ฉายาคนกีฬาแห่งปี น้องเก๋ เจ๊สั่งได้ จิตร กำปั้นสุดท้าย (คมชัดลึก)
สื่อกีฬาตั้ง 10 ฉายาคนกีฬายอดฮิตในรอบปี 51 ยก "วีระศักดิ์ โควสุรัตน์" เป็น รมต.ตกสวรรค์ ส่วน "บิ๊กจา" พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ เอาไปเลยฉายา "เก้าอี้ข้าใครอย่าแตะ" โดยเฉพาะตำแหน่งเลขาฯ ใครอยากได้ต้องรอไปอีก 4 ปี ขณะที่คู่แคนดิเดต "เจริญ วรรธนะสิน" เป็น "เจริญไฮแจ็ก" ด้าน "ชัยภักดิ์-นฤมล ศิริวัฒน์" ต้อง "ผัวชง เมียตบ" ส่วน "บังยี" วรวีร์ มะกูดี หลังปี 51 ต้องสู้รบทั้งศึกนอกศึกใน แต่ผ่านได้ราวปาฏิหาริย์จนได้รับฉายา "นักรบสิบทิศ" ชนะอุปสรรคมาได้
ด้าน "เสธ.วีป" พล.อ.ทวีป จันทรโรจน์ พร้อมใจยกฉายา "แฉเพื่อชาติ (หน้า)" ให้เพราะรอมานานหลายเดือนแล้วตอนนี้ยังไม่รู้ว่าคนไทย 3 คนขายชาติเป็นใคร ส่วน "น้องเก๋" ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล โดนเรียก "น้องเก๋...เจ๊สั่งได้" ด้าน "สมจิตร จงจอหอ" โดนขนานนาม "กำปั้นสุดท้าย" เพราะอายุมากเลยหมดเวลาต่อฝีมือในโอลิมปิกหน้าแน่นอน
นับเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของทุกปี ที่สื่อมวลชนวงการกีฬามีการระดมความคิดเห็นในการตั้งฉายาคนกีฬา ที่ทำงานในแวดวงกีฬาในรอบปี 2551 ที่ผ่านมา เพื่อเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงบุคคลและการทำงาน ผลงานของคนกีฬาที่ผ่านมา โดยในปีนี้สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย นำโดย "บิ๊กเหม็น" นายไพฑูร ชุติมากรกุล นากสมาคม พร้อมสื่อมวลชนทุกแขนงทั้งหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ และวิทยุ เพื่อตั้ง ฉายาคนกีฬา 2008 ขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน ซึ่งคณะกรรมการพิจารณาอย่างหนักและผ่านการกลั่นกรองจากสื่อมวลชนกีฬาถึง 3 ครั้ง ก่อนจะได้ฉายา 10 คนในวงการกีฬา ดังนี้
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้รับฉายา "รมต.ตกสวรรค์" เนื่องจากในรอบ 10 เดือนที่เข้ามาทำงานมีผลงานอย่างโดดเด่นแต่ต้องเจอกับการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งตัดสินยุบ 3 พรรคการเมือง ทำให้พ้นตำแหน่งไปทำให้คนกีฬารู้สึกเสียดายอย่างมาก
"บิ๊กจา" พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ รองประธานและเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยได้รับฉายาว่า "เก้าอี้ข้าใครอย่าแตะ" สืบเนื่องจากกระแสข่าวในการเลือกตั้งคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยในปีหน้าแต่มีข่าวออกมาว่า ศ.เจริญ วรรธนะสิน กรรมการโอลิมปิกไทย จะมาแย่งเก้าอี้ แต่สุดท้ายไม่มีอะไร พร้อมทั้งพล.ต.จารึกประกาศว่าจะทำหน้าที่ต่ออีก 4 ปี
ศ.เจริญ วรรธนะสิน กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ฉายา "เจริญไฮแจ็ก" มาจากกระแสข่าวที่เด่นชัดในการที่จะเข้ามาสวมตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย แทน พล.ต.จารึก แต่สุดท้ายออกมาปฏิเสธข่าวนี้
นายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฉายา "ผู้ว่าเหนือบอร์ด" เป็นผลพวงที่มาจากการประเมินการทำงาน จนคณะกรรมการประเมินชุดแรกต้องลาออกไป แต่เมื่อมีชุดใหม่เข้ามาทำให้การประเมินการทำงานผ่านฉลุย
vนายธนา ไชยประสิทธิ์ เหรัญญิกคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ฉายา "นักบุญใจเกิน 100" เนื่องจากนายธนาเป็นที่รักและที่พึ่งของบรรดานักกีฬา สื่อมวลชน เมื่อต้องการความช่วยเหลือมักไม่เคยปฏิเสธ และให้การช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา
"เสธ.วีป" พล.อ.ทวีป จันทรโรจน์ นายกสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทยได้รับฉายา "แฉเพื่อชาติ(หน้า)" สืบเนื่องมาจากกระแสข่าวในช่วงการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2008 ที่จีน ที่ อำนาจ รื่นเริง พ่ายตกรอบก่อนรองชนะเลิศแบบค้านสายตา ทำให้ พล.อ.ทวีป ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านรายการทีวีช่องดังว่า มีคนไทย 3 คนขายชาติ และต้องการสกัดไม่อยากให้นักชกไทยได้เหรียญในปักกิ่งเกมส์ที่ผ่านมา แต่สุดท้ายไม่มีใครจับมือใครดมได้ว่าไอ้โม่งขายชาติ 3 คนนั้นเป็นใครบ้าง
"บังยี" นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ฉายา "นักรบสิบทิศ" คือในรอบปี 2551 ที่ผ่านมา นายวรวีร์เจอมรสุมถาโถมเข้ามาหลายเรื่องทั้งศึกในและศึกนอก โดยเฉพาะเรื่องเก้าอี้นายกฟุตบอล ที่นายเก่าจะมาแย่งคืน, ฟุตบอลไทยลีก, ฟุตซอล เรื่องปัญหาภายในสมาคมฟุตบอล แต่สุดท้ายสามารถฟันฝ่าอุปสรรคและมรสุมเหล่านี้มาจนได้
นายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ และ "มาดามมล" นางนฤมล ศิริวัฒน์ ฉายาที่ได้รับ "ผัวชง เมียตบ" มาจากประเด็นร้อนในการเป็นหัวหอกการจัดตั้งสมาคมเทนนิสอาชีพแห่งประเทศไทย ขึ้นมาอีกสมาคมขึ้นมาเพื่อมาคานอำนาจลอนเทนนิสแห่งประเทศไทยที่มีอยู่แล้ว เมื่อมีคนต้านมาก ฝ่ายชายออกมาโบ้ยไม่ได้เป็นคนริเริ่ม ขณะที่ภรรยายังมีที่ท่าดันทุรังสานต่อ
สมจิตร จงจอหอ นักชกเจ้าของเหรียญทองปักกิ่งเกมส์ ฉายา "กำปั้นสุดท้าย" เหรียญทองเหรียญนี้รอมานานถึง 12 ปีกว่าจะคว้าได้ แต่กลับมาประสบความสำเร็จในวัยที่โรยรา 33 ปี ซึ่งถือว่าเป็นรถไปเที่ยวสุดท้ายของ สมจิตร นั่นเอง
"น้องเก๋" ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล จอมพลังเหรียญทองปักกิ่งเกมส์ ได้รับฉายา "น้องเก๋...เจ๊สั่งได้" สำหรับน้องเก๋ ถือว่าเป็นนักยกน้ำหนักลูกรักของบุษบา ยอดบางเตย และ พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย ทำให้ทุกอย่างในการตัดสินใจของประภาวดี มักต้องถามความคิดเห็นจากพ่อและแม่คนที่ 2 นี้เสมอ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
ด้าน "เสธ.วีป" พล.อ.ทวีป จันทรโรจน์ พร้อมใจยกฉายา "แฉเพื่อชาติ (หน้า)" ให้เพราะรอมานานหลายเดือนแล้วตอนนี้ยังไม่รู้ว่าคนไทย 3 คนขายชาติเป็นใคร ส่วน "น้องเก๋" ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล โดนเรียก "น้องเก๋...เจ๊สั่งได้" ด้าน "สมจิตร จงจอหอ" โดนขนานนาม "กำปั้นสุดท้าย" เพราะอายุมากเลยหมดเวลาต่อฝีมือในโอลิมปิกหน้าแน่นอน
นับเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของทุกปี ที่สื่อมวลชนวงการกีฬามีการระดมความคิดเห็นในการตั้งฉายาคนกีฬา ที่ทำงานในแวดวงกีฬาในรอบปี 2551 ที่ผ่านมา เพื่อเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงบุคคลและการทำงาน ผลงานของคนกีฬาที่ผ่านมา โดยในปีนี้สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย นำโดย "บิ๊กเหม็น" นายไพฑูร ชุติมากรกุล นากสมาคม พร้อมสื่อมวลชนทุกแขนงทั้งหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ และวิทยุ เพื่อตั้ง ฉายาคนกีฬา 2008 ขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน ซึ่งคณะกรรมการพิจารณาอย่างหนักและผ่านการกลั่นกรองจากสื่อมวลชนกีฬาถึง 3 ครั้ง ก่อนจะได้ฉายา 10 คนในวงการกีฬา ดังนี้
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้รับฉายา "รมต.ตกสวรรค์" เนื่องจากในรอบ 10 เดือนที่เข้ามาทำงานมีผลงานอย่างโดดเด่นแต่ต้องเจอกับการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งตัดสินยุบ 3 พรรคการเมือง ทำให้พ้นตำแหน่งไปทำให้คนกีฬารู้สึกเสียดายอย่างมาก
"บิ๊กจา" พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ รองประธานและเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยได้รับฉายาว่า "เก้าอี้ข้าใครอย่าแตะ" สืบเนื่องจากกระแสข่าวในการเลือกตั้งคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยในปีหน้าแต่มีข่าวออกมาว่า ศ.เจริญ วรรธนะสิน กรรมการโอลิมปิกไทย จะมาแย่งเก้าอี้ แต่สุดท้ายไม่มีอะไร พร้อมทั้งพล.ต.จารึกประกาศว่าจะทำหน้าที่ต่ออีก 4 ปี
ศ.เจริญ วรรธนะสิน กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ฉายา "เจริญไฮแจ็ก" มาจากกระแสข่าวที่เด่นชัดในการที่จะเข้ามาสวมตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย แทน พล.ต.จารึก แต่สุดท้ายออกมาปฏิเสธข่าวนี้
นายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฉายา "ผู้ว่าเหนือบอร์ด" เป็นผลพวงที่มาจากการประเมินการทำงาน จนคณะกรรมการประเมินชุดแรกต้องลาออกไป แต่เมื่อมีชุดใหม่เข้ามาทำให้การประเมินการทำงานผ่านฉลุย
vนายธนา ไชยประสิทธิ์ เหรัญญิกคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ฉายา "นักบุญใจเกิน 100" เนื่องจากนายธนาเป็นที่รักและที่พึ่งของบรรดานักกีฬา สื่อมวลชน เมื่อต้องการความช่วยเหลือมักไม่เคยปฏิเสธ และให้การช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา
"เสธ.วีป" พล.อ.ทวีป จันทรโรจน์ นายกสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทยได้รับฉายา "แฉเพื่อชาติ(หน้า)" สืบเนื่องมาจากกระแสข่าวในช่วงการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2008 ที่จีน ที่ อำนาจ รื่นเริง พ่ายตกรอบก่อนรองชนะเลิศแบบค้านสายตา ทำให้ พล.อ.ทวีป ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านรายการทีวีช่องดังว่า มีคนไทย 3 คนขายชาติ และต้องการสกัดไม่อยากให้นักชกไทยได้เหรียญในปักกิ่งเกมส์ที่ผ่านมา แต่สุดท้ายไม่มีใครจับมือใครดมได้ว่าไอ้โม่งขายชาติ 3 คนนั้นเป็นใครบ้าง
"บังยี" นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ฉายา "นักรบสิบทิศ" คือในรอบปี 2551 ที่ผ่านมา นายวรวีร์เจอมรสุมถาโถมเข้ามาหลายเรื่องทั้งศึกในและศึกนอก โดยเฉพาะเรื่องเก้าอี้นายกฟุตบอล ที่นายเก่าจะมาแย่งคืน, ฟุตบอลไทยลีก, ฟุตซอล เรื่องปัญหาภายในสมาคมฟุตบอล แต่สุดท้ายสามารถฟันฝ่าอุปสรรคและมรสุมเหล่านี้มาจนได้
นายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ และ "มาดามมล" นางนฤมล ศิริวัฒน์ ฉายาที่ได้รับ "ผัวชง เมียตบ" มาจากประเด็นร้อนในการเป็นหัวหอกการจัดตั้งสมาคมเทนนิสอาชีพแห่งประเทศไทย ขึ้นมาอีกสมาคมขึ้นมาเพื่อมาคานอำนาจลอนเทนนิสแห่งประเทศไทยที่มีอยู่แล้ว เมื่อมีคนต้านมาก ฝ่ายชายออกมาโบ้ยไม่ได้เป็นคนริเริ่ม ขณะที่ภรรยายังมีที่ท่าดันทุรังสานต่อ
สมจิตร จงจอหอ นักชกเจ้าของเหรียญทองปักกิ่งเกมส์ ฉายา "กำปั้นสุดท้าย" เหรียญทองเหรียญนี้รอมานานถึง 12 ปีกว่าจะคว้าได้ แต่กลับมาประสบความสำเร็จในวัยที่โรยรา 33 ปี ซึ่งถือว่าเป็นรถไปเที่ยวสุดท้ายของ สมจิตร นั่นเอง
"น้องเก๋" ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล จอมพลังเหรียญทองปักกิ่งเกมส์ ได้รับฉายา "น้องเก๋...เจ๊สั่งได้" สำหรับน้องเก๋ ถือว่าเป็นนักยกน้ำหนักลูกรักของบุษบา ยอดบางเตย และ พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย ทำให้ทุกอย่างในการตัดสินใจของประภาวดี มักต้องถามความคิดเห็นจากพ่อและแม่คนที่ 2 นี้เสมอ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
