ถึงคราว หมอกฤษฎ์ ปล่อยโฮ อยากขอโทษ ลีเดีย

หมอกฤษฎ์ คอนเฟิร์ม และ ลิเดีย

หมอกฤษฎ์ คอนเฟิร์ม

 

อยากขอโทษ ลีเดีย หมอกฤษฎ์ ยอมรับเป็นคนปากหมา

          หลังถูกดูหมิ่นศักดิ์ศรีอย่างร้ายแรงในชีวิตลูกผู้หญิงเพราะ "หมอกฤษฎ์ คอนเฟิร์ม" หมอดูหนุ่มได้กล่าวคำทำนายทายทักผ่านสื่อว่า นักร้องสาว "ลีเดีย-ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา" เกิดอาการ "เบนโล" ทั้งที่ยังเป็นสาวโสดซิงๆ ร้อนถึงนางศันสนีย์ วนะไชยเกียรติ มารดาของนักร้องสาว ต้องลุกขึ้นมาทำหน้าที่แม่ปกป้องเกียรติยศลูกสาว ด้วยการบุกฉะหมอกฤษฎ์กลางงานที่ห้างพารากอน ดังที่เป็นข่าวครึกโครมไปทั่วประเทศ และนักร้องสาวยังเดินหน้าเรื่องกฎหมาย โดยได้ให้ทนายความยื่นเรื่องฟ้องศาลเรียกร้องค่าเสียหายจากหมอดูหนุ่ม เป็นเงินถึง 50 ล้านบาทนั้น 

          ที่สำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เมื่อบ่ายวันที่ 17 ธันวาคม นักร้องสาวเจ้าแม่อาร์แอนด์บี "ลีเดีย-ศรัณย์รัชต์" ได้เดินทางมาเปิดใจอย่างหมดเปลือกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังมีกระแสข่าวว่าหมอกฤษฎ์จะฟ้องกลับ โดยลีเดีย กล่าวว่า คิดว่าไม่ได้ทำอะไรผิด ใครไม่ดีกับเดียก่อน ก็ต้องสู้กลับอยู่แล้ว เพราะเขารังแกเดียมาก ถ้าเขาจะฟ้องเดีย ไม่รู้ว่าเขาจะฟ้องเดียข้อหาอะไร ที่ว่าหมอกฤษฎ์เตรียมไปแจ้งความว่า มีคนเสียงคล้ายแมทธิวโทรศัพท์มาขู่ฆ่าแฟนเขา ไร้สาระมาก เบอร์โทรศัพท์หมอกฤษฎ์ยังไม่เคยคิดจะมี เพราะไม่อยากฟังเสียงเขาอยู่แล้ว ยิ่งเรื่องโทรศัพท์ไปขู่คงไม่ใช่เราแน่ ครอบครัวเดียจะขู่หรือทำอะไร เขาคงไม่ออกหน้าให้สื่อเห็นขนาดนั้น เขาก็อ้างได้หมด เหมือนกับที่เขาคอนเฟิร์ม ก็คอนเฟิร์มได้หมด ในเมื่อเราไม่ได้ทำ คุณก็ไม่มีหลักฐาน จะฟ้องเราได้อย่างไร เราไม่มีอะไรที่จะให้เขาฟ้องได้เลย ถ้าฟ้องจริงๆ ค่อยว่ากัน

          ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้คุยกับคุณพ่อคุณแม่หรือไม่ว่าคดีจะจบอย่างไร ถ้าเขาจะกราบเท้าหรือขอโทษอย่างอื่น นักร้องสาวตอบว่า เดียก็ถามแม่ว่า ถ้าเขามาขอโทษและยอมรับว่าตัวเองผิดจะทำอย่างไร แม่บอกว่าพูดอะไรตอนนี้มันสายไปหรือเปล่า เพราะที่งานนั้นเขาก็ไม่ขอโทษ ถ้าขอโทษตอนนั้น แม่บอกว่าเขาก็ยังเป็นลูกผู้ชายที่ยอมรับว่าตัวเองผิด แต่ตอนนี้คงต้องดำเนินการต่อไป เพราะขนาดแม่ไปตรงนั้นแล้ว พอลงจากเวทีคุณก็ยังคอนเฟิร์มเหมือนเดิม วันนี้ยังบอกว่าจะแจ้งความและยังปล่อยข่าวว่าแมทธิวโทรศัพท์ไปขู่ มันเลยยังไม่จบ เขายังรู้สึกว่าตัวเองไม่ผิด ทำนายตามเกณฑ์ แต่เราทนทุกข์มานานมากแล้ว แต่ถ้ามันไม่ถึงที่สุดจริงๆ คงไม่ออกมา เมื่อวานหมอลักษณ์โทรศัพท์มาบอกว่า ดูดวงให้เดียแล้ว เพราะเดียเคยเจอหมอลักษณ์บอกว่าคุณไม่ได้มีเกณฑ์ท้อง ดูตามเกณฑ์เดียเป็นคนมีลูกยากด้วยซ้ำ ดาวปุตตะที่เค้าพูดถึงไม่ได้หมายถึงว่าลูกอย่างเดียว เกี่ยวกับงาน เค้าบอกว่าเดียเป็นคนบ้างาน   

          ลีเดียยังกล่าวอีกว่า หมอกฤษฎ์บอกว่าไม่มีเงินให้ มีแต่ตัว เดียไม่เอาหรอก ตัวไปอยู่ในคุกดีกว่า เดียไม่รู้ว่าเขาจะมีเงินหรือไม่มี หรือจะรับผิดชอบอย่างไร แต่เมื่อเขาพูดมาแล้ว คำพูดเขาทำความเสียหายให้ครอบครัวเดียแล้วต้องรับผิดชอบ มีผู้ใหญ่บอกว่าจะไกล่เกลี่ย แต่เราคงไม่แล้ว ที่ผ่านมาเขามีโอกาสยอมรับว่าทายผิดไปแล้ว ขอโทษ แต่เขาไม่ออกมา แถมยังกล่าวหาซ้ำเติม ฝากไปถึงดาราคนอื่นที่ตกอยู่ในสถานการณ์เหมือนเรา ที่สำคัญเดียขอขอบคุณแม่ที่ออกมาปกป้อง อยากเป็นตัวแทนของคนที่ถูกกระทำทุกคนว่า มีคนออกมาปกป้องแล้ว คราวหน้าถ้าเขาจะทำแบบนี้ต้องระวังและมีจรรยาบรรณมากกว่านี้ในการทำหน้าที่

          ลีเดียยังกล่าวเปิดใจด้วยว่า ส่วนมากแล้วเดียจะไม่ร้องไห้เสียน้ำตากับเรื่องที่เป็นขี้ปากคน จะไม่อ่อนไหวขนาดนั้น แต่ที่ผ่านมามันแย่จริงๆ เมื่อวันที่ไปออกรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ที่ร้องไห้เหมือนเราถูกจี้จุดพอดี ที่ผ่านมาอดทนมานานจนมันไม่ไหวแล้ว ตอนนี้หวังว่าคนจะเข้าใจเรามากขึ้น รู้สึกว่าเราถูกดึงเข้ามาในเกมการเมือง คงเป็นเพราะกระแสการเมืองแรง แต่เดียรู้จักเคารพท่านทักษิณเท่านี้ เรื่องอื่นเดียไม่รู้ มั่นใจเพราะเรายืนอยู่บนความจริงเสมอ ไม่น่าจะมีใครทำอะไรเราได้ ความจริงก็คือความจริงวันยังค่ำ คำคอนเฟิร์มของหมอกฤษฎ์น่าเชื่อถือแค่ไหน เพราะบางทีนักข่าวถาม หมอกฤษฎ์ก็ตอบมาเลยโดยไม่ได้ดูจากอะไร ไม่รู้เค้าเอามาจากไหน วันเดือนปีเกิด เดียก็ไม่เคยเอาไปให้เค้าดู ไม่ต้องใช้หลักการอะไร ฟังข่าวเดียก็คอนเฟิร์มแล้ว 

          ทางด้านหมอกฤษฎ์ คอนเฟิร์ม คู่กรณีของลีเดียนั้น หลังจากมีกระแสข่าวว่า มีโทรศัพท์จากชายลึกลับขู่ฆ่านั้น มีรายงานข่าวว่า หมอกฤษฎ์ได้นำเรื่องไปปรึกษานางลีนา จังจรรจา หรือลีน่า จัง ให้มาเป็นทนายดูแลคดีเพื่อฟ้องกลับแมทธิว ดีน แฟนหนุ่มของลีเดีย โดยกล่าวหาว่าเสียงลึกลับนั้นน่าจะเป็นเสียงของแมทธิว ดีน และหมอกฤษฎ์ได้มีการนัดหมายลีน่า จัง ให้ไปเจอกันที่กองปราบปรามในเวลา 11.00 น. วันที่ 17 ธันวาคม เพื่อเข้าแจ้งความ แต่เมื่อถึงเวลาปรากฏว่าหมอกฤษฎ์ไม่มาตามนัด ปล่อยให้ลีน่า จัง รอเก้อและยังไม่ยอมรับโทรศัพท์อีกด้วย 

          ขณะเดียวกัน ในช่วงเย็นวันเดียวกันนี้ หมอกฤษฎ์ มีคิวต้องไปออกรายการสยามทูเดย์ ซึ่งเป็นรายการสด ออกอากาศทางช่อง 5 ผู้สื่อข่าวไปดักรอสัมภาษณ์ แต่หมอกฤษฎ์กลับยกเลิกปฏิเสธไม่มาออกรายการ ทำให้เจ้าของรายการ คือ "วัฒน์-ณวัฒน์ อิสรไกรศีล" แสดงความไม่พอใจหมอกฤษฎ์ เปลี่ยนเป็นมาให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ในรายการแทน โดยระบุว่าจะขอพูดถึงเรื่องข่าวลีเดียเป็นครั้งสุดท้าย 

          ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้หมอกฤษฎ์ ได้ไปอัดรายการ "วู้ดดี้เกิดมาคุย" โดยพิธีกรรายการคือวู้ดดี้ มิลินทจินดา ซักถามถึงเหตุการณ์ประเด็นร้อนที่ตกเป็นข่าวครึกโครมว่าเกิดอะไรขึ้น หมอกฤษฎ์ ตอบว่า พิธีกรต้องเชิญตนไปพูดบนเวที ถามอะไรตนก็ตอบไปอย่างนั้น ตอนเข้าไปในงานมีนักข่าวกรูกันเข้ามาถามถึงเรื่องที่ทำนายลีเดีย แต่ตนไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใครและมีทีมงานพาตนเข้าไปหลังเวทีเพราะยังไม่ถึงคิว ก็มีพิธีกร 2 คน มาเรียกตนขึ้นไปบนเวที แต่ตนไม่ได้ออกไปเพราะยังไม่ถึงเวลา และต้องหลบเพราะไม่อยากจะตอบคำถามเรื่องนี้ จนพิธีกรให้คนเดินมาคว้าตัวขึ้นไปบนเวที ก็เห็นแม่ลีเดียขึ้นมาก่อนแล้ว ตอนแรกไม่ทราบว่าเป็นแม่ลีเดีย พอดีพิธีกรถามว่าตนไปทายว่าลีเดียท้องกับใคร ตนบอกว่าไม่ได้ทาย คำทำนายของตนมีเพียงเท่านี้ไม่ได้ท้องกับใคร ไม่มีพ่อ ถ้าตนพูดอย่างนั้นเหมือนโคตรหมาเลย เมื่อหันมาเจอแม่ลีเดียก็ตกใจและเสียใจจริงๆ ไม่ได้กลัวแต่รู้สึกเสียใจ ตนอยากให้มันจบโดยการขอโทษแม่ลีเดีย ที่ตนทำไปเพราะสื่อมวลชนมาสัมภาษณ์ ตอนนั้นแม่ลีเดียถามตนว่า ใครสั่งให้ทำนาย ได้ตอบว่ามีนักข่าวถามก็ต้องทายไป 

