x close

ทั่วสารทิศแห่เข้ากรุง สายเหนือ-อีสาน ส่ออัมพาต


          เผยตั๋วรถไฟ-รถทัวร์ถูกจองเต็มถึง 6 มกราคม ประชาชนตกค้างอื้อในหลายจังหวัด ปภ.สรุปยอดตาย 300 ศพ บาดเจ็บร่วม 4,000

          บรรยากาศการเดินทางกลับกรุงเทพฯ ของประชาชนหลังกลับภูมิลำเนาเพื่อฉลองเทศกาลปีใหม่ เมื่อวันที่ 4 มกราคม ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารทั้งสองแห่งของ จ.นครราชสีมา ประชาชนที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่ภาคอีสานที่ต้องการเดินทางเข้ากรุงเทพฯ และจังหวัดอื่นๆ โดยประชาชนหลายหมื่นคนต่างมารอต่อคิวเพื่อซื้อตั๋วขึ้นรถโดยสาร ส่งผลให้สถานีขนส่งแน่นขนัด เจ้าหน้าที่ต้องเสริมเที่ยวรถรองรับความต้องการของประชาชนที่จะเดินทางกลับจากเดิม 200 เที่ยว เป็น 300 เที่ยวต่อวัน พร้อมเสริมรถไม่ประจำทางอีก 100 เที่ยวต่อวัน 

          นายมนัส รุ่งปิ่น นายสถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ขณะนี้สถานีได้ติดตั้งเต็นท์และเก้าอี้ไว้อีก 3,000 ตัว เพื่อรองรับประชาชนที่มารอรถโดยสารพร้อมน้ำดื่มและหน่วยปฐมพยาบาล โดยปัญหาส่วนใหญ่ที่พบในขณะนี้คือ การหยิบกระเป๋าสลับกันเองระหว่างผู้โดยสาร ส่วนปัญหาอื่นๆ เช่น การจำหน่ายตั๋วเกินราคา การขโมยทรัพย์สินผู้โดยสารพบน้อยมาก เนื่องจากสถานีตรวจสอบอย่างเข้มงวด และประสานตำรวจและทหารเข้ามาคอยดูแลความเรียบร้อยตลอด 24 ชั่วโมง 

          ที่ จ.เพชรบูรณ์ ประชาชนจำนวนมากไปขึ้นรถโดยสารที่สถานีขนส่ง ทำให้รถไม่เพียงพอ แต่ละเที่ยวรถเต็มทุกที่นั่ง แม้ว่าจะมีการจัดรถเสริมแต่ก็ยังไม่เพียงพอ เนื่องจากประชาชนที่ต้องการเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในวันหยุดวันสุดท้าย บางรายเกรงว่าจะไปทำงานไม่ทันในวันที่ 5 มกราคม ต้องนั่งรถตู้ที่มาจอดรอบริการกว่า 20 คัน ซึ่งค่าโดยสารแพงกว่าค่าโดยสารรถประจำทางประมาณ 70 บาท

รถไฟไม่พอขนคนเข้ากรุง 

          ส่วนที่สถานีรถไฟศรีสะเกษ มีผู้โดยสารมารอขึ้นรถไฟกันแน่นขนัดไปหมด ทั้งหอบลูกจูงหลาน แบกกระสอบข้าวสาร รอขึ้นรถไฟฟรีที่มีการเสริมขบวนมาเพิ่มในช่วงขาล่องวันละ 4 ขบวน ในสายอุบลราชธานี-กรุงเทพฯ ผ่าน จ.ศรีสะเกษ ซึ่งถือว่ายังเป็นช่วงต้นทาง แต่ปรากฏว่าขบวนรถไฟเต็มมาตั้งแต่ต้นทางแล้ว ทำให้ผู้โดยสารส่วนหนึ่งไม่สามารถขึ้นรถไฟได้ต้องรอขบวนถัดไป 

          นายวิเชียร เสือกลั่น นายสถานีรถไฟศรีสะเกษ กล่าวว่า การรถไฟได้เพิ่มขบวนรถไฟจากปกติเป็นวันละ 4 ขบวน ขบวนละ 14 ตู้โดยสาร รับส่งผู้โดยสารขาล่องจากอุบลราชธานีปลายทางที่กรุงเทพฯ ซึ่งในแต่ละขบวนไม่สามารถลากตู้โดยสารยาวมากนัก เนื่องมาจากหัวรถจักรที่มีสภาพเก่ามาก หัวรถจักรที่ใหม่สุดขณะนี้มีอายุ 20 ปีแล้ว นอกจากนี้ยังกำชับให้ผู้โดยสารไปได้เฉพาะเต็มตู้เท่านั้น ห้ามขึ้นหลังคาขบวนรถ เพราะจะเกิดอันตรายได้

