นปช. แก๊ง 111 ลั่นไม่ร่วมปฏิรูปการเมือง (ไอเอ็นเอ็น)
นปช.คว่ำกระบวนการปฏิรูปการเมืองไทย บอกคณะกรรมการสถาบันพระปกเกล้า ไม่มีความชอบธรรม ด้านสมาชิกบ้านเลขที่ 111 บอกเอนเอียงระบอบอมาตยาธิปไตย
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และสมาชิกบ้านเลขที่ 111 เปิดเผยสำนักข่าวไอเอ็นเอ็นว่า ไม่เห็นด้วยกับการให้สถาบันพระปกเกล้าเป็นตัวกลาง ในการกำหนดรูปแบบการปฏิรูปการเมือง เนื่องจากการปฏิรูปการเมืองเป็นเรื่องของคนในสังคมที่หลากหลายและต้องช่วยกันคิด การมอบให้สถาบันหนึ่งสถาบันใดรับเป็นเจ้าภาพคงไม่เหมาะสม นอกจากนี้ ต้องยอมรับว่าหากให้สถาบันพระปกเกล้าเป็นเจ้าภาพ แทนที่การปฏิรูปจะมุ่งสู่ระบบประชาธิปไตย เพื่อประชาชน อาจจะเป็นระบบอมาตยาธิปไตยมากกว่า ทั้งนี้ส่วนตัวเห็นว่าหากรัฐบาล มีความจริงใจควรสรรหาผู้ที่เหมาะสมมาทำแทนโดยทำในลักษณะของสภาร่างรัฐธรรมนูญ เหมือน ในสมัยที่ นายบรรหาร ศิลปอาชา เป็นนายกรัฐมนตรี
นายพงศ์เทพ ยังไม่เห็นด้วยหากจะต้องมีการทำประชามติเพื่อหาผู้รับผิดชอบการปฏิรูปการเมือง เพราะขณะนี้ประเทศชาติ ก็แย่พออยู่แล้วคงไม่เหมาะสมหากจะต้องเสียเงิน 2 พันล้าน เพื่อทำประชามติ
นอกจากนี้นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา ในฐานะโฆษกส่วนตัวพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังปฏิเสธไม่ทราบว่าเหตุใด พ.ต.ท. ทักษิณ จึงมีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถกลับประเทศไทยได้ก่อนสิ้นปีนี้ ในการให้สัมภาษณ์ Far Eastern Economic Review นิตยสารชื่อดังของฮ่องกง ซึ่งเดินทางไปสัมภาษณ์ที่ กรุงดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และส่วนตัวยังไม่มีโอกาสได้สอบถาม
อย่างไรก็ตามในส่วนของการที่รัฐบาลพยายามที่จะประสานขอตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อกลับมาดำเนินคดี กรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะปาฐกถาบนเวทีสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศฮ่องกง ในวันที่ 12 มีนาคม นั้น ทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้เดินทางไปด้วยตนเอง แต่เป็นการปาฐกถาผ่านระบบวิดีโอลิงค์ พร้อมยืนยัน พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้เดินทางไปปาฐกถาด้วยตนเอง ไม่ได้มีสาเหตุมาจากการดำเนินการของรัฐบาล เพราะตามข้อกฎหมายระหว่างประเทศ คงยังไม่สามารถดำเนินใดๆ ได้
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. บอกว่า ทางกลุ่ม จะไม่มีทางเข้ากับ คณะกรรมการอิสระเพื่อศึกษาพัฒนาประชาธิปไตยและการเมืองการปกครอง แม้ว่า จะมีการให้ตัวแทน นปช. 1 ตำแหน่ง เพื่อเข้ารูปปฏิรูปทางการเมืองเนื่องจาก กระบวนการสรรหา ผิดมาตั้งแต่เริ่ม และไม่มีความไว้วางใจ คณะกรรมการของสถาบันพระปกเกล้าเนื่องจาก หลายคนมีตำแหน่ง สนช. ในช่วงรัฐประหาร และรัฐบาลหมดความชอบธรรม การปฏิรูปครั้งนี้เป็นการยื้อเวลาของรัฐบาล เป็นการปัดสวะปัญหาการเมือง ให้สถาบันพระปกเกล้า
ด้าน นายสมเกียรติ พงศ์ไพบูลย์ แกนนำ พธม. บอกว่า เรื่องดังกล่าว กลุ่มยังไม่ตัดสินใจจะเข้าร่วมในการปฏิรูปการเมืองหรือไม่ ต้องมีการประชุมร่วมกันกับ 4 แกนนำก่อน ขณะที่ นายพิภพ ธงไชย บอกว่า การปฏิรูปถือเป็นสิ่งดี แต่ต้องจับตาดูว่า คณะกรรมการฯ มีความจริงใจแค่ไหน และหากไม่สามารถปฏิรูปได้จริง ก็คงถึงเวลาที่ต้องตั้งพรรคการเมืองของพันธมิตรฯ
ขณะที่ศาสตราจารย์ ดร.สุจิต บุญบงการ เปิดเผยภายหลังเข้าทำหน้าที่เป็น ประธานโครงการศึกษาเพื่อการพัฒนาประชาธิปไตยและการเมืองการปกครอง ว่าตนเองคงยังไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดการทำงานได้ เนื่องจากต้องขอหารือเรื่องกรอบการทำงาน รวมทั้งการคัดเลือกกรรมการที่จะเข้ามาร่วมกันทำงานกับทางรองศาสตราจารย์วุฒิสาร ตันไชย รองเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ซึ่งได้มีการนัดหมายหารือกันไว้ที่ สำนักงานสภาพัฒนาการทางการเมือง ในเวลา 10.00 น. วันนี้ก่อน
ส่วนแนวทางในการทำงานของคณะกรรมการ จะมีเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามที่ทางพรรคการเมืองส่วนใหญ่ เรียกร้องหรือไม่นั้น ศาสตราจารย์ ดร.สุจิต กล่าวว่าคงต้องรอฟังความเห็น จากทางกรรมการทุกท่าน ที่จะได้รับเชิญมาร่วมกันทำงานในครั้งนี้เสียก่อนแต่ในเบื้องต้นตนเองเชื่อว่า แต่ละท่านคงจะมีคำตอบในเรื่องดังกล่าวอยู่ในใจแล้ว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
