คนอ่างทองผวา "ปอบ" สิงแม่เฒ่าวัย 80 เผยกลางวันนอนซม ตกดึกกระปี้กระเปร่าออกนอกบ้านทุกคืน ญาตินิมนต์พระทำพิธีขับไล่ไม่สำเร็จ หมอระบุป่วยโรคคนแก่
แม้ว่าโลกวิทยาศาสตร์ในยุคปัจจุบันเจริญรุดหน้าไปไกล แต่ความเชื่อด้านไสยศาสตร์ในสังคมไทยคงฝังรากอยู่ เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวทราบข้อมูลว่าชาวบ้านหมู่ 6 ต.ยี่ล้น อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ต่างหวาดกลัวกับกระแสข่าวที่ว่ามี "ปอบ" มาสิงร่างหญิงชราชื่อนางริน (นามสมมติ) อายุ 80 ปี ทำให้ไม่กล้าออกจากบ้านในเวลากลางคืน
จากนั้นผู้สื่อข่าวไปเดินทางไปยังบ้านของนางริน ซึ่งเป็นเพิงสังกะสีหลังเล็กๆ ภายในพบนางรินนอนอยู่บนที่นอนในสภาพผอมแห้ง เหมือนคนไม่มีเรี่ยวแรง ห้อยวัตถุมงคลไว้ที่คอ โดยมีหลานชาย 2 คนคอยดูแล ส่วนที่มุ้งมีผ้ายันต์ผูกติดไว้ ภายในบ้านยังพบสายสิญจน์และเครื่องรางของขลังอีกจำนวนหนึ่ง
นายมนตรี อายุ 38 ปี หลานของนางรินกล่าวว่า นางรินนอนป่วยมา 1 เดือนแล้ว โดยไม่รับประทานอาหารเลย ดื่มน้ำเพียงอย่างเดียว ส่วนเวลากลางวันจะนอนหลับ แต่กลางคืนกลับมีเรี่ยวแรงเหมือนคนปกติที่มีสุขภาพแข็งแรง และมักจะออกไปนอกบ้านเวลากลางคืน และห้ามญาติพี่น้องติดตาม โดยบอกว่าจะกลับมาที่บ้านพักเอง
"ตอนแรกผมก็ไม่เชื่อว่าจะมีผีปอบเข้าสิงยาย แต่มาระยะหลังพระเกจิมาทำพิธีขับไล่ทำให้เชื่อว่ามีผีปอบเข้าสิงยาย ก่อนหน้าที่ยายจะมีพฤติกรรมแปลกๆ ในรอบ 1 เดือน ลูกสาวของยายมาเยี่ยมบ้านที่อ่างทอง และพาคนรู้จักซึ่งอยู่ที่ จ.ปราจีนบุรี มาด้วย เมื่อทั้งคู่กลับไปยายก็มีอาการผิดปกติมาโดยตลอด ไม่ยอมกินข้าว ไม่พูดจากับใคร กลางวันจะไม่มีแรงและไม่ออกไปไหน กลางคืนจะมีแรงและแข็งแรงมาก ลูกหลานเห็นผิดสังเกตจึงเชิญพระมหาทวี อัคเทโว เจ้าอาวาสวัดอบทม ใน อ.วิเศษชัยชาญ ซึ่งเป็นพระเกจิที่มีชื่อมาไล่ผี ปรากฏว่าระหว่างที่ทำพิธีอยู่นั้นกลิ่นซากศพโชยออกมาแรงมาก จนพระมหาทวีไม่สามารถไล่ผีปอบออกไปได้" นายมนตรีกล่าว
หลานชายยายรินกล่าวอีกว่า ต่อมาญาตินิมนต์พระหยิบ เจ้าอาวาสวัดบ้านกลาง ที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงกัน ซึ่งเชื่อว่าพระที่มีคาถาอาคมแก่กล้า มาขับไล่วิญญาณที่สิงร่างนางริน จากนั้นพระหยิบทำด้ายทำมงคลมาให้ โดยนำด้ายมงคลสวมไว้ที่คอ ปรากฏว่าเกิดอาการกระวนกระวายและไปหยิบผ้าถุงมาหนุนหัว ซึ่งน่าเชื่อว่าเป็นการแก้เคล็ด