          หมอกฤษฎ์กล่าวอีกว่า รู้สึกเสียใจที่คำทำนายของตนไปทำร้ายลีเดียได้ขนาดนี้เชียวหรือ และมานั่งคิดดูว่าได้ทำนายอะไรไปบ้าง สุดท้ายตนก็รู้สึกว่าไม่ใช่งานของตน แต่ก็ตั้งใจว่าจะขอโทษแม่ลีเดียเพื่อให้งานมันจบ วู้ดดี้ถามอีกว่า ตอนที่แม่ลีเดียสั่งให้กราบเท้าขอโทษ ตอนนั้นคิดอย่างไร หมอกฤษฎ์ตอบว่าคิดว่าอยากกราบขออภัย รู้สึกว่าตัวเองผิดแล้วเขาบอกให้กราบเท้า ก็เลยฝากไมโครโฟนกับนักข่าวไว้และตั้งใจจะกราบ แต่ไม่ใช่กราบเท้า อยากแสดงความรับผิดชอบที่ทำให้ลีเดียเสียหาย แต่ก็มีคนมาแยกตัวไปก่อน 

          หมอดูหนุ่มยังกล่าวถึงกระแสข่าวที่ว่า มีคนโทรศัพท์มาขู่ฆ่าว่า ไม่ใช่ขู่ฆ่าแต่ขู่จะทำร้าย ทว่าคนที่รับโทรศัพท์ไม่ใช่ตนแต่เป็นแฟนสาวและมารดา มันเป็นเรื่องของมือที่ 3 ตนอยากให้ทุกอย่างลงที่ตนคนเดียว ส่วนเรื่องฟ้องร้องกำลังรอรับหมายศาลอยู่ ส่วนเรื่องเงิน 50 ล้านที่เรียกร้องมาตนไม่มีจ่าย แต่สิ่งที่ทำได้คือก้มหน้ารับกับมันไป รู้ตัวว่าตนทำให้คนอื่นเดือดร้อนแต่ไม่คิดว่าจะรุนแรงขนาดนี้ ถ้าเจอลีเดียก็อยากขอโทษทั้งที่ตนไม่ได้ตั้งใจทำนายไปอย่างนั้น ตอนนี้รู้สึกแย่มากและยิ่งแย่ที่เห็นลีเดียร้องไห้ มันเหมือนตนตกนรกทั้งเป็น ไม่มีใครรู้ว่าพอความดังเข้ามาสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาไม่ใช่สิ่งสวยงามและดีเสมอ ต้องทนรับกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น คิดไม่ถึงว่าชีวิตนี้จะต้องมาเจอคำทำนายของตนส่งผลกระทบมากมายขนาดนี้ ตนนอนไม่หลับและไม่คิดสร้างภาพร้องไห้เพราะตนไม่ใช่นักแสดง อยากขอโทษครอบครัวลีเดียและตัวลีเดียรวมถึงแม่ลีเดีย ที่ต้องเดือดร้อนจนต้องออกมาปกป้องลูกแบบนี้ ได้ดูดวงตัวเองบ้างเหมือนกันแต่ไม่ได้ดูลึกขนาดนี้ เป็นกรรมจากคำพูดก็ต้องยอมรับมัน เพราะตนเป็นคนพูดอะไรไม่ไตร่ตรอง ที่ผ่านมาตั้งแต่เด็กตนเป็นคนปากหมา และจะรับผิดชอบในสิ่งที่ตนพูด อย่างไรก็แล้วแต่ ตนต้องกลับมาทำงานต่อ เพราะยังมีคนอีกหลายร้อยคนรอคิวดูดวงกับตนไว้ ตอนนี้ขอตั้งสติทำสมาธิก่อน แล้วจะกลับมาดูดวงต่อ



ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ และหนังสือพิมพ์เดลินิวส์

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ถึงคราว หมอกฤษฎ์ ปล่อยโฮ อยากขอโทษ ลีเดีย อัปเดตล่าสุด 19 ธันวาคม 2551 เวลา 08:29:12 104,916 อ่าน
TOP
x close