จองตั๋วเต็มถึง 6 มกราคม 

          ด้านนายสุเทพ นิติวัฒนานนท์ ขนส่งจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ขณะนี้บรรยากาศในสถานีขนส่งมีผู้โดยสารเข้ามาใช้บริการกันอย่างหนาแน่น โดยประชาชนเริ่มเดินทางกลับกว่าครึ่ง ส่วนใหญ่จะเลือกเดินทางรถโดยสารประจำทาง เนื่องจากราคาประหยัด มีความสะดวกสบาย ดังนั้น เพื่อเป็นการบริการประชาชนจึงมีการเพิ่มเที่ยวรถขากลับ เพื่อรับส่งผู้โดยสารกลับไปทำงานเป็น 250 เที่ยวต่อวัน จากปกติ 150 เที่ยวต่อวัน โดยเป้าหมายจะอยู่ที่กรุงเทพฯ พระนครศรีอยุธยา และระยอง 

          "แต่จากการสอบถามบริษัทเดินรถของเอกชนหลายแห่งพบว่า ตั๋วรถถูกจองเต็มไปจนถึงวันที่ 6  มกราคม แต่ขนส่งจังหวัดกาฬสินธุ์ก็มั่นใจว่ารถที่จะบริการประชาชนจะมีเพียงพออย่างแน่นอน พร้อมเน้นการตรวจสุขภาพพนักงานขับรถ เน้นตรวจวัดแอลกอฮอล์ และช่วงเวลาทำงานที่จะไม่ให้เกินวันละ 8 ชั่วโมงเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร" นายสุเทพกล่าว

แห่ขึ้น บขส.เชียงใหม่ 2.2 หมื่น 

          นายชูชาติ กีฬาแปง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวระหว่างการตรวจเยี่ยมสถานีขนส่งอาเขตเชียงใหม่ ว่า บรรยากาศการเดินทางกลับของนักท่องเที่ยวเป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากเป็นวันสุดท้ายของเทศกาลปีใหม่ ซึ่งก็ได้กำชับเจ้าหน้าที่เรื่องความปลอดภัยในการขับขี่ การอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสาร การตรวจเช็กสภาพรถให้มีความพร้อมก่อนออกเดินทาง รวมถึงการเตรียมพร้อมของพนักงานขับรถในกรณีที่ขับรถเกิน 400 กิโลเมตร ต้องมีการผลัดเปลี่ยนเพื่อความปลอดภัย ซึ่งมาตรฐานของขนส่งเชียงใหม่จะเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นอันดับ 1 

          ด้านนายอัฌษไธค์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผู้อำนวยการสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า คาดว่าจะมีประชาชนใช้บริการไม่ต่ำกว่า 2.2 หมื่นคน ซึ่งลดลงจากวานนี้ที่มีจำนวน 2.4 หมื่นคน เนื่องจากนักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งทยอยเดินทางกลับก่อนหน้านี้แล้ว อย่างไรก็ตาม จะมีการเสริมเที่ยวรถเป็นวันละ 150 เที่ยว ในเส้นทางเชียงใหม่-กรุงเทพฯ จากเดิมปกติที่ให้บริการวันละ 80 เที่ยว เพื่อป้องกันนักท่องเที่ยวตกค้างในพื้นที่

รถไฟฟรีแน่น
 

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรถไฟฟรีบริการประชาชนขบวนที่ 202 พิษณุโลกปลายทางกรุงเทพฯ โดยออกจากพิษณุโลกเวลา 06.05 น. วันที่ 4 มกราคม เป็นรถไฟฟรีขบวนเดียวที่มีต้นทางที่สถานีรถไฟพิษณุโลก ทำให้ประชาชนมารอเข้าคิวรับตั๋วรถไฟฟรี ตั้งแต่เวลา 24.00 น.เพื่อเป็นการลดค่าครองชีพ และประชาชนที่จะเดินทางกลับไปทำงานที่กรุงเทพฯ ในวันพรุ่งนี้ (5 มกราคม) 

