"กระทรวงพาณิชย์" ให้ของขวัญปีใหม่คนไทย "15 มกราคม" ลดราคาแก๊สหุงต้มถังละ 5 บาท หลังกรมการค้าภายในถกกับโรงงานบรรจุและร้านขายแก๊ส สั่งลดราคาแก๊สถัง 15 กก. จาก 290 บาท เหลือ 285 บาท ต้นเหตุมาจากราคาน้ำมันลดฮวบ ขณะที่ "เอกชน" อัดรัฐบายนโยบายขึ้นราคา "แอลพีจี" ทำชาวบ้านเดือดร้อน วอน "รัฐบาลมาร์ค 1" ยกเลิกผลักภาระให้ประชาชน
เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม นางวัชรี วิมุกตายน รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังหารือกับโรงบรรจุก๊าซและร้านค้าจำหน่ายก๊าซหุงต้มหรือแก๊สหุงต้มในครัวเรือนว่า ผู้ประกอบการเตรียมปรับลดค่าบริการขนส่งก๊าซหุงต้มถัง 15 กก. ระยะทางไม่เกิน 5 กิโลเมตร ลงถังละ 5 บาท จาก 15 บาท ลดเหลือ 10 บาท โดยมีผลตั้งแต่ 15 มกราคม 52 เป็นต้นไป เพื่อให้สะท้อนกับต้นทุนค่าขนส่งที่แท้จริง ที่ขณะนี้ราคาน้ำมันปรับลดลงจากลิตรละ 45 บาท เหลือ 20 บาทแล้ว ส่งผลให้ราคาขายก๊าซหุง ต้มถัง 15 กก. ในเขตกรุงเทพฯ จะลดจาก 290 บาท เหลือ 285 บาท ส่วนที่ต้องเริ่มในเดือนหน้าเพราะระบบการค้าได้ตกลงราคาไว้ล่วงหน้า รวมทั้งมีสต๊อกต้นทุนเดิม
ทั้งนี้หากถึงเวลากำหนด ผู้ประกอบการยังเพิกเฉยไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงที่ให้ไว้ ทาง กรมฯ จะดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ มาตรา 29 คือ ขายเกินราคา มีโทษปรับ 140,000 บาท จำคุก 7 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ อย่างไรก็ตาม การลดค่าขนส่งจะไม่มีผล ต่อราคาอาหารสำเร็จรูป เพราะมีส่วนเกี่ยวข้องกับต้นทุนผลิตเพียงเล็กน้อย นอกจากนี้ กรมฯ เตรียมส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสต๊อก และสำรวจการจำหน่ายก๊าซเอ็นจีวี และแอลพีจีทั่วประเทศ ว่ามีการกักตุน หรือปฏิเสธการขายหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการกักตุน และการขาดแคลน หลังรัฐบาลได้อนุมัติขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวีต้นปีหน้า
ขณะที่ นายชิษณุพงศ์ รุ่งโรจน์งามเจริญ นายกสมาคมก๊าซปิโตรเลียมหรือก๊าซหุงต้ม กล่าวว่า กลุ่มร้านค้าก๊าซหุงต้มจะกลับไปหารือกับโรงบรรจุ และผู้ค้าตามมาตรา 7 อีกครั้ง เพื่อหาข้อสรุปในการลดค่าขนส่งในวันที่ 15 ม.ค.นี้ เพราะค่าขนส่งที่เคยปรับขึ้นก่อนหน้านี้ 5 บาท ต้องแบ่งจ่ายให้โรงบรรจุ 2 บาท โดยหากราคาน้ำมันไม่ผันผวนเกินไป คาดว่าจะลดค่าขนส่งได้ทัน แต่หากผันผวนมากอาจต้องหารือกับกรมการค้าภายในใหม่ เพราะที่ผ่านมาผู้ประกอบการแบกรับภาระต้นทุนมานาน หลังจากราคาน้ำมันเคยเพิ่มสูงถึงลิตรละ 45 บาท "ตอนนี้ราคาน้ำมันลดลงเหลือ 20 กว่าบาท ผู้ประกอบการก็ยินดีลดราคาให้ เพราะต่ำกว่า เพดานค่าขนส่งที่กรมการค้าภายในเคยอนุญาต ก่อนหน้านี้ที่น้ำมันลิตรละ 25 บาท แต่ขั้นตอนการปรับลดอาจต้องใช้เวลาบ้าง เนื่องจากมีผู้เกี่ยวข้องหลายส่วน"
นายชิษณุพงศ์ ยังกล่าวเรียกร้องให้รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายก รัฐมนตรี ทบทวนนโยบายก๊าซแอลพีจี 2 ราคาใหม่ และไม่ควรปรับขึ้นก๊าซหุงต้มในช่วงนี้ เพราะราคาแอลพีจีในตลาดโลกลดลงมาก จนต่ำกว่าราคาขายขั้นต่ำในประเทศแล้ว จากก่อนหน้านี้ที่เคยพุ่งถึง 900 เหรียญสหรัฐต่อตัน แต่ขณะนี้ลดเหลือ 330 เหรียญฯ เท่านั้น ต่ำกว่าราคาเพดานขายปลีกในประเทศที่ 340 เหรียญฯ อีก ดังนั้นรัฐบาลไม่ควรขึ้นราคาแอลพีจีในช่วงที่ราคาตลาดโลกลดลง เพราะเป็นการผลักภาระให้ประชาชนเดือดร้อน
"ที่ปตท. เคยอ้างว่า ขาดทุนจากการแบกภาระส่วนต่างของก๊าซแอลพีจีในประเทศ กับราคาตลาดโลกสูงถึง 7,000 ล้านบาท แต่ผลที่ขาดทุนส่วนใหญ่มาจากการใช้ของภาคขนส่งและอุตสาหกรรม ที่หันมาใช้แอลพีจีแทนน้ำมันเพิ่มขึ้นมาก ขณะที่อัตราการใช้ภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยแค่ 5% เท่านั้น ฉะนั้นรัฐบาลไม่ควรคิดเหมาขึ้นราคาพร้อมกัน โดยผลักภาระให้ผู้บริโภคภาคครัวเรือนเข้าไปรวมด้วย ทางที่ดีควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด หรือเปิดให้มีผู้ค้าตามมาตรา 7 เป็นอิสระ" นายกสมาคมก๊าซปิโตรเลียมกล่าวทิ้งท้าย
ขอขอบคุณข้อมูลและภภาพประกอบจาก
