ทะลุโลกวรรณกรรม ของความเหมือนที่ไม่แตกต่างในตัวตนของ "พลอย-ภัสสร" ที่เข้าตา "สหมงคลฟิล์ม" เปิดตัวขึ้นแท่นบทเด่น "เด็กหญิงกะทิ" บนโลกภาพยนตร์
เปิดตัวไปแล้วอย่างเรียบง่าย เมื่อวันศุกร์ที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา สำหรับภาพยนตร์จากค่ายสหมงคลฟิล์ม เรื่อง "ความสุขของกะทิ" ที่ร้านกัลปพฤกษ์ (สีลม) โดยงานดังกล่าวคราคร่ำไปด้วยสื่อมวลชนและช่างภาพที่ต่างตั้งหน้าตั้งมารอดูโฉมหน้าของ "หนูกะทิ" ตัวเป็นๆ ว่า จะตรงกับคาแรกเตอร์ในหนังสือหรือไม่
หลายคนรับรู้ตัวตนของ "เด็กหญิงกะทิ" ในรูปแบบของจินตนาการที่ได้จากการบรรยายเป็นตัวอักษร ผ่านนวนิยายเรื่อง "ความสุขของกะทิ" วรรณกรรมเยาวชนที่ได้รับรางวัลซีไรท์ ปี 2549 จากปลายปากกาของ งามพรรณ เวชชาชีวะ ผู้ซึ่งสร้างสรรค์ผลงานมาแล้วหลายเรื่อง และเป็นที่รู้จักในนามของผู้แปลวรรณกรรมสุดฮิต "แฮร์รี่ พอตเตอร์" (ภาค6-7)
ถึงตรงนี้ ขอนำพาไปรู้จักกับ "เด็กหญิงกะทิ" ผู้หลุดจินตนาการจากตัวหนังสือของนักอ่านทั้งหลาย สู่ภาพลักษณ์ผ่านแผ่นฟิล์ม โดยกลุ่มผู้สร้างภาพยนตร์น้องใหม่อย่าง "ภาพยนตร์ชูใจ" ในเครื่องบริษัทสหมงคลฟิล์ม กับตัวละคร ที่รับบทเป็น"กะทิ" ในแบบภาพยนตร์ เธอคือ สาวน้อย ที่มีชื่อเล่นว่า "พลอย"
"น้องพลอย" หรือ เด็กหญิงภัสสร คงมีสุข ผู้รับบท "กะทิ" เธอคือ ตัวแทนของเด็กผู้หญิงผู้ร่าเริง สนุกสนาน วัย 12 ปี กำลังศึกษาอยู่มัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนชลกันยานุกูลแสนสุข จังหวัดชลบุรี
หลายคนอาจจะพอคุ้นหน้าคุ้นตากับน้องพลอยกันมาบ้าง ก็คงไม่แปลก เพราะเธอเคยผ่านการแสดงทางจอแก้วมาแล้วหลายเรื่อง อาทิ ละครเรื่องสวัสดีคุณครู, เขยใหญ่สะใภ้เล็ก, ดอกไม้หลากสี เป็นต้น
แม้ที่ผ่านมา น้องพลอยจะเล่นเป็นตัวประกอบเล็กๆ น้อยๆ แต่ความน่ารักของเธอก็มาเข้าตาผู้กำกับอย่าง "เจนไวย์ ทองดีนอก" ซึ่งทำการคัดเลือกมารับบทเด่นเป็น "เด็กหญิงกะทิ" เพราะเธอตรงกับบุคลิกของตัวละครผู้ไร้เดียงสาผู้นี้มากที่สุด
พลอยเปิดใจ ถึงความรู้สึกต่อการอ่าน "ความสุขของกะทิ" ว่า เมื่อตอนอ่านครั้งแรกรู้สึกเฉยๆ แต่พอกลับมาอ่านใหม่อีกครั้งกลับสึกชอบ และต้องอ่านใหม่อีกเป็นครั้งที่ 3 เมื่อรู้ว่า ตัวเองได้รับการติดต่อให้ไปแคสติ้งในบทของ "หนูกะทิ" จึงรีบไปอย่างไม่ลังเล แต่ก็มีอุปสรรคเล็กน้อยเมื่อแคสไปครั้งแรกเทปที่ใช้บันทึกกลับไม่มีเสียงเลยทำให้ต้องกลับไปแคสใหม่อีกครั้ง คราวนี้ผ่านฉลุย
นี่จึงเป็นที่มา ซึ่งทำให้หลายคนได้เห็นหนูน้อยตากลมแป๋วคนนี้ในบทของ "กะทิ" นั่นเอง
สำหรับ "ความสุขของกระทิ" เป็นเรื่องราวของกะทิ เด็กหญิงวัย 9 ขวบ ที่ผูกพันกับแม่ แม้ว่าจะแยกกันไปตั้งแต่เธอมีอายุเพียง 5 ขวบ แต่ด้วยเพราะความร่าเริง สดใส มองโลกในแง่ดี ถึงแม้จะไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ ทำให้เธอได้รับความรักรายรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นทั้งตา-ยาย และยังมีลุงตอง น้าฎา น้ากันต์ คอยมอบความรักให้เด็กหญิงอย่างเต็มที่ กะทิ จึงไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองขาดอะไรไป
"เด็กหญิงกะทิ" เป็นเด็กช่างคิดกว่าวัย ที่เติบโตมากับตาและยาย นิสัยร่าเริงตามประสาเด็กที่มองโลกในแง่บวก แต่ก็มีความกล้าหาญอยู่ในตัวเอง ซึ่งน้องพลอยบอกกับมติชนออนไลน์ว่า นิสัยของกะทิคล้ายกับนิสัยของตัวเองมาก จะต่างกันก็เพียงแค่น้องพลอยมีพ่อแม่อยู่ด้วยครบ แต่กะทิไม่มี
ฉากที่ยากที่สุด...