          ขณะที่ประชาชนหันมาใช้บริการรถไฟฟรีเป็นจำนวนมาก ต้องเบียดเสียดและหากขึ้นที่ไม่ใช่สถานีต้นทางส่วนใหญ่จะไม่มีที่นั่ง แม้วันนี้การรถไฟแห่งประเทศไทยจัดรถไฟฟรี 8 โบกี้ แต่ก็ไม่เพียงพอให้บริการ ประชาชนจึงอยากให้การรถไฟเพิ่มบริการรถไฟฟรีในช่วงวัดหยุดให้มากขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกและเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำให้ประชาชนอีกด้วย

รถแน่น "มิตรภาพ" 

          ส่วนสภาพการจราจรบนถนนมิตรภาพขาออกจาก จ.นครราชสีมา มุ่งหน้าสู่ จ.สระบุรี ปริมาณรถบนท้องถนนหนาแน่น แต่ยังสามารถเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ แต่ก็มีติดขัดบ้างในบางช่วง โดยเฉพาะทางขึ้นเนินที่ ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา อ.มวกเหล็ก อ.ทับกวาง และ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี มีรถมากเป็นพิเศษทำให้ปริมาณรถสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับถนนมิตรภาพฝั่งขาออกตัวเมืองนครราชสีมา บริเวณถนนบายพาสมุ่งหน้าเข้าสู่สระบุรี-กรุงเทพฯ ปริมาณรถเริ่มหนาแน่นและติดขัด

ถนนสายเอเชียติดหนึบ 

          เมื่อเวลา 15.30 น. การเดินทางกลับบ้านของประชาชนที่เดินทางไปฉลองเทศกาลปีใหม่ตามต่างจังหวัด โดยเฉพาะเส้นทางภาคเหนือบนถนนสายเอเชีย ปรากฏว่ารถยนต์เริ่มมีปริมาณคับคั่งตั้งแต่เมื่อวานนี้ (3 มdik8,) ล่าสุดจนถึงขณะนี้ปริมาณรถยนต์ที่เดินทางมาจากทางภาคเหนือ เพื่อมุ่งหน้าเข้า กทม.ก็ยังคงมีปริมาณหนาแน่น ช่วงเส้นทางเลี่ยงเมือง ต.หนองกรด อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ตำรวจต้องเร่งระบายรถไปตามเส้นทางเลี่ยงเมือง เพื่อไม่ให้รถยนต์วิ่งผ่านตัวเมือง ข้ามสะพานเดชาติวงศ์ เพราะจะทำให้รถติดมากขึ้น แต่ก็ยังมีปริมาณรถสะสมติดขัดยาวเหยียดนับสิบกิโลเมตร ตำรวจต้องทำงานกันอย่างหนักตลอดทั้งคืน 

          นอกจากนี้ยังมีรถที่วิ่งลงมาจากภาคเหนือ จาก จ.กำแพงเพชร ผ่าน จ.นครสวรรค์ แล้วยังมีปริมาณรถที่วิ่งมาจาก จ.พิษณุโลก-พิจิตร-นครสวรรค์ อีกทางหนึ่งที่ต้องผ่านตัวเมืองข้ามสะพานเดชาติวงศ์ เพื่อเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ทำให้ถนนเส้นนครสวรรค์-พิษณุโลก มีสภาพการจราจรไม่แตกต่างกับถนนสีลม หรือสุขุมวิท ช่วงชั่วโมงเร่งด่วน เพราะรถจะวิ่งทำความเร็วไม่ได้ ทำให้รถติดยาวนับสิบกิโลเมตร แถมเกิดอุบัติเหตุรถชนท้ายกันนับสิบๆ คันเป็นช่วงๆ ตำรวจจราจรต้องเร่งแยกรถออกเพื่อระบายรถ

ปภ.สรุปตายแล้ว 300 ศพ 

          เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2552 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2552 ในช่วง 7 วันอันตราย โดยมีนายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ประธานแถลงข่าวสถิติสรุปยอดผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนนสะสม 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2551-3 มกราคม 2552 มีจำนวนอุบัติเหตุเกิดขึ้นรวม 3,161 ครั้ง ผู้เสียชีวิต สะสมรวม 300 คน ผู้บาดเจ็บสะสมรวม 3,396 คน 

          จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงราย 15 คน รองลงมา นครราชสีมา 13 คน โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ สุรินทร์ 101 ครั้ง รองลงมา นครราชสีมา 99 ครั้ง นอกจากนี้จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุดยังคงเป็นนครราชสีมา 119 คน รองลงมา เพชรบูรณ์ 117 คน



ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ทั่วสารทิศแห่เข้ากรุง สายเหนือ-อีสาน ส่ออัมพาต อัปเดตล่าสุด 5 มกราคม 2552 เวลา 11:32:04 11,479 อ่าน
TOP