สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก กรุงเทพธุรกิจ และ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
วันนี้ (27 เมษายน) รองศาสตราจารย์ นายแพทย์วิสูตร ฟองศิริไพบูลย์ หัวหน้าภาควิชานิติเวช โรงพยาบาลศิริราช แถลงข่าวผลการผ่าพิสูจน์ศพ พลทหารอภินพ เครือสุข อายุ 22 ปี ทหารรับใช้ พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ซึ่งเสียชีวิตภายในบ้านพักแม่ทัพภาคที่ 1 ตั้งอยู่ในกรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) เมื่อวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา โดยครอบครัวและทีมงานพรรคเพื่อไทย ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต ว่า สาเหตุการเสียชีวิตเบื้องต้นพบว่า บริเวณลำคอด้านหลังซ้าย ฐานกระโหลกศีรษะด้านซ้ายส่วนหลังมีรอยแตกร้าว ฐานกระโหลกศีรษะซ้ายส่วนหลังใกล้ช่องไขสันหลัง มีรอยร้าวต่อเนื่องยาวประมาณ 6-7 เซนติเมตร พบเลือดออกเหนือเยื่อหุ้มไขสันหลังส่วนคอ เนื้อสมองกลีบซ้ายส่วนหลังมีรอยกดยุบเหนือเยื่อหุ้มสมองชั้นหนา หลังจากนี้จะตัดชิ้นเนื้อเยื่อ บริเวณ คอ แขน ขา กระดูก เพื่อมาหาผลตรวจอย่างละเอียดต่อไป
ส่วนสาเหตุเกิดจากการถูกตีหรือลื่นล้มนั้น เป็นไปได้ทั้งสองอย่าง แต่ถ้าถูกของแข็งกระแทกก็ต้องโดนอย่างแรง หากลื่นล้มก็ต้องรุนแรง ทั้งนี้ต้องตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ตำแหน่งในที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะต้องสืบหาข้อเท็จจริง ส่วนเวลาที่เสียชีวิตหลังจากกระแทกของแข็ง ก็ต้องขึ้นกับปริมาณของเลือดที่ซึมออกมาว่ามากหรือน้อย หากเลือดออกมากอาจจะเพียงแค่ 1 ชั่วโมงก็เสียชีวิต แต่หากเลือดค่อยๆ ซึมออกมา กว่าจะเสียชีวิตก็อาจข้ามวัน
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 26 เมษายน นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เดินทางมาเตรียมการผ่าพิสูจน์ครั้งที่สองศพ พลทหารอภินพ
โดย นางศิริมนต์ มาเพ็ด มารดา พลทหารอภินพ และนายจักรพรรดิ์ เครือสุข พี่ชาย มาติดตามการผ่าพิสูจน์ศพที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ นอกจากนี้ ยังมี นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย, น.พ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีตส.ส.พรรคไทยรักไทย, นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล, น.พ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย, พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนํานปช. เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย อย่างไรก็ตาม พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ไม่อนุญาตให้ผู้อื่นเข้าร่วมสังเกตการณ์ เพราะผิดระเบียบการชันสูตรพลิกศพ ซึ่งจะต้องเป็นญาติแท้ๆ ของผู้ตายเท่านั้น เพื่อป้องกันข้อครหาความไม่เป็นกลาง และสองมาตรฐาน จนต้องเจรจากันนานกว่า 1 ชั่วโมง แต่ก็ยังไม่ได้ข้อยุติ นางศิริมนต์ มารดาผู้ตาย จึงตัดสินใจยกเลิกการผ่าพิสูจน์ศพลูกชายที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ โดยนําศพลูกชายย้ายไปผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลศิริราชแทน ในวันที่ 27 เมษายนนี้
ซึ่งนางศิริมนต์ มารดาพลทหารอภินพ เปิดเผยว่า ภายหลัง พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ ไม่อนุญาตให้แพทย์จากหน่วยงานอื่นเข้าร่วมสังเกตการณ์ชันสูตรศพลูกชาย ตนจึงตัดสินใจยกเลิกการชันสูตร ขอนําศพลูกชายไปชันสูตรที่โรงพยาบาลศิริราชแทน เนื่องจากต้องการให้แพทย์จากหน่วยงานอื่นๆ ร่วมสังเกตการณ์ด้วย เพื่อความโปร่งใส และเพื่อทราบถึงสาเหตุการตายของลูกชายที่แท้จริง ไม่ได้จับผิดใคร หรือเรียกร้องเงินทองอะไร แค่ต้องการพิสูจน์ความจริงให้ปรากฏเท่านั้น หากผลการชันสูตรครั้งนี้ออกมาเป็นอย่างไรยอมรับทั้งสิ้น
"วันแรกที่ลูกชายเสียชีวิตตนได้รับเพียงใบมรณบัตรใบเดียวเท่านั้น ใบรับรองแพทย์หรือใบการชันสูตรพลิกศพไม่มีให้ดู และยังส่งคนมาบอกให้รีบเผาศพลูกชายให้เร็วที่สุด ตนเกิดความสงสัยถึงสาเหตุการตายของลูกชายอย่างมาก จึงต้องออกมาขอความเป็นธรรมครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ช่วงที่ลูกชายถูกส่งตัวไปทํางานบ้านแม่ทัพภาคที่ 1 ไม่นาน ประมาณวันที่ 14 เมษายน ได้โทรศัพท์มาหาตน เล่าเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับภารกิจในบ้านแม่ทัพให้ฟัง ลูกชายบอกว่างานไม่หนักมาก ล้างรถบ้าง จึงบอกให้ลูกอดทน ถือเป็นบุญของลูกที่ได้ไปอยู่บ้านเจ้านาย ตนยังสั่งลูกชายว่าอย่าออกไปไหนเพราะมีการชุมนุมประท้วงจะเป็นอันตราย ลูกชายรับปาก ก่อนวางสายลูกชายบอกว่ากำลังคิดมีบ้านใหม่กับแฟนสาว แล้วจะมารับแม่ไปอยู่ด้วย จนกระทั่งทราบข่าวว่าเสียชีวิตแล้วตอนเช้าวันที่ 15 เมษายน อย่างไรก็ตาม การเสียชีวิตของลูกชายขออย่าได้โยงไปเป็นเรื่องการเมือง ตนแค่ออกมาขอความเป็นธรรมให้ลูกชายเท่านั้น" นางศิริมนต์ ระบุ
ขณะที่ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ญาติของพลทหารอภินพมาร้องพรรคเพื่อไทยเพื่อขอให้ร่วมตรวจสอบกรณีดังกล่าว และอยากให้มีคนกลางจากฝ่ายต่างๆ เข้าร่วมตรวจสอบ ทางพรรคจึงช่วย เหลืออำนวยความสะดวก ยืนยันว่าเราไม่ได้หากินกับศพ หรือยื่นข้อเสนออะไรกับญาติผู้เสียชีวิตอย่างที่รัฐบาลกล่าวหา แต่รัฐบาลกำลังจะกลบเกลื่อนหลักฐาน เราเพียงต้องการหาความยุติธรรมให้กับญาติ
ส่วน พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า ผมยืนยันว่าไม่มีใครทำร้ายเขาให้เสียชีวิต ผมก็เพิ่งเสียลูกชายไปจากอุบัติเหตุเมื่อ 3 เดือนก่อน การสูญเสียลูกเป็นสิ่งที่ลำบาก ผมก็เสียใจ และยินดีให้ความร่วมมือกับญาติของผู้เสียชีวิตทุกอย่าง เขาต้องการอะไรก็พร้อมทำให้ตามใจทุกอย่าง เพื่อคลี่คลายความสงสัย ในวันเกิดเหตุมีทหารดูแลบ้านอยู่ 3 คน จากการสอบถามทุกคนยืนยันว่าพลทหารอภินพลื่นหกล้ม เมื่อเพื่อนถามว่าจะไปหาหมอหรือไม่ พลทหารอภินพบอกว่าไม่เป็นอะไร แค่ปวดหัว จึงไม่ได้นำส่งโรงพยาบาล แล้วพลทหารอภินพก็เสียชีวิตในเช้าวันต่อมา
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
