ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก "วุธ-อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร" เมื่อบ่ายวันที่ 12 มกราคม ถึงการตัดสินใจสละโสด โดยอาศัยบรรยากาศคืนเคาต์ดาวน์ ที่เซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2551 เอ่ยปากขอแฟนสาวแต่งงาน ว่าที่เจ้าบ่าวเล่าถึงนาทีที่ขอฝ่ายหญิงแต่งงาน ว่า . . .
วุธ อัษฎาวุธ : หลังจากเอ่ยปากชวนแต่งงาน ปรากฏว่าแฟนสาวถึงกับทำหน้าเหวอๆ ด้วยความงุนงง พร้อมกับหันมามองหน้า แล้วถามว่าเอาจริงเหรอ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร หลังจากนั้นเวลาขับรถผ่านไปที่ไหน มักจะมองร้านชุดแต่งงานและเริ่มคุยกันว่าจะจัดงานแต่งงานแบบไหนดี เริ่มหาของชำร่วย ดิวงานต่างๆ จนบางทีหันมาพูดเล่นติดตลกกันเอง ยังแคนเซิลทันมั้ยเพราะมันเหนื่อยมาก 
พิธีการแต่งงานเป็นแบบไหนเอ่ย?
วุธ อัษฎาวุธ : มีงานถึง 3 วัน โดยวันแรกเป็นวันที่ 28 กุมภาพันธ์ จะจัดพิธีแต่งงานที่บ้านเจ้าสาว ที่จังหวัดจันทบุรี จากนั้นเป็นงานฉลองสมรสที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ ใน วันที่ 2 มีนาคม วันสุดท้ายคือวันที่ 8 มีนาคม 2552 ไปจัดพิธีที่จังหวัดพัทลุง บ้านเกิดของตน สาเหตุที่จะต้องจัดงานหลายแห่ง เป็นเพราะทั้งสองครอบครัวจะมีแขกผู้ใหญ่ เพื่อนฝูงมากมายทำให้ไม่สะดวกในการเดินทางไปร่วมงานยังต่างจังหวัด ส่วนการตัดสินใจแต่งงานในครั้งนี้ ตัดสินใจไม่ยาก แต่อยู่ที่ช่วงจังหวะที่ดี ความรักที่สุกงอมเต็มที่และน่าจะเป็นเวลาที่เหมาะสม เราสองคนคุยกันมาเรื่อยๆ แต่ก่อนหน้านี้ไม่สะดวก กลัวถูกมองเป็นวิวาห์สายฟ้าแลบหรือไม่?
วุธ อัษฎาวุธ : ไม่สายฟ้าแลบแน่ ที่ผ่านมาตนเปิดเผยตลอด คบกันมา 16 ปีแล้ว ทุกคนก็รู้ว่าตนกับว่าที่เจ้าสาวเป็นแฟนกัน เพราะไปไหนด้วยกัน ตัวติดกันตลอด กับความรู้สึกที่ใกล้จะเป็นเจ้าบ่าว ตอนนี้ยังรู้สึกธรรมดา ยังไม่รู้สึกตื่นเต้นอะไร วันก่อนเพิ่งจะไปดูสถานที่จัดเลี้ยง และให้เวดดิ้งแพลนเนอร์จัดการ จะเป็นงานที่เน้นความเรียบง่าย สบายๆ ไม่อลังการ แต่กินอิ่ม มีความสุข อบอวลด้วยความรัก จะเป็นแนวอาร์ตๆ ตามสไตล์ของเราสองคน ส่วนชุดแต่งงานชุดค่อนข้างเรียบ ได้ พี่โต-ม.ล.จิราธร รุ่นพี่ที่จุฬาฯ ที่เคยเอ่ยปากไว้ว่า คู่นี้แต่งงานเมื่อไหร่จะทำชุดให้ พอคิดว่าจะแต่งงานก็โทรศัพท์ไปบอกแล้วไปวัดตัวตัดชุด สำหรับของชำร่วยและการ์ดเป็นดีไซน์จากลายเส้นของเราเอง ปิ๊งว่าที่เจ้าสาวตั้งแต่ตอนไหน?
วุธ อัษฎาวุธ : ตนกับแฟนคบกันตั้งแต่ตอนเป็นนิสิตจุฬาฯ รู้สึกสนใจคนนี้ แต่วิธีการจะใช้แนวด่าๆ วิพากษ์วิจารณ์ เลยเป็นจุดที่ทำให้เป็นแฟนกันไป เหมือนในละครแนวพ่อแง่แม่งอน พอผ่านมานานๆ เห็นนิสัยใจคอกันหมดทุกซอกทุกมุม อีกทั้งยังชอบศิลปะและบ้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าเหมือนกัน พอคุยกันทำให้เข้าใจ คิดอะไร คุยกันได้ทุกเรื่อง อีกมุมหนึ่งที่ชอบเพราะที่บ้านเค้าเป็นครอบครัวจริงๆ จะมีวันครอบครัว วันรวมญาติ ดูอบอุ่นดี ส่วนโครงการปั๊มทายาทตั้งใจว่าหลังจากแต่งถ้าเป็นไปได้อยากมีลูกเลย แต่ด้วยวัยไม่รู้จะมียากหรือง่ายเหมือนกัน แค่คนรู้ว่าตนจะแต่งงานมักจะได้ยินประโยคตามมา อยากเห็นหน้าลูกสองคนเหมือนกัน มีคนอยากช่วยเลี้ยงเยอะ หลังแต่งงานกลัวเรตติ้งตกหรือไม่?
วุธ อัษฎาวุธ : เรื่องนี้จริงๆ แฟนจะกังวลมากกว่า เขาเป็นห่วง เขารู้เราชอบทำงาน กลัวจะมีผลกระทบ คบเป็นแฟนกันตั้งนาน พอประกาศแบบนี้เขากังวล แต่ยังไงวันนึงเราต้องแต่งงาน เพราะคนเราไม่สามารถยืนอยู่แถวหน้าได้ตลอดชีวิต เราไม่สามารถเป็นพระเอกได้ชั่วชีวิต เราจะปรับตำแหน่งยังไงให้งดงามมากกว่า ไม่ค่อยกังวลเพราะเราทำงานหลากหลาย ถึงแย่ไม่มีละครให้เล่น ก็ทำงานดีไซน์วาดรูป ทำอย่างอื่นที่เราถนัด พยายามหาโอกาสให้ตัวเองมาตลอด คงไม่จนแต้มถ้าเราขยัน ไม่คิดมาก อะไรที่ทำแล้วมีความสุข ทำด้วยเหตุผลของความรักก็จบ พอบอกไปเขาก็เข้าใจ ไม่กังวลแล้ว
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