น้องพลอยเปิดใจถึงการเล่นฉากร้องไห้ที่กะทิเสียใจเรื่องแม่ และต้องร้องไห้อย่างหนักเป็นครั้งแรก แต่ไม่อยากให้ใครเห็น สิ่งที่ทำได้ก็คือวิ่งไปเรื่อยๆ ฉากนี้น้องพลอยต้องวิ่งไปร้องไห้ไป และต้องปล่อยเสียงออกมาตามอารมณ์
"พี่เจน (ผู้กำกับ) สอนให้น้องพลอยตะโกนค่ะ ซึ่งพี่เจนเป็นคนเสียงดัง พี่เขาก็บอกว่าร้องไห้เลย ร้องออกมาดังๆ" น้องพลอยกล่าวอย่างสนุกสนาน
เพื่อนใหม่...
ตอนถ่ายทำภาพยนตร์น้องพลอยต้องย้ายมาเรียนในโรงเรียนชัยยานุสรณ์ แต่คุณครูและเพื่อนในโรงเรียนใหม่ก็คอยช่วยเหลือเรื่องเรียน เพราะกลัวว่าจะเรียนไม่ทัน และไม่อยากให้น้องพลอยเครียดกับการอยู่ในโรงเรียนใหม่ ซึ่งเจ้าตัวก็ได้เผยในเรื่องนี้ว่า อยู่ในโรงเรียนใหม่ไม่มีปัญหาอะไรยังคงสนุกสนานได้ตามนิสัยของตัวเองที่เป็นคนร่าเริง และยังมีพี่ๆที่เล่นหนังด้วยกันที่น้องพลอยบอกว่า
"ตอนที่ถ่ายทำภาพยนตร์ รู้สึกสนุกมาก พี่ๆ น่ารักทุกคนเลยค่ะ ทุกคนใจดีกับน้องพลอยหมดเลย"
ชีวิตจริง...ของเด็กหญิงพลอย
พลอยเป็นพี่สาวคนโต จากจำนวนพี่น้อง 3 คน ความสามารถพิเศษคือ การเล่นห่วงฮูลลาฮุป อาหารที่ชอบหม่ำที่สุด ไอศกรีมและแอปเปิ้ล แต่ต้องเป็นลูกเล็กเท่านั้น การได้ไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น และหัวหิน ประเทศไทย คือสิ่งที่ใฝ่ฝัน ดาราสาวไอด้อลสุดโปรดในดวงใจ ได้แก่ "แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์ " และ "นุ่น-วรนุช วงศ์สวรรค์" ชีวิตผ่าน...รั้วโรงเรียน
พลอยบอกว่า เธอรักเรียนและรักเล่นควบคู่กันไป แต่ก็กระซิบมาว่า แอบเอนเอียงไปทางเล่นเล็กน้อย เมื่อมีเวลาว่าง ก็จะหยิบหนังสือการ์ตูนที่แฝงความรู้และข้อคิดขึ้นมาอ่าน แต่ถ้าหากมีเวลามากหน่อยหนูน้อยจะเลือกเล่นกีฬาโปรด เช่น แบดมินตัน ว่ายน้ำ และเต้นฮูลลาฮุป แทน
ง่ายๆ แบบพลอย
สไตล์การแต่งตัวก็แค่เสื้อยืดตัวหนึ่ง กับกางเกงเอี๊ยมขาสั้น ก็สามารถออกจากบ้านได้อย่างมั่นใจ หรือไม่ก็แค่กางเกงขาสั้นธรรมดา ส่วนเสื้อก็ยังคงเป็นเสื้อยืดเหมือนเดิม เรียกได้ว่า ชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นนั้น เป็นคอนเซ็ปต์ประจำตัวน้องพลอยเลยทีเดียว
ท้ายที่สุด น้องพลอย ฝากให้ทุกคนไปร่วมเก็บความประทับใจกับภาพยนตร์ "ความสุขของกระทิ" กันให้ได้ และแนะนำให้ไปกับครอบครัว เพราะหนังเรื่องนี้เกี่ยวกับครอบครัวโดยตรง หลายคนดูแล้วอาจรักคนที่อยู่ใกล้ตัวแต่สำคัญมากที่สุดในชีวิตเรามากขึ้นก็เป็นได้
ชมความน่ารักของน้องพลอยในบทของเด็กหญิงกะทิ จากภาพยนตร์เรื่อง "ความสุขของกะทิ" ได้ทุกโรงภาพยนตร์ เริ่มฉาย 8 มกราคม 2552 ต้อนรับวันเด็กในปี 2552 และอาจจะได้เห็นเธออีกครั้งในภาคต่อ กับเรื่อง "ตามหาพระจันทร์" ซึ่งพลอย บอกกับมติชนออนไลน์ว่า เธออยากจะเล่นมาก ติดตามผลงานให้ดี เชื่อว่า ความน่ารัก และสดใสของเธอ จะเรียกคะแนนนิยมจากผู้ชมให้เธอโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงไปได้อีกนานเลยล่ะ คอยดูแล้วกัน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก 
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก มติชนออนไลน์ และ สหมงคลฟิล์ม
