x close

นักวิชาการให้เอบวก สุนทรพจน์ โอบามา กินใจ

พิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของ บารัก โอบามา

บารัก โอบามา

พิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของ บารัก โอบามา

พิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของ บารัก โอบามา

พิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของ บารัก โอบามา

พิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของ บารัก โอบามา

พิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของ บารัก โอบามา

พิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของ บารัก โอบามา

พิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของ บารัก โอบามา

พิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของ บารัก โอบามา

พิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของ บารัก โอบามา

พิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของ บารัก โอบามา

พิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของ บารัก โอบามา

พิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของ บารัก โอบามา



สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก มติชนออนไลน์

          เมื่อวันที่ 20 มกราคม ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนใหม่ "บารัค โอบามา" (Barack Obama) ได้ขึ้นนั่งเก้าอี้ผู้นำประเทศอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว หลังเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา คนที่ 44 ท่ามกลางความสนใจของชนทั่วโลก ซึ่งจัดขึ้น ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสมาชิกสหรัฐอเมริกา รวมถึงแขกผู้มีเกียรติหลายหมื่นคน ร่วมเป็นสักขีพยาน ที่อาคารรัฐสภาสหรัฐอเมริกา สถานที่จัดพิธีสาบานตน โดยมีฝูงชนราว 1.5 - 2 ล้านคน ไปรวมตัวกันที่ลานเนชั่นแนล มอลล์ และริมท้องถนนเพนซิลเวเนีย อเวนิว เส้นทางขบวนพาเหรดแห่แหนผู้นำคนใหม่ โดยนายบารัค โอบามา วัย 47 ปี ถือเป็นคนผิวสีคนแรกที่ได้รับตำแหน่งผู้นำประเทศมหาอำนาจ หมายเลข 1 ของโลก

          สำหรับพิธีสาบานตนเริ่มขึ้นเมื่อเวลา 11.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือประมาณ 23.30 น. ตามเวลาไทย ที่บริเวณบันไดฝั่งตะวันตก ของอาคารรัฐสภาสหรัฐอเมริกา หรือที่รู้จักกันในชื่ออาคาร "แคปปิตอล" รูปแบบเป็นไปตามประเพณีดั้งเดิม มีวงโยธวาทิตของหน่วยนาวิกโยธินสหรัฐอเมริการ่วมบรรเลงเพลง และนางไดแอน เฟนสไตน์  วุฒิสมาชิกอาวุโสแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย ขึ้นกล่าวเปิดงาน จากนั้นพิธีเริ่มขึ้นโดยนายโจเซฟ ไบเดน สาบานตนเข้ารับตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา คนที่ 47 อย่างเป็นทางการเป็นคนแรก ต่อหน้านายจอห์น พอล สตีเวน ผู้พิพากษาศาลสูงสุด 

          ต่อมาเวลา 12.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 24.00 น. ตามเวลาในไทย นายบารัค โอบามา ก็เข้าพิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา คนที่ 44 อย่างเป็นทางการ ด้วยการวางมือบนคัมภีร์ไบเบิลเล่มเก่า ที่อดีตประธานาธิบดี อับราฮัม ลินคอล์น ใช้ในพิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เมื่อ 150 ปีก่อน และกล่าวคำสาบานตามประเพณีสั้นๆ แค่ 35 คำว่า ข้าพเจ้าขอตั้งมั่นปฏิญาณว่า "จะปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาโดยเคร่งครัด และจะธำรงรักษา ปกป้อง คุ้มครองรัฐธรรมนูญสหรัฐอเมริกา อย่างเต็มความสามารถ ขอพระเจ้าโปรดประทานพร" ต่อหน้านายจอห์น โรเบิร์ต จูเนียร์ หัวหน้าผู้พิพากษาศาลสูงสุด โดยมีเหล่าสมาชิกวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรร่วมเป็นสักขีพยาน ท่ามกลางเสียงเพลงวงโยธวาทิต และมีการยิงปืนใหญ่สดุดี 21 นัด ของหน่วยทหารองครักษ์


พิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของ บารัก โอบามา

พิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของ บารัก โอบามา

พิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของ บารัก โอบามา

พิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของ บารัก โอบามา

พิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของ บารัก โอบามา

พิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของ บารัก โอบามา


"โอบามา" ปลุกชาวมะกัน "ความหวังอยู่เหนือความกลัว"

          นายโอบามา ได้กล่าวสุนทรพจน์ครั้งสำคัญต่อประชาชนชาวอเมริกัน ซึ่งเป็นการบ่งบอกถึงทิศทางของประเทศ โดยเน้นว่า เราได้เลือกความหวังเหนือความกลัว ผลประโยชน์ของความสามัคคีอยู่เหนือความขัดแย้งและความบาดหมาง เริ่มต้นวันนี้ เราต้องลุกขึ้น สะบัดฝุ่นออกและเริ่มต้นสร้างอเมริกาใหม่อีกครั้ง วิกฤติทางเศรษฐกิจครั้งนี้ เป็นครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่วิกฤติเศรษฐกิจ เมื่อช่วงต้น 1930 อเมริกันจะผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปได้ และยังเชื่อว่า สหรัฐอเมริกาที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมานาน จะสามารถก้าวผ่านสิ่งท้าทายต่างๆ ไปได้ อเมริกาเป็นเพื่อนของทุกชาติและทุกคน ทั้งบุรุษ สตรี และเด็ก ซึ่งกำลังมองหาอนาคตแห่งสันติภาพและเกียรติภูมิ และเราพร้อมจะนำหน้าอีกครั้งหนึ่ง 

          "ถึงโลกมุสลิม เรามองหาแนวทางก้าวไปข้างหน้าใหม่ บนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกัน และความเคารพซึ่งกันและกัน สำหรับการก่อการร้ายและฆ่าล้างทำลายผู้บริสุทธิ์ในความพยายามคุกคามสหรัฐอเมริกา จะต้องเผชิญการตอบโต้อย่างไม่ประนีประนอม สหรัฐอเมริกาอยู่ในช่วงเวลาที่ไม่ปกติ กำลังเผชิญกับวิกฤติการณ์ครั้งใหญ่หลวงรอบด้าน รวมทั้งวิกฤติเศรษฐกิจครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 80 ปี ผนวกกับสงครามในอิรักและอัฟกานิสถาน ซึ่งเป็นสิ่งท้าทายอย่างยิ่ง ขอให้ชาวอเมริกันรวมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ปลุกจิตวิญญาณแห่งความเสียสละและมีความรับผิดชอบ เพื่อนำพาประเทศชาติฟันฝ่าวิกฤติไปให้ได้" ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา กล่าว 

          หลังสิ้นสุดกล่าวสุนทรพจน์ นางเอลิซาเบธ อเล็กซานเดอร์ ขึ้นอ่านบทกวี และสาธุคุณ โจเซฟ อี ลอว์รีย์ ขึ้นกล่าวให้พรแก่นายโอบามาและไบเดน ตามด้วยการร่วมร้องเพลงชาติสหรัฐอเมริกา และบรรเลงโดยวงโยธวาทิตของกองทัพเรือ ก่อนที่โอบามาจะร่วมเดินไปกับนายจอร์จ ดับเบิลยู. บุช อดีตประธานาธิบดีคนที่ 43 เข้าพิธีอำลากันอย่างเป็นทางการ จากนั้นโอบามาและไบเดน เข้าร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ตามคำเชิญของสมาชิกสภาคองเกรส ก่อนนั่งรถหุ้มเกราะ นำขบวนพาเหรดจากอาคารรัฐสภามุ่งหน้าสู่ตึกทำเนียบขาว ผ่านถนนเพนซิลเวเนีย อเวนิวโดยมีฝูงชนนับล้านยืนต้อนรับตลอดสองข้างทาง และในช่วงเย็นคณะกรรมการดูแลพิธีสาบานตนประธานาธิบดี ยังจัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่อีก 10 งาน



พิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของ บารัก โอบามา

พิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของ บารัก โอบามา

พิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของ บารัก โอบามา

พิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของ บารัก โอบามา

พิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของ บารัก โอบามา



"ในหลวง" มีพระราชสาส์น ถึง "โอบามา" 

          ขณะเดียวกัน ผู้นำและตัวแทนรัฐบาลหลายประเทศทั่วโลก ต่างส่งสารแสดงความยินดีกับผู้นำคนที่ 44 ของสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชสาส์นถึงนายโอบามา โดยมีใจความสำคัญว่า ในโอกาสที่ท่านเข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี แห่งสหรัฐอเมริกา ข้าพเจ้ามีความยินดีขอส่งคำอำนวยพรและความปรารถนาดีอย่างจริงใจมา เพื่อท่านประธานาธิบดีประสบความสำเร็จและความสุขสวัสดิ์ ทั้งเพื่อความเจริญก้าวหน้าของประชาชนและความรุ่งเรืองไพบูลย์ยิ่งขึ้นของสหรัฐอเมริกา ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่าความสัมพันธ์ฉันท์มิตรและความร่วมมืออันใกล้ชิดระหว่างประเทศ และประชาชนของเราทั้งสอง จะกระชับแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไปในภายภาคหน้า

          นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็ได้มีสารแสดงความยินดีแด่ นายบารัค โอบามา ด้วยเช่นกัน มีใจความสรุปว่า พร้อมทำงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลใหม่สหรัฐฯ และหวังชาวไทยจะได้ให้การต้อนรับประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ในโอกาสการเยือนประเทศไทยโดยเร็ว

ทั่วโลกต่างยินดี "โอบามา" รับตำแหน่ง

          ขณะที่หลายประเทศทั่วโลกยังร่วมเฉลิมฉลองกับนายโอบามาด้วย โดยชาวญี่ปุ่นกว่า 34,000 คน ในเมือง "โอบามะ" ซึ่งมีชื่อพ้องกับ "โอบามา" ได้จัดเทศกาลเฉลิมฉลองตลอด วันที่ 20 มกราคม อาหารและสินค้าที่ระลึกรูปโอบามาขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ส่วนที่โรงเรียนประถมในกรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซีย ซึ่งโอบามาเคยใช้ชีวิตช่วงวัยเด็กอยู่ที่นั่นถึง 4 ปี ก็จัดพิธีร้องเพลงอวยพรอดีตเพื่อนร่วมชั้นของโอบามา ก็รวมตัวกันเฝ้าชมการถ่ายทอดสดพิธีสาบานตนทางโทรทัศน์ ด้านพิพิธภัณฑ์มาดามทุสโซในฮ่องกง จัดงานเปิดตัวหุ่นขี้ผึ้งโอบามาเพื่อร่วมจารึกเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งนี้ด้วย



พิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของ บารัก โอบามา

พิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของ บารัก โอบามา


พิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของ บารัก โอบามา

พิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของ บารัก โอบามา



นักวิชาการให้ "เอบวก" สุนทรพจน์ "โอบามา" กินใจ 

          นายชัยชนะ อิงควัต อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวถึงพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา คนที่ 44 ของนายโอบามา ว่า สุนทรพจน์ของประธานาธิบดีโอบามา มีนัยสำคัญ คือ เป็นการเตือนสติคนอเมริกันให้ลุกขึ้นมาช่วยกันสร้างประเทศ คล้ายกับสมัยของประธานาธิบดี "จอห์น เอฟ. เคนเนดี" ที่พยายามจะปลุกกระแสให้คนอเมริกันลุกขึ้นมาช่วยกันสร้างชาติ ขณะเดียวกันวลีที่ว่า "อเมริกาจะก้าวเข้าสู่ยุคแห่งความรับผิดชอบ" ยังเป็นการเตือนสติบริษัทชั้นนำของสหรัฐอเมริกา ที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ทำให้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจขึ้น ถ้าเป็นข้อสอบต้องให้เอบวก

          อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ กล่าวอีกว่า สุนทรพจน์ดังกล่าวมีจุดเด่น 3 ข้อ คือ ภาษาดี สะท้อนภาพปัญหาของสหรัฐฯในรอบหลายปีที่ผ่านมา และปลุกคนอเมริกันให้คิดถึงอนาคตข้างหน้าของประเทศ ทั้งนี้ แม้ว่าจะมีการเตรียมสคริปท์ สุนทรพจน์มาเป็นอย่างดี แต่เมื่อต้องกล่าวจริงนายโอบามาก็ไม่ได้ดูสคริปท์ มากสักเท่าใด เป็นการพูดด้วยใจ ซึ่งสิ่งที่เขาพูดตรงประเด็น เหมือนเป็นการสะท้อนให้เห็นว่า บทบาทที่ผิดพลาดของสหรัฐอเมริกาในสมัยประธานาธิบดีบุช แก้ไขไม่ได้ แต่จะมองไปข้างหน้า


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
นักวิชาการให้เอบวก สุนทรพจน์ โอบามา กินใจ อัปเดตล่าสุด 22 มกราคม 2552 เวลา 14:19:04 34,253 อ่าน
TOP