รุมด่า "ต้าร์" แย่. . . โถ "ได๋" ยังป้อง (สยามดารา)
เจออีกคนแล้ว!! Hi5 บรรยายความในใจของ "ได๋ - ไดอาน่า" ว่อนอินเตอร์เน็ต หลังถูกเพื่อนชาย "นาวิน ต้าร์" ปฏิเสธความสัมพันธ์ต่อหน้าสื่อ ข้อความระบุภาพที่เห็นกับความจริงไม่เหมือนกัน ป้อง "ต้าร์" อาจจะวางตัวไม่ถูก ไม่รู้จะตอบคำถามยังไงดี หยอดยาหอมเพื่อนชายเป็นคนดี และให้เกียรติ ทำใจอยู่ในวงการ ก็เหมือนขายความเป็นส่วนตัว
ทำเอาหนุ่มๆ สงสารกันทั้งประเทศ เมื่อจู่ๆ ดาราสาวหน้าหมวยอย่าง "ได๋" ไดอาน่า จงจินตนาการ ก็ถูกฉีกหน้า จากเพื่อนชายคนสนิทที่มีข่าวกุ๊กกิ๊กกันมาตลอด ตั้งแต่อยู่เมืองนอกด้วยกัน อย่าง "นาวิน ต้าร์" หรือ นาวิน เยาวพลกุล ในงานงานหนึ่งซึ่งทั้งคู่ออกงานด้วยกันเป็นครั้งแรก แต่พอสื่อมวลชนรุมสัมภาษณ์ถึงความสัมพันธ์ "ต้าร์" กลับบอกว่าเป็นแค่เพื่อนกัน แถมโอกาสพัฒนายังเป็นศูนย์อีกด้วย จากคำพูดในวันนั้นของ "ต้าร์" ทำเอา "ได๋" ออกอาการอดทนอดกลั้นอย่างเห็นได้ชัด และจากปรากฏการณ์วันนั้น ทำเอาหลายคน วิพากษ์วิจารณ์การกระทำของ "ต้าร์" อย่างหนาหู ว่าใจดำไม่เป็นสุภาพบุรุษ
หลังจากนั้นไม่นานก็มีข้อความที่ ''ได๋'' คอนเมนต์ไปหาเพื่อนใน Hi5 ซึ่งเป็นภาษาอังกฤษแต่มีใจความว่าภาพที่หลายคนเห็นในวันนั้น กับความเป็นจริงมันไม่เหมือนกัน ก็สร้างความงุนงงให้กับคอข่าวไม่น้อย มีโอกาสเจอได๋ในงาน "The Color of Sahara @ CentralPlaza Pinklao" จึงได้ถามความรู้สึกว่าที่มีข้อความออกมาในลักษณะนั้น ทั่วอินเตอร์เน็ต หมายความว่ายังไง เกี่ยวกับเรื่องนี้ "ได๋" ก็ตอบไม่กระจ่างชัดนัก บอกแต่ว่าภาพที่ปรากฏในวันนั้น ไม่สามารถวัดได้ว่าใครเป็นคนดีหรือคนเลว
ได๋ : อ๋อ คืออย่างนี้ค่ะ เวลาที่เราตอบอะไรก็แล้วแต่ ที่เราสัมภาษณ์กัน มันใช้เวลานาน เวลาที่ตัดออกมามันนิดเดียว เพราะฉะนั้นภาพที่ออกมามันจะบอกไม่ได้ว่าคนนี้เป็นคนดี หรือคนเลว เพราะว่าจริงๆ แล้วมันไม่ได้ขนาดนั้น หลายๆ คนก็ตำหนิเค้าว่า เฮ้ย!! ทำไมทำแบบนั้น จะบอกว่า ไฮไฟว์แทบแตก ก็เลยทิ้งเอาไว้ ในส่วนของคอมเมนต์อีกอันหนึ่ง พอดีเพื่อนอยู่เมืองนอก แล้วเค้าคอมเมนต์มาหาแบบเป็นห่วงก็เลยเมนต์กลับไป ปรากฏว่าไม่รู้ใครแคปเจอร์ออกมา แล้วก็กลายเป็นข่าว
คือสรุปว่าข้อความนั้นก็เพื่อจะบอกว่า "ต้าร์" ไม่ได้แย่อย่างที่หลายคนคิดใช่มั้ย
ได๋ : เอ่อ เอางี้ดีกว่าค่ะ เค้าไม่ได้อยู่ในวงการซักพักหนึ่งเค้าไปเรียนหนังสือ เพราะฉะนั้นแล้วเนี่ย เค้าคงไม่คุ้นเคยกับคำถามที่เค้าจะต้องตอบ เค้าอาจจะไม่คุ้นเคยเท่าไหร่นักก็เท่านั้นเอง แต่คิดว่าผลกระทบกับเค้าน่าจะมีเยอะกว่า คนก็มองเค้าในแง่ลบ ภาพ 1 ภาพมันตีความได้หลายอย่าง โดยเฉพาะภาพที่เป็นคลิปเป็นภาพ เคลื่อนไหวได้ คนก็ตีความได้ต่างๆ นานา หลังจากวันนั้นได้คุยกับต้าร์หรือเปล่า
ได๋ : ก็บอกเค้าเหมือนกันว่า เวลาต้องตอบคำถามนักข่าวเนี่ย ต้องตั้งสติให้ดี เพราะพี่ๆ มีความสามารถในการตั้งคำถามมาก ถามไปเรื่อยๆ จนกว่าเราจะพูดออกมา ถ้าอยากรู้ว่าผลกระทบหลังจากวันนั้น เป็นยังไง ถ้ามีโอกาสเจอเค้า ก็ลองไปถามเค้าดู ว่าสิ่งที่เค้าทำหรือพูดไปวันนั้น มีผลกระทบอะไรกับเค้าหรือเปล่า หนูเชื่อว่าพี่มีวิธีการถาม จนกระทั่งเค้าต้องตอบออกมา แต่ภาพที่ออกมาในวันนั้น เหมือน "ได๋" กลั้นอารมณ์โกรธเอาไว้มากๆ คนก็เลยอดคิดไม่ได้ว่าต้าร์แย่มากที่พูดแบบนั้น
ได๋ : อย่างที่หนูบอกว่าปกติจะไม่พูดเรื่องส่วนตัว ถ้าเราจะคบกับใครเนี่ย มันเป็นเรื่องของคน 2 คน มันเป็นเรื่องของความรู้สึกที่ละเอียดอ่อน เราไม่สามารถพูดออกมาเป็นคำพูดได้ มันต้องกลั่นกรองนิดหนึ่ง วันนี้ดีขึ้นแล้วใช่มั้ย ไม่ได้แย่เหมือนวันนั้นแล้ว
ได๋ : ครั้งที่แล้ว ด้วยความที่อยู่ในที่สาธารณะที่ไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาก งงมาก เหมือนกับว่าเราเพิ่งออกจากเวทีมา ทำตัวไม่ถูก ก็เลยอาจจะงงไปบ้าง แต่วันนี้เรามาเป็นพิธีกร เป็นตัวของตัวเองก็เลยรู้สึกดีขึ้น อย่างไฮไฟว์ที่หลุดออกมาเป็นข่าวซีเรียสมากมั้ย
ได๋ : เราไม่ได้เมนต์อะไรที่มันเป็นเรื่องเสียหายมาก แค่เรารู้ว่าเพื่อนเป็นห่วงเรา แล้วเราก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่อะไร คือบางทีคนเรา ถ้ามีเรื่องอะไรก็แล้วแต่ คนเราเค้ามีแนวคิดอยู่แล้ว ว่าเค้าอยากจะเชื่ออะไร บางทีเราพูดอะไรออกไป ก็ไม่สามารถเปลี่ยนความคิดของเค้าได้ ก็ไม่รู้เหมือนกัน ก็เลือกแล้วที่จะอยู่ในวงการก็คงจะต้องเป็นแบบนี้อ่ะค่ะ หลังจากวันนั้นคุณพ่อคุณแม่ว่ายังไงบ้าง
ได๋ : คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ว่าอะไรอยู่แล้วทุกวันนี้เห็นลูกสาว อยู่ในวงการ ทำมาหากินมีความสุข ไม่ได้เป็นโรคซึมเศร้าหรืออะไร คุณพ่อคุณแม่เค้าทราบว่าต้าร์เค้าเป็นคนดีคนหนึ่ง ให้เกียรติเรามาตลอด นอกเหนือจากที่เค้าเป็นผู้ชายในอุดมคติของผู้หญิงหลายๆ คนแล้วก็เป็นคนดี เป็นคนดีมากจริงๆ รู้สึกยังไงที่ไฮไฟว์ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัวเดี๋ยวนี้ไม่ได้เป็นพื้นที่ส่วนตัวอีกต่อไปแล้ว
ได๋ : ก่อนอื่นเลย ถ้าคนเลือกที่จะเป็นดารา เลือกที่จะอยู่ในวงการบันเทิง ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ต้องเป็นข่าวอยู่แล้ว เราก็ต้องทำใจ อย่างไฮไฟว์ ที่หนูไปเมนต์ในพื้นที่ส่วนตัว ถามว่าหนูแคร์มั้ย ที่คนจะเข้ามาอ่าน หนูไม่แคร์ ยังไงก็ได้ ถ้าคุณคิดจะเข้ามาอ่าน ถ้าคุณอยากจะรู้เรื่องของเราก็ทำได้ ก็คลิกเข้ามาคุณก็รู้เรื่องอยู่แล้ว ได๋เข้าใจอยู่แล้ว ว่าการอยู่ในวงการบันเทิงก็คือการขายชีวิตส่วนตัวของตัวเอง
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
