x close

ปลดล็อกการเรียนพิชิตสอบ ลดความเครียดวิตกกังวล !?!

a-net

a-net

a-net

a-net



         ใกล้เข้ามาสำหรับช่วงเวลาปิดเทอม แต่ก่อนถึงเวลานั้นระหว่างนี้หลายโรงเรียนอาจกำลังอยู่ระหว่างการสอบ นอกจากการสอบดังกล่าว การทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐานหรือโอเน็ต (O-NET) และการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นสูงหรือเอเน็ต (A-NET) จากที่ผ่านมามีความเคลื่อนไหวให้ติดตามต่อเนื่อง 
 
         ช่วงเวลานี้สิ่งที่มีให้เห็นควบคู่ไปคงไม่อาจปฏิเสธได้กับความคร่ำเคร่งทบทวนการเรียนและสิ่งหนึ่งที่อาจมีอยู่ในความคิดของเด็กๆ ก็เห็นจะเป็นเรื่องของการเรียนเสริมเรียนเพิ่มจากการเรียนในห้องเพื่อให้ความรู้ที่มีอยู่แน่นขึ้น ขณะเดียวกันการเรียนด้วยความตั้งใจทบทวนสม่ำเสมอยังเป็นอีกคำตอบของการพิชิตการสอบ 
 
         ศ.ดร.อุทุมพร จามรมาน ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ ให้มุมมองความรู้แนะวิธีเรียนว่า ปัญหาการเรียนมีหลายปัจจัย การเรียนอย่างไรเพื่อให้ถึงเป้าหมายนั้น การรู้เข้าใจในวิธีเรียนสิ่งนี้มีความสำคัญอย่าง วิธีอ่าน อ่านอย่างไรถึงจะเข้าใจ อ่านอย่างไรจึงจะเร็วจับใจความคิดวิเคราะห์ได้ อย่างการอ่านหนังสือพิมพ์ อ่านตำราก็มีความต่างกัน อ่านตำราต้องศึกษาทำความเข้าใจต้องอ่านช้า บทความบางเรื่องต้องอ่านแล้วคิดวิเคราะห์ ฯลฯ การอ่านจึงมีหลายประเภทขึ้นอยู่กับว่าอ่านอะไร

         ความสามารถในการเขียน นักเรียนส่วนมากจะเขียนไม่เป็นเพราะชินกับข้อสอบปรนัย ฉะนั้นเมื่อไหร่ที่จะต้องตอบอัตนัยก็จะไม่ค่อยรู้เรื่อง  ทำรายงานก็ไม่รู้เรื่องเขียนไม่ได้ ฯลฯ การคิดวิเคราะห์คิดสังเคราะห์ เชิงเหตุผลรวมทั้งการฝึกการจำ ก็มีส่วนสำคัญซึ่งถ้าจำส่วนหนึ่งที่เหลือเรียนแบบเข้าใจ คิดวิเคราะห์เป็นก็จะช่วยทำให้การเรียนลึกซึ้งขึ้น

         นอกจากนี้ยังมีในเรื่องการฟัง ฟังแล้วจับประเด็นไม่ได้ ไม่ถามซึ่งการไม่ถามก็เหมือนการไม่คิด ไม่รู้จะตั้งคำถามอย่างไรหรือกลัวที่จะถาม ถามไปแล้วเดี๋ยวจะเชย ซึ่งการถามทำให้นักเรียนได้แสดงออก ฯลฯ ส่วนสมาธิ เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญไม่ว่าจะเป็นสมาธิในการอ่าน สมาธิในการถาม ทุกสิ่งต้องมีสมาธิใจจดจ่ออยู่กับสิ่งนั้นๆ 

         ความพร้อมทางร่างกาย เป็นอีกสิ่งที่มีความสำคัญเช่นกัน ร่างกายเด็กต้องการการออกกำลังกาย ต้องการอาหารที่มีประโยชน์ ต้องการการพักผ่อนที่เพียงพอ เด็กบางคนในกรุงเทพฯหลายครอบครัวโหมกับการเรียน วันเสาร์ วันอาทิตย์ ตอนเย็นยังให้เวลากับการเรียนทำให้การพักผ่อนไม่เพียงพอไม่ได้ออกกำลังกาย ร่างกายเด็กก็จะเปลี้ยลงส่งผลไปตอนที่เป็นผู้ใหญ่สุขภาพจะไม่ค่อยดี ทุกวัยจึงจำเป็นต้องออกกำลังกายต้องการเวลาพักผ่อนที่เพียงพอ

         การไม่รู้ในวิธีการเรียนเด็กจะมุ่งฟังจดทุกอย่างที่ขวางหน้า เมื่อจดไม่ทันก็ซีรอกซ์แล้วก็ท่องจำซึ่งหลายคนพอสอบเสร็จแล้วก็ลืม ทีนี้ส่งผลต่อการเรียนในมหาวิทยาลัยเพราะการเรียนในมหาวิทยาลัยเป็นการเรียนแบบต่อเนื่องต้องมีพื้นความรู้ แต่เมื่อเจอการเรียนที่เป็นแบบนี้เมื่อเข้าไปเรียนก็เรียนไม่รู้เรื่องสุดท้ายก็ไม่ประสบความสำเร็จ การเรียนด้วยความรู้ความเข้าใจสิ่งนี้จึงมีความหมายความสำคัญ

         ขณะที่การทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐานหรือโอเน็ตที่หลายโรงเรียนกำลังสอบและการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นสูงหรือเอเน็ตที่กำลังจะมีขึ้น อาจารย์ท่านเดิมให้ความรู้ถึงการทดสอบดังกล่าวว่า โอเน็ตเป็นข้อสอบที่หากตั้งใจเรียน เรียนทุกวัน สนใจทำแบบฝึกหัด อ่านหนังสือเพิ่มเติมก็สามารถที่จะทำข้อสอบได้เพราะ ข้อสอบโอเน็ตเป็นข้อสอบที่ทบทวนความรู้ที่เรียนมา

         การสอบโอเน็ตถ้าเรียนอย่างสม่ำเสมอทบทวนทำแบบฝึกหัดเรื่อยๆ ก็สามารถที่จะทำข้อสอบทำได้ เพราะข้อสอบโอเน็ตจะมีความยากมากประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเอเน็ตการสอบวัดผลดังกล่าวก็คือ โอเน็ตแต่จะสูงขึ้นลึกซึ้งขึ้น การสอบเอเน็ตนักเรียนจะเป็นผู้เลือกสอบซึ่งต้องรู้ว่าจะเข้าศึกษาในคณะใด 

         อย่างที่กล่าวมาช่วงสอบอาจมีความเครียดความวิตกกังวลเกิดขึ้น นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ผู้อำนวยการสำนักสุขภาพจิต สังคม โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้ความรู้แนะนำว่า ความเครียดที่เกิดขึ้นไม่ได้พูดในเชิงการเจ็บป่วยหรือการเป็นโรค เรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่ผิดแต่เป็นเรื่องที่ดีเพราะถ้าเข้าใจถูกต้องแล้วจะทำให้ควบคุมจิตใจของเราได้ว่าอย่างไหนพอดี อย่างไหนพอประมาณ ซึ่งความเครียดนั้นหากเป็นความพอดีถือว่าไม่มีความผิดปกติและในความเครียดของแต่ละคนจะมีความแตกต่างกัน
 
         ในความหมายของความเครียดคือ ปฏิกิริยาของร่างกายและจิตใจต่อสิ่งที่คุกคามเข้ามา ทั้งในเหตุการณ์จริงและในความนึกคิด เป็นสิ่งที่ร่างกายและจิตใจตอบสนองในสิ่งที่จะเกิดขึ้นแต่ถ้ามากเกินไปก็จะเกินความสมดุลที่เป็นปกติ อย่างจะไปสอบสัมภาษณ์สังเกตว่ามีอาการมือสั่น หัวใจเต้นเร็ว เหงื่อแตก ฯลฯ 
 
         ส่วนทางด้านจิตใจก็จะมีตั้งแต่ความวิตกกังวล หงุดหงิด นอนไม่หลับ ฯลฯ ก็จะเกี่ยวข้องกับอารมณ์และจิตใจ บางรายอาจมีอาการเครียดลงกระเพาะหรือลงไปที่ลำไส้ ถ่ายท้องหรือไม่ก็ท้องผูกไปเลยก็มี ซึ่งสิ่งเหล่านี้เมื่อมีอาการเครียด ตื่นเต้น ก็จะพบได้
 
         ในการเรียนก็เช่นเดียวกันหากมีความตั้งใจมีความสุข ความตั้งใจกับสิ่งนั้นก็จะส่งผลดี อย่างนักเรียนที่ประสบความสำเร็จในการเรียนในสิ่งที่เขาบอกกับเรา ส่วนใหญ่ไม่ใช่เพิ่งทบทวนเป็นม้าตีนปลายแต่เป็นการฝึกฝนทบทวนการเรียนอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องซึ่งสิ่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของปัจจัยความสำเร็จ 
 
         "ปัจจัยความสำเร็จนี้เกิดขึ้นได้กับทุกคน ผู้ที่กำลังจะก้าวสู่สนามสอบ การสอบก็เหมือนกับนักกีฬา หากจัดระเบียบความคิดมีวินัย มีการวางแผนอย่างดีก็จะรู้ว่าเราอยู่ประมาณไหน สามารถประเมินตนเองได้ คาดหวังในสิ่งที่เหมาะสมกับความเป็นตัวเราได้" 

         ความเครียดที่เกิดขึ้นเป็นความขัดแย้งทางด้านจิตใจ จะสูงขึ้นมากเมื่อเรามีความคาดหวังแล้วไปไม่ถึง อย่างอยากจะสอบได้ที่ 1 แต่ในความเป็นจริงที่ผ่านมาสอบได้ท้าย ๆ ความคาดหวังที่มีไว้สูงก็อาจทำให้เกิดการผิดหวังได้เยอะ เกิดความขัดแย้งความเครียด แต่ทั้งนี้สิ่งที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้เป็นเชิงลบอย่างเดียว สามารถเปลี่ยนแปลงฝึกฝนตนเองได้ ตั้งความหวังใหม่ได้ เช่นตอนนี้กำลังศึกษาในระดับมัธยมฯ1 มีความตั้งใจอยากเรียนแพทย์แต่ผลการเรียนไม่ดีซึ่งยังมีเวลาอีกนาน มีเวลาสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงวางแผนการเรียนให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งใจได้

         "การสอบไม่ว่าจะเป็นสนามสอบใด สอบเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยหรืออย่างไรก็ตาม แม้จะมีความล้มเหลวแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องล้มเหลวตลอดไป อยากให้มองเรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ในเส้นทางการศึกษายังมีอีกหลายช่องทางทั้งในประเทศ ต่างประเทศ ในโรงเรียน นอกโรงเรียน ก็มีให้ได้เรียนรู้ ซึ่งถ้ามีจิตมุ่งมั่นที่จะศึกษาหาความรู้ย่อมทำได้เสมอและไปถึงจุดหมายที่ต้องการได้ ฉะนั้นจึงไม่ควรลดละความตั้งใจที่ดี" แพทย์ท่านเดิมกล่าวทิ้งท้าย 

         จากการเตรียมพร้อมมาดี ผลสำเร็จย่อมเป็นไปตามที่มุ่งหวัง เช่นเดียวกับการเรียนการสอบ เส้นทางความสำเร็จอยู่ไม่ไกลหากมีความตั้งใจความพยายามอย่างเต็มที่



ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

พงษ์พรรณ บุญเลิศ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ปลดล็อกการเรียนพิชิตสอบ ลดความเครียดวิตกกังวล !?! อัปเดตล่าสุด 18 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา 11:03:51 3,524 อ่าน
TOP