และไม่สามารถขับไล่ออกจากร่างได้ หลังจากนั้นก็ไปหาพระที่วัดท่าตลาด ซึ่งก็เป็นพระเกจิอีกองค์หนึ่ง นิมนต์มาที่บ้าน ได้นั่งทางในและเขียนยันต์แขวนไว้ที่มุ้ง ทำพิธีด้วยการเอาไก่มาทำเป็นเครื่องเซ่น และเอาไปฝังใกล้บ้าน ปรากฏว่าไก่ไม่เน่ามีแต่แห้งเหี่ยวไปเอง ญาติพยายามที่จะทดสอบหลายครั้งตามความเชื่อไม่ว่าจะเอาขนเม่นมาวางไว้ไต้ที่นอน โดยไม่ให้นางรินรู้ตัว กระทั่งเอาหนังคางคกมาวางไว้ก็มีอาการทุรนทุราย และหาทางเอาออกไปในที่สุด
"ผีปอบที่มาสิงร่างของยาย เชื่อว่าน่าจะมาจากเขมร เพราะทั้งลูกสาวของยายและคนที่มาด้วยกันก็มาจากปราจีนบุรี ส่วนพื้นที่ที่ลูกสาวของยายรินปลูกบ้านอยู่ก็ลือกันว่าเป็นสุสานของชาวเขมรที่เข้ามาตายในไทย วิญญาณอาจจะตามมาจากปราจีนบุรี เมื่อมาเจอยายรินซึ่งป่วยจึงแฝงตัวเข้าสิง ผมเคยพายายไปหาหมอที่โรงพยาบาลวิเศษชัยชาญ คำตอบที่ได้รับก็คือเป็นโรคคนแก่เท่านั้น ซึ่งจะหายไปเอง" นายมนตรี ระบุ
พระมหาทวี กล่าวย้อนเรื่องราวในวันไปทำพิธีขับไล่ว่า เมื่อเอามีดหมอหรือวัตถุมงคลไปถูกตัวนางริน จะมีกลิ่นสาบของซากศพโชยออกมาอย่างรุนแรง นางรินตาขวางน่ากลัวมาก "อาตมาเห็นท่าไม่ดีจึงได้แค่เทศน์ บอกให้ต่างคนต่างอยู่อย่ามารบกวนกันเลย ซึ่งเท่าที่สอบถามชาวบ้านต่างหวาดกลัวไม่กล้าออกจากบ้านในยามค่ำคืน" พระมหาทวีกล่าว
ด้าน ด.ช.บอย อายุ 13 ปี ที่บ้านอยู่ใกล้บ้านของนางริน กล่าวว่า ระหว่างที่มีพระมาทำพิธีก็ไปดูด้วย เห็นท่าทางของนางรินแล้วน่ากลัว ขณะนี้แม้แต่พ่อและแม่ก็ไม่ออกจากบ้านในเวลาค่ำคืนเพราะกลัวอันตราย
วันเดียวกัน นพ.โชคชัย อินทรประสงค์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิเศษชัยชาญ กล่าวว่า นางริน เข้ามารักษาที่โรงพยาบาลวิเศษชัยชาญ เมื่อวันที่ 13 มกราคม ที่ผ่านมา โดยพบว่ามีอาการซึมๆ เหนื่อยๆ ไม่ค่อยรู้สึกตัว พูดจาน้อย ซึ่งมีอาการก่อนมาหาหมอเพียง 2 ชั่วโมง จากการตรวจพบว่ามีหัวใจโต โลหิตจาง แพทย์ได้ให้เลือดและให้นอนโรงพยาบาล 3 วัน จึงให้กลับบ้าน และก็ไม่ได้เจอผู้ป่วยอีกเลย
ส่วนเรื่องว่ามีปอบเข้าสิงนั้น นพ.โชคชัย กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ไม่ขอออกความคิดเห็น เพราะเป็นความเชื่อแต่ละบุคคล ส่วนตัวไม่เคยเห็นและไม่พบว่าใน จ.อ่างทองจะมีผีปอบแต่อย่างใด
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก dphotojournal.com (ไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล)
