธรรม คาดว่าเป็นของนายวิทยา แก้วภราดัย กระทรวงแรงงาน คาดว่าเป็นนายไพฑูรย์ แก้วทอง กระทรวงสาธารณสุข คาดว่าเป็นนายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ ส่วนนายธีระ สลักเพชร เป็น รมช.สาธารณสุข
ข่าวแจ้งว่า สำหรับ รมว.ศึกษาธิการที่เดิมตั้งใจจะให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นั่งควบนายกรัฐมนตรี ล่าสุดหลังจากนายอภิสิทธิ์ต้องไปเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ พรรคจึงเสนอชื่อคนอื่นขึ้นแทนคือ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช กับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.สัดส่วน ส่วน รมช.เป็นโควตาของกลุ่มเพื่อนเนวิน ที่ขอเพิ่มอีก 1 ตำแหน่ง
ข่าวแจ้งว่า นอกจากนี้ยังมีตำแหน่งที่น่าสนใจคือ ตำแหน่งเลขาธิการนายกฯ ที่คาดว่าจะเป็นของนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ รองหัวหน้าพรรค ซึ่งล่าสุดเจ้าตัวปฏิเสธ โดยขอนั่งเก้าอี้ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เพื่อประสานความร่วมมือกับนักธุรกิจในการให้คำปรึกษาด้านเศรษฐกิจแก่รัฐบาล ขณะที่นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู รองเลขาธิการพรรค จะนั่งรองเลขาธิการนายกฯ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย นั่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
รายงานข่าวระบุด้วยว่า ในส่วนโควตากลุ่มเพื่อนเนวินเสนอเข้ามา 5 ตำแหน่ง คือ รมว.คมนาคม ของนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.นครราชสีมา รมช.คมนาคม ของนายโสภณ ซารัมย์ ส.ส.สุรินทร์ รมช.เกษตรฯ ของนายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร ส.ส.มหาสารคาม รมช.มหาดไทย 3 ของนายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ ส.ส.ขอนแก่น และ รมช.ศึกษาธิการ ของนายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม
ข่าวแจ้งว่า โควตาพรรคชาติไทยพัฒนาได้ทั้งหมด 4 ตำแหน่ง เป็นตำแหน่ง รมว.2 ตำแหน่ง รมช. 1 ตำแหน่ง และรองนายกฯ 1 ตำแหน่ง โดย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ เป็นรองนายกรัฐมนตรี นายชุมพล ศิลปอาชา เป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายสรจักร เกษมสุวรรณ เป็น รมว.ท่องเที่ยวและการกีฬา และน.ส.อรุณี ปริศนานันทกุล เป็น รมช.คมนาคม
ข่าวแจ้งว่า กลุ่มเพื่อนสุวิทย์ที่เตรียมไปสังกัดพรรคกิจสังคมได้ 1 เก้าอี้ โดยอยู่ระหว่างการตัดสินใจว่าจะเป็นกระทรวงอุตสาหกรรม หรือกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้นายสุเทพขอให้พรรคร่วมทั้งหมดตัดสินใจให้ได้ก่อนวันที่ 18 ธันวาคม นี้
รายงานข่าวจากพรรคมัชฌิมาธิปไตยเดิมเปิดเผยว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มมัชฌิมา ได้หารือกับนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน ล่าสุด มีความเป็นไปได้ว่ากลุ่มเพื่อนเนวินอาจเข้าเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย หรือพรรคมัชฌิมาธิปไตยเดิม เพราะหาก ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวินทั้ง 22 คน มารวมกับ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย 7 คน จะกลายเป็น 29 คน ซึ่งสามารถต่อรองโควตารัฐมนตรีได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า ให้โควตาสัดส่วนตามเดิมนั้น หาก ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน และภูมิใจไทยรวมกันได้ จะมีการสลับกระทรวง เนื่องจากเดิมกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ของมัชฌิมามีปัญหาเรื่องฝายแม้ว ส่วนกระทรวงคมนาคม มีปัญหาในเรื่องรถเมล์ 6,000 คัน จึงอาจสลับเพื่อเลี่ยงปัญหาไปก่อน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต
