จุรินทร์ ขู่ ถ้าแก้ตีกันไม่ได้ ปิดสถาบัน

จุรินทร์ ขู่ ถ้าแก้ตีกันไม่ได้ ปิดสถาบัน (ไทยรัฐ)

          เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 28 มกราคม ที่ห้องประชุม 3 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. เป็นประธานในพิธียุติเหตุการทะเลาะวิวาทระหว่างนักศึกษา 2 สถาบัน โดยมีตัวแทนนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลภาคตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย และจากสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ฝ่ายละ 10 คน เข้าร่วมพิธี โดยเข้าจับไม้จับมือ มอบดอกกุหลาบให้แก่กัน ขณะที่ พล.ต.อ.จงรักกล่าวว่า เห็นภาพนักศึกษาทั้ง 2 สถาบันนำดอกไม้มอบให้แก่กันแล้ว ตำรวจสบายใจ อยากให้น้องๆ รุ่นหลังมีความรักใคร่กันเหมือนพี่น้อง พึ่งพากันดีกว่าจะเป็นศัตรูกัน ขอให้น้องๆ ตั้งหน้าตั้งตาเรียนหนังสือเพื่อพ่อแม่และครอบครัว

          ด้านตัวแทนนักศึกษาที่มาร่วมงานกล่าวสั้นๆ ว่า ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่จะให้นักศึกษาทั้ง 2 สถาบันยุติความรุนแรงลงมา เชื่อว่าจะยุติได้ แต่ยังมีบางรายออกปากบ่นถึงการเป็นกาวใจของตำรวจครั้งนี้ว่า เป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ

          ที่ บช.น. พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. กล่าวว่า ได้มอบนโยบายให้ตำรวจ บก.น.1-9 ไปสำรวจสถาบันการศึกษา รวมทั้งจุดล่อแหลมที่จะเกิดการทะเลาะวิวาท โดยให้วางมาตรการป้องกัน และรายงานผลเสนอ บช.น.ในวันที่ 30 มกราคม เพื่อนำไปปรับเป็นแผนใหญ่อีกครั้ง ขณะเดียวกันได้มอบนโยบายไว้ 8 ประการ คือให้เข้าปิดล้อมตรวจค้นตามสถาบันที่สุ่มเสี่ยง ประสานอาจารย์ สำรวจประตูเข้าออก โดยให้ตำรวจเข้าไปดูแลตรวจค้นอาวุธ ติดตั้งโทรทัศน์วงจรปิดประตูทางเข้าออก รวมทั้งฝั่งตรงข้ามสถาบัน ให้ทำประวัติศิษย์เก่าหรือนักเรียนปัจจุบันที่เป็นหัวโจกเพื่อติดตามพฤติกรรม หากมีข้อมูลจะไปก่อเหตุกระทำผิดจะเข้าตรวจค้นบ้าน ทำประวัตินักศึกษาปี 1 ที่เพิ่งเข้าเรียนใหม่นำข้อมูลส่งตำรวจติดตามพฤติกรรม ตั้งจุดตรวจตามสถานที่ที่เสี่ยงต่อการก่อเหตุของทุกพื้นที่จัดตำรวจเข้าไป เป็นวิทยากรอบรมให้ความรู้ข้อกฎหมายของการทำผิด เพื่อเข้าไปละลายพฤติกรรม ในส่วนนี้เป็นเรื่องของการปฏิบัติเริ่มต้น ระยะต่อไปต้องประสานกับอาจารย์ ส่วนระยะยาวคงต้องฝากไปถึงกระทรวงศึกษาธิการส่วนนโยบายจะนำนักศึกษาที่กระทำ ผิดไปฝึกในค่ายทหารอยู่ในแผนที่ตำรวจกำลังดำเนินการอยู่ แต่ต้องดูเรื่องกฎหมายระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

          มีรายงานด้วยว่า จากเหตุทะเลาะวิวาทระหว่างสถาบัน ส่งผลให้นายสมเกียรติ จงประสิทธิ์พร อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ได้ยื่นหนังสือลาออกต่อสภามหาวิทยาลัยฯ แล้ว โดยนายสมเกียรติเผยต่อผู้สื่อข่าวถึงการตัดสินใจลาออกครั้งนี้ว่า ยื่นหนังสือลาออกมาตั้งแต่เดือนที่แล้ว สาเหตุเพราะมาช่วยราชการในตำแหน่งอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ประมาณ 8 เดือน ทั้งที่ตำแหน่งและการรับเงินเดือนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ระนครเหนือ แต่เพราะสถาบันเทคโนโลยีปทุมวันไม่มีกรอบอัตรากำลังให้กับตำแหน่งอธิการบดี จึงถึงเวลาที่จะต้องกลับไปทำงานให้กับหน่วยงานที่สังกัดจริง และขอยืนยันว่าการลาออกไม่ได้มีสาเหตุจากการที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเด็กตีกันได้ ส่วนสาเหตุที่เด็กตีกันนั้น ไม่รู้ว่าเกิดจากสาเหตุใด

          ที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รมช.ศึกษาธิการ กล่าวภายหลังประชุมหามาตรการแก้ปัญหานักเรียนนักศึกษาทำร้ายกันว่า มหาวิทยาลัยทุกแห่งต้องปฏิบัติตามมาตรการทั้ง 8 ข้อ ที่ได้ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยจะนำเสนอ รมว.ศึกษาธิการ ออกเป็นนโยบายระดับชาติ เนื่องจากไม่อยากสูญเสียชีวิตนักศึกษา ซึ่งถือเป็นทรัพยากรที่มีค่าแต่ผู้ที่กระทำผิดหากตำรวจจับได้ ต้องให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ไม่ปกป้องผู้กระทำผิด ส่วนสาเหตุที่นายสมเกียรติ จงประสิทธิ์พร ลาออก เพราะสถาบันเทคโนโลยีปทุมวันไม่มีอัตราให้กับตำแหน่งอธิการบดี ได้ให้ สกอ.สรุปเรื่องดังกล่าวพร้อมทั้งข้อเสนอแนะในการแก้ปัญหาเรื่องกรอบอัตรามาให้ด้วย เพื่อจะได้หาทางช่วยเหลือ

          นายวันชัย มั่นคง รักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย กล่าวว่า เห็นด้วยกับที่ประชุมที่กำหนดมาตรการขึ้นมา ยินดีให้ความร่วมมือทุกด้านในการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้ เพื่อป้องกันความขัดแย้งความรุนแรง รวมถึงความปลอดภัยของนักศึกษาในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งเป็นวันสถาปนาสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตอุเทนถวาย หรือวันบลูเดย์ ได้สั่งปิดมหาวิทยาลัย 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 28-30 มกราคม และในวันงานได้ขอความร่วมมือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดตำรวจ 1 กองร้อย เพื่อป้องกันเหตุ และตรวจค้นอาวุธของผู้เข้า-ออกมหาวิทยาลัยด้วย

          ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า สำนักงานอุดมศึกษาได้นัดผู้ที่เกี่ยวข้องมาหารือถึงทางออกในการแก้ไขปัญหา ซึ่งไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว เพราะมีปัจจัยหลายอย่าง ต้องใช้มาตรการควบคู่กันคือการป้องกันและปราบปราม รวมทั้งลงโทษอย่างเด็ดขาด สำหรับผู้เกี่ยวข้องต้องเริ่มที่สถาบัน ครูอาจารย์ต้องเข้ามาแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ถ้าสถาบันเอาจริงเอาจังเข้าไปตรวจสอบ และดูแลเด็ก คงจะช่วยคลี่คลายปัญหาได้ในระดับหนึ่งแต่ถ้าทำอะไรไม่ถูกต้อง คงต้องดำเนินการอย่างจริงจัง ทั้งอาญาและระเบียบการลงโทษสถานศึกษา ซึ่งมีหลายแบบ อาทิ ให้หยุดการเรียนการสอน หรือถึงขั้นปิดสถาบันการศึกษา

          สำหรับคดีที่นายคณิณ ทองอู๋ อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ถูกยิงเสียชีวิตบริเวณปากซอยสุขสวัสดิ์ 52 ฝั่งขาเข้าก่อนขึ้นทางด่วนดาวคะนอง พ.ต.อ.จีรศักดิ์ ขำคง รอง ผบก.น.8 กล่าวว่า คดีคืบหน้าไปมาก ได้ให้ฝ่ายสืบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามห้างร้านบริษัท ตั้งแต่บริเวณวัดใหญ่ พระสมุทรเจดีย์ จนถึงจุดเกิดเหตุ พบกล้องบางตัวจับภาพขณะผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์แล่นผ่านเอาไว้ได้ เจ้าหน้าที่จะใช้จุดนี้แกะรอยหาเบาะแสรถ จยย.ของคนร้ายต่อไป


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก