เมื่อวันที่ 8 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ในช่วง 3 วันสุดท้ายก่อนที่จะมีการลงคะแนนเลือกตั้งในวันที่ 11 ม.ค. 2552 ว่า ผู้สมัครคนสำคัญต่างลงพื้นที่และงัดกลยุทธ์ในการหาเสียงแตกต่างกัน โดยเมื่อเวลา 09.00 น. ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล ผู้สมัครหมายเลข 8 พร้อมทีมงานได้ลงพื้นที่หาเสียงกับข้าราชการ กทม. ที่บริเวณศาลาว่าการ กทม.2 เขตดินแดง พร้อมกันนั้นผู้สมัครได้แจกจดหมายเปิดผนึกที่ระบุถึงนโยบายที่จะจัดสรรให้กับข้าราชการและลูกจ้าง กทม.ว่า หากตนได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม.ตนจะทำหน้าที่ด้วยความขยันขันแข็ง พร้อมรับฟังปัญหาของข้าราชการและลูกจ้าง กทม. โดยเฉพาะลูกจ้างภายใน 1 ปีของการบริหารงาน ตนจะบรรจุลูกจ้าง กทม.ที่ตั้งใจทำงานให้รับตำแหน่งข้าราชการประจำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ยืนให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่ประตูทางเข้าสนามศูนย์กีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ซึ่งภายในสนามกีฬากำลังจัดกิจกรรม "คนรักกรุงเทพฯ รวมพลังเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม." ปรากฏว่า กลุ่มผู้สื่อข่าวได้ขอให้เจ้าหน้าที่จัดงานของ กทม.หรี่เสียงลำโพงที่หน้าประตูชั่วคราว เพื่อขอให้ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ สัมภาษณ์ 2 นาที ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงว่า "ไม่ควรเข้ามาสัมภาษณ์ในบริเวณนี้" ทำให้ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ตกใจ และเปรยกับผู้สื่อข่าวว่า "สงสัยจะคุมข้าราชการ กทม.ยาก" อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้รับคำชี้แจงจากเจ้าหน้าที่จัดงานของ กทม.ว่า งานดังกล่าวมีเหล่าข้าราชการและลูกจ้าง กทม.เกือบ 10,000 คน ร่วมงาน หากให้ผู้สมัครหาเสียงในพื้นที่ เกรงว่าจะถูกมองว่าวางตัวไม่เป็นกลางในการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.
วันเดียวกัน ที่ตลาดหลังบริษัทการบินไทย นายแก้วสรร อติโพธิ ผู้สมัครหมายเลข 12 ลงพื้นที่หาเสียงที่ตลาดหลังบริษัทการบินไทย โดยนายแก้วสรรชี้แจงกรณีที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครหมายเลข 2 พรรคประชาธิปัตย์จะดึงเข้าร่วมทีมหากชนะการเลือกตั้ง ว่า จะไม่เข้าเป็นคณะทำงานของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์อย่างแน่นอน และไม่เคยมีการเจรจาต่อรองใดๆกับพรรคประชาธิปัตย์ในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม หากจะทำหน้าที่ตรวจสอบ กทม. ตนขอทำในหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดีกว่าทำหน้าที่ตรวจสอบภายใต้อำนาจของผู้ว่าฯ กทม.
ผู้สมัครหมายเลข 12 กล่าวด้วยว่า ในวันที่ 10 มกราคมนี้ เวลา 08.00 น. ที่สนามหลวง จะจัดแรลลี่เปลี่ยนกรุงเทพฯ ด้วยการเชิญชวนผู้ที่สนับสนุนตน นำรถส่วนตัวมาวิ่งรณรงค์ปิดท้ายการหาเสียง เพื่อแสดงพลังว่าจะเลือกอิสรชน ไม่เลือกขั้ว แบ่งสี แบ่งข้าง ทั้งนี้จากการสำรวจในพื้นที่ชุมชนต่างๆ พบว่าตนได้รับความนิยมและคะแนน เสียงอยู่ช่วงขาขึ้น ดังนั้นในการเลือกตั้งครั้งนี้มั่นใจว่าจะได้เป็นผู้ว่าฯกทม.
ส่วน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครหมายเลข 2 พรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่หาเสียงที่โรงเรียนวัดปทุมวนาราม เขตปทุมวัน พร้อมแถลงนโยบายด้านการศึกษาว่า หากตนได้รับเลือกตั้งมีสิ่งที่ต้องรีบดำเนินการคือ เร่งยกระดับคุณภาพมาตรฐานโรงเรียนสังกัด กทม.ทั้ง 435 แห่ง ให้มีคุณภาพเท่าโรงเรียนสาธิตและโรงเรียนเอกชนชื่อดัง ด้วย 8 มาตรการ คือ
1. ปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอนและพัฒนาบุคลากร โดยดำเนินการควบคู่ไปกับโรงเรียน สาธิต
2. เพิ่มจำนวนโรงเรียนสองภาษา
3. จัดอบรมพัฒนาครูและนักเรียนด้วยระบบ Teleconference จากส่วนกลาง
4. ปรับปรุงอาคารสถานที่ สภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการเรียนการสอน
5. ส่งเสริมวิชาพลศึกษาเพื่อให้เด็กรักกีฬา
6. เน้นการปฏิบัติการค้นคว้าด้วยตนเองและส่งเสริมการเรียนรู้คู่ชุมชน
7. ส่งเสริมการเรียนรู้นอกห้องเรียนและเพิ่มจำนวนพิพิธภัณฑ์เด็ก
8. ดูแลเรื่องโภชนาการ นักเรียน กทม. ต้องทานอาหารครบ 5 หมู่
ขณะที่ นายยุรนันท์ ภมรมนตรี ผู้สมัครหมายเลข 10 พรรคเพื่อไทย ได้ปรับวิธีการหาเสียงจากเดินเท้าพบปะประชาชน เป็นขึ้นรถแห่หาเสียงในช่วงโค้งสุดท้าย พร้อมกับใช้เครื่องขยายเสียงเชิญชวนถ้ารักแซมอย่าลืมเลือกเบอร์ 10 เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่มากที่สุด โดยช่วงเช้า ขึ้นรถแห่เขตทุ่งครุ และช่วงบ่ายแห่เข้าพื้นที่เขตราษฎร์บูรณะ ซึ่งเขตนี้จะมีการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. พร้อมกับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. วันที่ 11 มกราคมนี้ โดยนายยุรนันท์เปิดเผยว่า เขตราษฎร์บูรณะ เป็นเขตเลือกตั้งซ่อม ส.ส. เขต 10 ด้วย ทางพรรคเพื่อไทยส่งนายจารุวงศ์ เรืองสุวรรณ ลงสมัคร เป็นห่วงว่าประชาชนจะเกิดความสับสนในการลงคะแนน จึงได้พยายามย้ำจุดนี้เป็นพิเศษ สำหรับการจัดเวทีปราศรัยใหญ่ คงไม่มีแน่นอน เพราะคนที่จะมาฟังก็ตัดสินใจจะเลือกใครแล้ว การจัดปราศรัยอีกอาจไม่เกิดประโยชน์ เอาเวลาไปลงพื้นที่ให้เข้าถึงประชนจะดีกว่า ข้อสำคัญ ไม่อยากให้มีมวลชนมาปะทะกัน
นายยุรนันท์กล่าวถึงกรณีบางรายการที่ยกเลิกการจัดดีเบตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ได้แสดงความคิดเห็นนั้น สำหรับตนคิดว่า น่าเป็นห่วงเพราะประชาชนอาจถูกปิดกั้นข้อมูลข่าวสาร และไม่มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลือกผู้ว่าฯ กทม. ส่วนที่ว่าการจัดดีเบตจะทำให้ผู้สมัครบางราย คะแนนตก เรื่องนี้แล้วแต่มุมมอง ซึ่งการจัดดีเบตจะมีถามนอกประเด็น แต่ผู้สมัครบางคนไม่มีข้อมูล ตอบไม่ได้อาจทำให้ไม่มีความน่าเชื่อถือ และถ้าเวทีดีเบตที่ไหนเชิญมาก็จะไปทุกแห่ง
ทางด้านการเตรียมการของกรุงเทพมหานครนั้น ที่ศูนย์กีฬาเยาวชนไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง เวลา 09.00 น. นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร และข้าราชการ ลูกจ้าง กทม. เกือบ 10,000 คน ทำกิจกรรมคนรักกรุงเทพฯ รวมพลังเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เพื่อประกาศเจตนารมณ์ว่าข้าราชการ ลูกจ้างของ กทม. ที่มีสิทธิ์เลือกตั้งจะออกไปใช้สิทธิ์ในวันที่ 11 มกราคม 100 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ นายพงศ์ศักติฐ์ระบุว่า คาดหวังให้การเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้ ออกมาใช้สิทธิ์ไม่น้อยกว่าร้อยละ 60
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
