Thailand Web Stat

เผยโฉม เฮียขาว เจ้าของ ซานติก้า

เฮียขาว

รถยนต์ เฮียขาว

ซานติก้า

ถ่ายร่วมกับแขกวีไอพี เมื่อครั้งปรับโฉมซานติก้าใหม่ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2550



สรุปข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก มติชนออนไลน์ 

         แม้อาณาจักรซานติก้าผับจะจบสิ้นลงไปแล้วพร้อมกับโศกนาฏกรรมผู้คนถึง 64 ศพ ขณะที่ "เฮียขาว" นายวิสุข เสร็จสวัสดิ์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของซานติก้าผับ ออกมากล่าวขอโทษทั้งน้ำตาแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมให้การช่วยเหลือเหยื่อผู้เสียชีวิต ศพละ 20,000 บาทนั้น ล่าสุดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ยังคงกลายเป็นเหตุการณ์สะเทือนใจที่สร้างความโศกเศร้าให้กับญาติของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ รวมถึงนักเที่ยวที่รอดชีวิตหลังหนีรอดจากเงื้อมมือมัจจุราชมาได้

        อย่างไรก็ตาม หลังเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีหลายคนอยากรู้ประวัติความเป็นมาของ "ซานติก้าผับ" ใครเป็นเจ้าของ... แล้วใครเป็นหุ้นส่วนบ้าง...  แล้วทำไมต้อง "กู๊ดบายซานติก้า" ... ฯลฯ วันนี้เราจะพาไปไขข้อข้องใจกัน... 

         "ซานติก้าผับ" เป็นอาคารเดี่ยวในพื้นที่ประมาณ 500 ตารางเมตร ปลูกอยู่ในพื้นที่ประมาณ 4 ไร่ ยกระดับ 3 ชั้น เป็นชั้น 1 ชั้น 2 และชั้นใต้ดิน ตั้งอยู่เลขที่ 235/11 ซอยสุขุมวิท 63 เอกมัย ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110 ดำเนินการโดย บริษัท ไวท์ แอนด์ บราเธอร์ส (2003) จำกัด (White & Brothers (2003) จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2546 ด้วยทุนจดทะเบียน 1.2 ล้านบาท และเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 2 ล้านบาท ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2549 ส่วนชื่อ "ซานติก้า" (SANTIKA) มาจากภาษาสเปน ที่แปลว่า ธรรมชาติที่สวยงาม (Beautiful in Nature)  

         สำหรับ "ซานติก้าผับ" ถือเป็นแหล่งบันเทิงชื่อดังแห่งหนึ่งในย่านถนนเอกมัย เขตทองหล่อ ซึ่งเป็นแหล่งชุมนุมของเหล่าไฮโซ ดารา ดีเจ และนักเที่ยวยามราตรี สร้างความตื่นตาตื่นใจในบรรดาธุรกิจบันเทิงสไตล์ผับ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในรูปแบบห้องโถงขนาดใหญ่ จุนักเที่ยวได้มากกว่า 2,000คน โดยมีการรวบรวมวงดนตรีและดีเจชื่อดังมากมายเอาไว้ที่นี่ 

         แต่หลังจากซานติก้าผับเปิดได้ไม่นาน ก็มีปัญหาเรื่องสถานที่ตั้ง ไม่ได้อยู่ในเขตพื้นที่โซนนิ่งตั้งสถานบริการตามนโยบายของรัฐบาล ทาง สน.ทองหล่อ ซึ่งดูแลพื้นที่ไม่อนุญาตให้เปิด จึงมีการยื่นเรื่องฟ้องร้องกับศาลปกครองเพื่อขอเปิดกิจการซานติก้าผับ และศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ให้ดำเนินการเปิดกิจการได้ระหว่างคดียังไม่ตัดสิน

         นอกจากนี้ เจ้าของซานติก้าผับก็ยังเจอกับปัญหา เมื่อเจ้าของผู้ให้เช่าที่ดินต้องการนำพื้นที่ไปก่อสร้างคอนโดมิเนียมใหญ่ย่านเอกมัย จึงขอยกเลิกสัญญาเช่าที่ดินกับเฮียขาว แต่เฮียขาวก็หาทางจนทำให้มีการต่อสัญญาเช่าที่ดินดังกล่าวต่อไปได้ในปี 2550 และทำการปรับปรุงโดยใช้งบประมาณมากถึง 40 ล้านบาท พร้อมเปิดให้บริการใหม่อีกครั้งในปี 2551

         ช่วงปี 2551 เจ้าของที่ดินได้ยื่นคำขาดขอยกเลิกสัญญาเช่า และให้ปิดกิจการในวันที่ 31 ธันวาคม ซึ่งได้มีการแจ้งข่าวกลุ่มสมาชิกขาประจำว่าจะมีการจัดคอนเสิร์ต "กู๊ดบายซานติก้า" เพื่อเคาท์ดาวน์ช่วงปีใหม่และปิดตัวถาวรของผับ โดยมีนักร้องฮิปฮอปคนดัง โจอี้บอย และดีเจดังจากหลายคลื่นเข้ามาร่วมงาน แต่ก็มาเกิดเหตุโศกนาฏกรรมเพลิงไหม้คนตายหมู่ในช่วงคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เสียก่อน

         ทั้งนี้ "ซานติก้าผับ" แบ่งหุ้นออกทั้งหมดเป็น 400 หุ้นๆ ละ 5,000 บาท กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม คือ นายสุริยา ฤทธิ์ระบือ อย่างไรก็ตามนายสุริยา มิได้เป็นผู้ถือหุ้นแต่หุ้นเดียว แต่มีนายวิสุข เสร็จสวัสดิ์ หรือ "เฮียขาว" นักแข่งรถมากฝีมือ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 32.25% จำนวน 129 หุ้น มูลค่า 645,000 บาท ทั้งนี้ ชื่อ "เฮียขาว" จึงเป็นที่มาของชื่อบริษัทต้นของว่า "ไวท์" ส่วนแอนด์ "บราธอรส์" หรือ "น้องชาย" นั้น น่าจะเป็น นายวิเชียร เสร็จสวัสดิ์ ถือหุ้นอยู่ 3% จำนวน 12 หุ้น มูลค่า 60,000 บาท

สำหรับผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ ประกอบด้วย...

 1. นาย ณัฐพล วงศ์มณีวรรณ  ถือหุ้นอยู่   7.5 %  จำนวน 30  หุ้น มูลค่า 150,000 บาท
 2.นาย กิตติภณ ปรีชานานนท์ 4.75%  จำนวน 19 หุ้น มูลค่า 95,000  บาท
 3.นาย ณัฐพัชร์ ดิสนีเวทย์ 4 % จำนวน 16 หุ้น มูลค่า 80,000 บาท
 4.นาย ประยนต์ ลาเสือ 4 %  จำนวน 16 หุ้น มูลค่า 80,000 บาท
 5.นาย สถิตย์พร โอภาศเจริญสุข 4 % จำนวน 16 หุ้น มูลค่า 80,000 บาท 
 6.นาย อิสริยะ ทรงสุวรรณ 4 % จำนวน 16 หุ้น มูลค่า 80,000 บาท
 7.นางสาว ธาริณี สืบสมาน 3.75 % จำนวน 15 หุ้น  มูลค่า 75,000 บาท
 8.นาย ต่อศักดิ์ เจริญวงค์ศักดิ์ 3.5 % จำนวน 14  หุ้น มูลค่า 70,000 บาท
 9.นาย คำแหง ขจรสกุล 3 % จำนวน 12 หุ้น มูลค่า 60,000 บาท
 10 นาย ชัยวัฒน์ นิมิตรพงษ์ศักดิ์ 3 % จำนวน 12 หุ้น มูลค่า 60,000 บาท
 11. นาย ดวิษ ธีราวิทยางกูร 3 % จำนวน 12 หุ้น มูลค่า 60,000 บาท
 12.นาย รุ่งยศ จันทภาษา 3 % จำนวน 12 หุ้น มูลค่า 60,000 บาท
 13. คุณ ชุมพิศ วัธนะชัย 1.75 %จำนวน 7  หุ้น มูลค่า 35,000 บาท
 14. นาย ทัพพ์ จิรา 1.75 %จำนวน 7  หุ้น มูลค่า 35,000 บาท
 15. นาย หลุยส์ สก็อตต์ 1.75 %จำนวน 7  หุ้น มูลค่า 35,000 บาท
16. นาย ก้องเกียรติ รวมศิลป์ 1.5 %จำนวน 6 หุ้น มูลค่า 30,000 บาท
 17.นาย ณรงค์ วรวัฒน์บัญชา 1.5 %จำนวน 6 หุ้น มูลค่า 30,000 บาท
 18. นาย ณัฐกันต์ เพิ่มพูนทรัพย์ทวี 1.25 % จำนวน 5 หุ้น มูลค่า  25,000 บาท
 19. นาย ทัศน์ภูมิ กฤษณวงศ์ 1.25 % จำนวน 5 หุ้น มูลค่า  25,000 บาท
 20.นาย ประสิทธิ์ จิยารมณ์ 1.25 % จำนวน 5 หุ้น มูลค่า  25,000 บาท
 21. นาย ปัญจวัฒน์ อรัญธนวงศ์ 1 % จำนวน  4 หุ้น มูลค่า 20,000 บาท
 22.นาย วีระเดช ภู่ชนะกิจ 1 % จำนวน  4 หุ้น มูลค่า 20,000 บาท
 23.นาย วีระวุธ ภู่ชนะกิจ 1 % จำนวน  4 หุ้น มูลค่า 20,000 บาท 

ด้านผลประกอบการตลอดระยะเวลา 4 ปีมีกำไรมาตลอด เริ่มจาก...

  2547 มีรายได้ 31,987,558.37 บาท กำไร สุทธิ 1,215,209.20 กำไรต่อหุ้น 5,063.37 บาท

 ปี 2548 มีรายได้  36,453,469.59  บาท กำไรสุทธิ 879,036.60 บาท กำไรต่อหุ้น 3,662.65  บาท

 ปี 2549 มี รายได้ 45,556,210.40  บาท กำไร สุทธิ 1,381,542.90  บาท กำไรต่อหุ้น 3,453.85   บาท

 ปี 2550 มีรายได้ 70,074,171.79  บาท กำไรสุทธิ 2,518,266.28  บาท กำไรต่อหุ้น 6,295.67  บาท

          อย่างไรก็ตาม แม้อาณาจักรซานติก้าผับจะจบสิ้นลงไปแล้วพร้อมกับโศกนาฏกรรม แต่ "เฮียขาว" ยังมีหุ้นส่วนที่ HOBB ผับ ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อกลางปี 2551 ตั้งขึ้นบนถนนอาร์ซีเอ 

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เผยโฉม เฮียขาว เจ้าของ ซานติก้า อัปเดตล่าสุด 7 มกราคม 2552 เวลา 16:31:35 68,968 อ่าน
TOP
x close