x close

รูปรถฝ่าไฟแดง ทำความแตก-แอบมีกิ๊ก



สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจากหนังสือพิมพ์ข่าวสด

          เมื่อวันที่ 12 มีนาคม พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น. รับผิดชอบงานจราจร กล่าวถึงการดำเนินการใช้ระบบตรวจจับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร (เรดไลท์ คาเมร่า) ตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค.51 จนถึงวันนี้ผ่านมาเป็นระยะเวลา 2 เดือนเศษ แล้วมีการส่งหมายเรียกไป ประมาณ 1 แสนใบเศษ ปัญหาที่พบมีไม่มาก ปัญหาที่พบคือมีการปลอมป้ายทะเบียน ตรวจพบมีจำนวน 14 ราย ซึ่งเจ้าของรถจริงนำรถมาให้ตรวจสอบแล้วพบว่าไม่ใช่รถคันที่ฝ่าไฟแดง เราจะยกเลิกหมายเรียกนั้น แต่บางคันมาอ้างว่าไม่ใช่รถคันที่ฝ่าสัญญาณไฟจราจร เมื่อนำรถมาให้ตรวจพิสูจน์ก็พบว่าตรงกันกับรถคันที่ฝ่าไฟแดง เป็นหน้าที่ของเจ้าของรถคันนั้นต้องพิสูจน์ทราบให้ได้ว่าขณะที่ฝ่าไฟแดงนั้นไม่ได้อยู่ที่แยกดังกล่าว

          รอง ผบช.น. ยังกล่าวถึงการจัดส่งหมายเรียกไปถึงบ้านเจ้าของรถที่ฝ่าไฟแดงว่า ขณะนี้ดำเนินการจัดส่งได้วันต่อวันแล้ว เมื่อรับหมายแล้วไม่รู้ว่าเสียค่าปรับเท่าไร เราก็ให้ลงค่าปรับ 500 บาทไว้ในหมายเรียกด้วย

          "ในต่างประเทศใช้กล้องถ่ายภาพด้านตรงหน้ากระจกรถมองเห็นผู้ขับขี่เป็นใคร จะปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้ขับขี่ไม่ได้ แต่เกิดปัญหาฟ้องร้องกัน เพราะในภาพเห็นคนนั่งคู่คนขับมาด้วยว่าเป็นกิ๊กหรือตุ๊กตาหน้ารถ ทำให้ครอบครัวทะเลาะแตกแยก ฟ้องร้องกัน จึงแก้ไขโดยการทำภาพในหมายเรียกให้เบลอไม่รู้ว่าเป็นใคร ส่วนของไทยเราถ่ายภาพรถจากทางด้านหลัง แต่มีปัญหาเมื่อส่งหมายเรียกไปที่บ้านภรรยาเป็นคนรับ ไม่รู้ว่าสามีไปแอบผ่อนรถอีกคันให้ภรรยาน้อยอยู่ มารู้ก็เมื่อมีหมายเรียกฝ่าไฟแดงส่งไปที่บ้านเพราะภรรยาน้อยขับรถไปฝ่าไฟแดงเข้า" พล.ต.ต.ภาณุ กล่าว

          พล.ต.ต.ภาณุ ยังกล่าวฝากว่า ส่วนผู้ขับขี่ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ หากจำเป็นต้องไปดื่มในงานเลี้ยงต่างๆ ควรเรียกใช้รถสาธารณะ หรือแบ่งหน้าที่ให้คนไม่ดื่มเป็นคนขับ ถ้าดื่มแล้วเมื่อเจอด่านตรวจวัดก็ให้จอดปฏิบัติตามเจ้าหน้าที่ตำรวจสั่ง การปฏิเสธไม่เป่าเครื่องวัดระดับแอลกอฮอล์ถือว่าขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน จะถูกดำเนินคดีอีกข้อหาหนึ่ง ส่วนเครื่องวัดระดับจะเปลี่ยนที่สำหรับใช้ปากเป่าใหม่ทุกครั้ง เครื่องจะมีการตรวจสอบมาตรฐานจากกรมวิทยาศาสตร์ทุกๆ 6 เดือน จะมีใบกำกับการตรวจ หลอดเป่าเปลี่ยนใหม่ทุกครั้ง ค่าที่อ่านได้จะเป็นหลักฐานในศาลรับฟังเพราะเครื่องมือเป็นมาตรฐาน การปฏิเสธการเป่าระยะหลังไม่ค่อยพบ ถ้าปฏิเสธจะถูกข้อหาขัดขืนคำสั่งเจ้าพนักงาน สามารถสอบปากคำพยานใกล้เคียงประกอบสำนวนแทนการเป่าได้

          รอง ผบช.น. กล่าวต่อว่า เมื่อเป่าเครื่องวัดระดับฯ แล้วพบว่าเกินกฎหมายกำหนด จะขับรถไป สน.เอง ไม่ได้ ต้องให้คนอื่นที่ไม่เมาขับไปส่งพบพนักงานสอบสวนรับทราบข้อหาแล้วควบคุมตัวเพื่อส่งฟ้องศาล การจะออกจากห้องขังก็ต้องประกันตัวด้วยหลักทรัพย์ 2 หมื่นบาท คดีเมาแล้วขับทุกรายส่งฟ้องศาล ที่ผ่านมาศาลตัดสินปรับต่ำสุด 5,000 บาท คุมประพฤติ 2 ปีและสั่งให้บำเพ็ญประโยชน์ 24 ชั่วโมง

          "โดยเฉลี่ยนครบาลจับเมาแล้วขับเดือนละ 1.2-1.3 พันรายต่อเดือน โดยสน.มักกะสัน มีโอกาสถูกร้องเรียนมากกว่าใครเพราะมีผลการจับกุมเมาแล้วขับเฉลี่ยเดือนละ 200 กว่าราย ในนครบาลทั้งหมดทุก สน. และบก.จร.ด้วย พบว่า สน.มักกะสัน จับกุมข้อหาเมา แล้วขับได้สูงสุดทุกเดือน รองลงมาเป็น สน.สุทธิสาร เพราะเป็นพื้นที่เส้นทางผ่านย่านแหล่งสถานบริการมาก คนเมาแล้วขับรถจะต้องเอาเต็มที่ อย่าไปรับฟังมาก น่าสงสารตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่จับเมาเพราะ ถูกด่าถูกต่อว่ามากกว่าด่านอื่นๆ" พล.ต.ต.ภาณุ กล่าว



ขอขอบคุณข้อมูลจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
รูปรถฝ่าไฟแดง ทำความแตก-แอบมีกิ๊ก อัปเดตล่าสุด 15 มีนาคม 2552 เวลา 01:42:19 75,951 อ่าน
TOP