ปิยะพงษ์ ลงชิง นายกสมาคมฟุตบอล

ปิยะพงษ์ ลงชิง นายกสมาคมฟุตบอล  (ไทยรัฐ)

         มีเพียง3เสียง รับไม่มีทางสู้ แค่สร้างสีสัน ไม่ให้ดูผูกขาด "เดอะตุ๊ก" ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน เตรียมสร้างความฮือฮาด้วย การลงชิงตำแหน่งนายกสมาคม ฟุตบอลแห่งประเทศไทยแข่งกับ “นายกยี” วรวีร์ มะกูดี ในการประชุม   ใหญ่เลือกตั้งสิ้นเดือน มี.ค.นี้ เผยมีอยู่ในกำมือแล้ว 3 เสียงคือทหารอากาศ ร.ร.จ่าอากาศ และกรมสวัสดิการทหารอากาศ ที่จะให้การสนับสนุน ยอมรับสู้บังยีไม่ได้อยู่แล้ว แต่หวังสร้างสีสันให้วงการฟุตบอลไทยจะได้ไม่ถูกมองว่าเป็นตำแหน่ง "ผูกขาด" ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง พร้อมเปิดใจอยากเข้ามาเป็นผู้ช่วยของกุนซือปีเตอร์ รีด ในทีมชาติเพื่อศึกษาความเป็นมืออาชีพของยอดโค้ชชาวอังกฤษ เผยที่ผ่านมามี 3 สโมสรดังในไทยลีกมาทาบทามให้ไปคุมทีม แต่ยังไม่ตัดสินใจต้องขอรอดูทิศทางของบอลลีกอาชีพเมืองไทยก่อน ซึ่งหากจะกลับไปคุมทีมสโมสรอาชีพอีกครั้งก็พร้อมจะลาออกจากราชการทันที 

         ห่างหายจากข่าวคราวในแวดวงลูกหนังไทยไปนานนับปี กลับมาอีกที "เดอะตุ๊ก" ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน อดีตศูนย์หน้าซุปเปอร์สตาร์ "หมายเลข 1" ตลอดกาลของทีมชาติไทย ก็เตรียมสร้างความฮือฮาด้วยการลงชิงเก้าอี้ประมุขสมาคมลูกหนังไทยแข่งกับ "นายกยี" วรวีร์ มะกูดี นายกฯ คนปัจจุบัน ในการประชุมใหญ่เลือกตั้งของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่กำหนดไว้ในวันที่ 31 มีนาคม 

         โดยเรื่องนี้ "เดอะตุ๊ก" ปิยะพงษ์ ได้เปิดเผยต่อ "กราวกีฬาไทยรัฐ" ว่า ตนตั้งใจไว้แล้วว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลฯในครั้งนี้ หลัง จากที่อดีตนายกลูกหนัง อ.วิจิตร เกตุแก้ว หันกลับมาสมานฉันท์กับนายกฯวรวีร์ ซึ่งหมายถึงว่าในการเลือกตั้งสิ้น มีนาคม นี้ "บังยี" จะไม่มีคู่แข่ง และเข้าวินเป็นนายใหญ่ สมาคมฟุตบอลฯต่อไปแบบแบเบอร์  

         "ผมรู้ว่าไม่มีทางสู้คุณวรวีร์ได้อยู่แล้ว แต่ที่ตัด สินใจลงแข่งก็เพื่อสร้างสีสันให้กับวงการฟุตบอลไทย อีกทั้งเป็นการป้องกันข้อครหาจากบุคคลภายนอกด้วยว่า สมาคมฟุตบอลฯนั้นอยู่ในอำนาจผูกขาดของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ผมมีเสียงรับรองให้การสนับสนุนแล้ว อย่างน้อย 3 เสียง จากสโมสรทหารอากาศ โรงเรียนจ่าอากาศและกรมสวัสดิการทหารอากาศ" อดีตหัวหอกจอมไขว้กล่าว 

         นอกจากนี้ ปิยะพงษ์ ยังเผยถึงเส้นทางโค้ชของตัวเอง ซึ่งที่ผ่านมาวางมือไปพักใหญ่หลังสโมสรทหารอากาศตกลงไปอยู่ดิวิชั่น 1 ว่า ได้รับการทาบทามจาก 3 สโมสรดังในไทยลีกติดต่อให้ไปคุมทีม แต่ตอนนี้ตนยังไม่ได้ตัดสินใจ เพราะตนต้องขอรอดูทิศทางของฟุตบอลลีกอาชีพเมืองไทยก่อนว่าฤดูกาลนี้จะเป็นอย่างไร หากมีแนวโน้มที่ดี ตนก็อาจจะขอลาออกจากการรับราชการกองทัพอากาศ เพื่อไปเป็นโค้ชอาชีพอย่างเต็มตัว ซึ่งเงื่อนไขของสโมสรที่ตนจะไปทำทีมให้ต้องมีการเซ็นสัญญากันอย่างน้อย 3 ปี และให้ตนมีอำนาจวางแผนทำทีมทั้งระบบตั้งแต่เยาวชนมาจนถึงชุดใหญ่

         ส่วนงานโค้ชทีมชาติ "เดอะตุ๊ก" กล่าวว่า รู้สึกสนใจไม่น้อย ที่ผ่านมาทางสมาคมฟุตบอลฯก็เคยเจรจาให้ไปดูแลทีมเยาวชน แต่หากตนเลือกได้อยากขอไปเป็นผู้ช่วยโค้ชของปีเตอร์ รีด กุนซือชาวอังกฤษ ในทีมชาติ ชุดใหญ่มากกว่า เพราะอยากจะศึกษาการทำงานของโค้ชมืออาชีพอย่างจริงจัง เพื่อนำมาปรับใช้กับตัวเองในอนาคต 

          ในตอนท้าย อดีตดาวยิงซุปเปอร์สตาร์ทีมชาติไทย ยังกล่าวอีกว่า ทุกวันนี้ถึงแม้ตนไม่ค่อยมีแอ็กชั่นอะไร ที่ปรากฏเป็นข่าวต่อสาธารณชนมากนัก แต่ก็ยังคงทำงานให้กับวงการฟุตบอลอยู่ตลอด ทั้งเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมทหารอากาศ เป็นโค้ชสอนบอลเด็ก เขียนตำราสอนฟุตบอล วิจารณ์ฟุตบอลไทยทั้งไทยและต่างประเทศ รวมทั้งเปิดเว็บไซต์ http://www.piyapongpueon.com เพื่อพบปะกับแฟนๆ และให้คนรักฟุตบอลได้เข้ามาศึกษาหาความรู้ด้วย 



ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต