วันนี้ (5 มกราคม) นายเมธา เมฆารัฐ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนราธิวาส กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.นราธิวาส ว่า ทั้ง 13 อำเภอได้รับผลกระทบน้ำท่วมขัง และมี 4 อำเภอ 45 ตำบล 258 หมู่บ้าน ได้รับผลกระทบค่อนข้างรุนแรง ได้แก่ อ.ระแงะ ซึ่งทางรถไฟขาดจึงเร่งซ่อมแซม ขณะที่รถเร็วสายสุไหงโก-ลกมาได้เพียง จ.ยะลา นอกจากนี้ยังมี อ.สุไหงโก-ลก อ.บาเจาะ น้ำท่วมพื้นที่การเกษตร 2,200 ไร่ และ อ.เมือง ซึ่งประชาชนได้รับผลกระทบจากการดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพ โดยต้องอพยพราษฎรออกจากที่พักอาศัยกว่า 160 คน เพื่อความปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม นายเมธา กล่าวว่า ได้เสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศให้ทั้ง 13 อำเภอ เป็นพื้นที่ประสบภัยเพื่อให้สะดวกในการเข้าไปช่วยเหลือ ส่วนการเปิดการเรียนการสอนนั้น ได้มอบหมายให้แต่ละพื้นที่ดำเนินการตามความเหมาะสม ทั้งนี้ แม้ปริมาณฝนในพื้นที่จะเริ่มลดลงแล้ว แต่ท้องฟ้ายังปิด ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่า ลักษณะเช่นนี้จะเป็นต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 9 มกราคมนี้ จึงสั่งการให้ท้องที่เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุน้ำป่าที่พัดถล่มรางรถไฟ บริเวณหลักกิโลเมตร 1095 1098 บ้านสะโลตราแตะ ต.เฉลิม อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ทำให้พื้นดินใต้ฐานรางรถไฟถูกน้ำพัดหายไป เป็นระยะทางยาวกว่า 100 เมตร รถไฟ 14 ขบวน ไม่สามารถแล่นเข้าออกสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก ถึงสถานียะลา เป็นวันที่ 2 แล้ว ทำให้ผู้โดยสารที่ใช้เป็นประจำในวันนี้ต่างต้องผิดหวัง ต้องหันไปเดินทางด้วยวิธีอื่นแทน โดยผู้ที่ซื้อตั๋วไว้แล้วสามารถคืนตั๋วได้เต็มราคา ผู้ที่จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ต้องไปขึ้นรถที่สถานีรถไฟยะลา หรือชุมทางหาดใหญ่
ส่วนการซ่อมแซมรางรถไฟคนงานพร้อมเครื่องจักรกลหนัก เร่งนำดินและหินมาถมบริเวณที่ถูกน้ำพัดเสียหายอย่างเร่งด่วน แต่คาดว่าวันนี้คงไม่สามารถเสร็จทัน เนื่องจากยังคงมีกระแสน้ำไหลกัดเซาะดิน และมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมบำรุงทาง บริเวณจุดที่รถไฟตกราง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ทำให้วันนี้ขบวนรถไฟสายใต้สามารถวิ่งผ่านได้ตามปกติ แต่สุดทางที่สถานีรถไฟยะลาเท่านั้น โดยที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มีประชาชนมาใช้บริการไม่คึกคัก
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก