ท่านผู้หญิงวิระยา เปิดใจโต้ ถูกโยงคดียิงสนธิ (ข่าวสด)
สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ข่าวสด
หลังจากวานนี้ (2 พฤษภาคม) เว็บไซต์ต่างๆ ได้รายงานข่าวการให้สัมภาษณ์พิเศษของนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ที่เปิดใจถึงสาเหตุการถูกลอบสังหาร โดยใจความตอนหนึ่งระบุว่า ที่ทำให้ถูกลอบสังหาร เนื่องจากทหารไม่ต้องการการเมืองใหม่ และการที่ตนไปเปิดโปงสุภาพสตรีคนหนึ่ง ซึ่งแสดงออกว่าเป็นคนใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาท ก็เลยเกิดการลงขันกัน เกิดการที่เขาเรียกว่ากฐินสามัคคี
วันเดียวกัน ท่านผู้หญิงวิระยา ชวกุล ประธานกรรมการเลขาธิการมูลนิธิบำรุงขวัญทหาร ตำรวจ อาสาสมัครชายแดน ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวไอเอ็นเอ็น ออนไลน์ หลังถูกพาดพิง ยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว 
รู้ตัวหรือไม่ ท่านถูกลือโยงฆ่านายสนธิ
ท่านผู้หญิงวิระยา : โอ๊ย ไม่ห่วงหรอกคะ ใครจะโยงก็โยงไป ความจริงก็คือความจริงวันยังค่ำ ดิฉันเป็นผู้หญิงตัวคนเดียวไม่มีสามีที่จะมีอิทธิพล เหตุการณ์ที่เกิดกับคุณสนธิ คนอย่างดิฉันจะมีปัญญาไปทำอะไรได้ ดิฉันทำงานแต่การกุศล ไม่มีความคิดแบบนี้ในสมอง เคยโกรธนายสนธิ หรือไม่เพราะท่านเองถูกโจมตีเยอะ
ท่านผู้หญิงวิระยา : จำได้ว่าในหลวงเคยสอนดิฉันมาสมัยก่อนว่าพระพุทธรูปยังถูกนินทาเลย ดังนั้นดิฉันจะถือลัทธิว่า ถ้าใครเขาชอบเรา ถ้าเราจะทำดี หรือทำไม่ดี เขาก็จะชอบเรา เห็นว่าเราไม่ผิด คนไหนที่เขาไม่ชอบเราให้เราทำดีให้ตายก็จะเห็นว่าเราไม่ดี ดังนั้น ดิฉันไม่สนหรอกใครจะวิพากษ์วิจารณ์ เพราะดิฉันยืนอยู่บนความถูกต้อง ทุกสิ่งทุกอย่างมันมีความจริงที่จะพิสูจน์ตัวมันเองตลอด
อย่างงานการกุศลใครทำงานกันมาก็จะรู้ว่างานทุกครั้งไม่เคยหักค่าใช้จ่าย ถ้ามีค่าใช้จ่ายจะใช้เงินส่วนตัว อย่างงานถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 300 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายบาทเดียวก็ไม่มี เพราะหลายส่วนช่วย หากเขาไม่ช่วยดิฉันจะจ่ายเอง
ดิฉันตัวคนเดียวพ่อแม่ทิ้งมรดกไว้ให้มากมายก่ายกอง ตายไปก็เอาไปไม่ได้ แค่ที่ดินยังไม่ขายเลยสักแปลง ที่แม่พ่อให้ไว้ก็ยังใช้ไม่หมดเพราะเป็นคนมัธยัสถ์ ดิฉันเป็นคนไม่เคยซื้อของแพง สมัยก่อนอาจจะจริงชอบใช้ของมียี่ห้อ ตอนที่แม่มีชีวิตอยู่ แต่ตอนนี้ดิฉันจะเก็บเงินไว้ทำบุญอย่างเดียว มีการเชื่อว่าคดียิงนายสนธิ มีทหารมาเกี่ยวข้อง ท่านทำงานกับทหารเยอะจึงตกเป็นเป้า
ท่านผู้หญิงวิระยา : ก็ดิฉันทำงานให้กับมูลนิธิ ซึ่งต้องทำงานกับทหารอยู่แล้วตั้งแต่ปี 2519 ดังนั้นก็ต้องสนิทกับทหารโดยเฉพาะหน่วยรบ ตั้งแต่สมัยก่อนเลยสนิทกัน เพราะเป็นคนชอบช่วยคน ไปเยี่ยมทางภาคใต้และชายแดนบ่อยครั้ง ทหารหน่วยรบรู้จักดิฉันทุกคน อย่างพล.อ.สุจินดา คราประยูร พล.อ.มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ พล.อ.สำเภา ชูศรี ใครต่อใครก็ต้องรู้จักหมด เพราะทำงานกับทหาร แต่การทำงานคือเยี่ยมบำรุงขวัญ เพราะทำงานกับหน่วยรบในอดีตยิ่งตกเป็นเป้าหรือเปล่าว่ามีอำนาจสั่งทหารได้
ท่านผู้หญิงวิระยา : พูดเป็นเล่น มันจะเป็นไปได้อย่างไง โอ๊ย ทหารรุ่นที่พี่สนิท ก็เกษียณกันแล้ว ถ้าเผื่อจะมีใครชื่นชมพี่จริงๆ ตอนนี้ก็แก่กันหมดแล้ว มันจะเอาน้ำยาที่ไหนมาทำอะไร คนพวกนี้พี่เชื่อว่าเขาไม่รักพี่ขนาดยอมทำอะไรบ้าๆ ได้หรอก มันเป็นได้หรือไงที่ใครมันจะมาพิศวาส โกรธ แค้นแทนเรา รู้จักกับนายทหารรุ่นใหญ่ ไม่คิดว่าเขาจะได้ประโยชน์จากท่านเลยหรือ ในการมาสนิทด้วย
ท่านผู้หญิงวิระยา : เขาจะได้ประโยชน์อะไรจากเรา เราทำงานเพื่อสังคมและเราก็ไม่เคยทำอะไรให้เขา เขาจะลุกขึ้นมาเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายทำอะไรให้เราขนาดนี้ได้หรือ บ้าแล้ว ปริศนาที่นายสนธิ ย้ำ ผู้หญิงคนหนึ่งใกล้เบื้องพระยุคลบาท เกี่ยวข้อง
ท่านผู้หญิงวิระยา : ใครอยากจะพูดอะไรก็พูดไป เราห้ามปากคนไม่ได้ เหมือนข่าวลือโจมตีพี่เข้าวังไม่ได้ มีแต่คนมาถาม เพราะได้ยินคุณสนธิพูด มีคนถามด้วยว่าคุณสนธิท้าให้ฟ้องทำไมไม่ฟ้อง ก็เพราะกรณีของพี่มันลำบาก เพราะไม่จริง เสธ.แดง (พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล) แฉเอง ท่านเป็นศัตรูกับนายสนธิ
ท่านผู้หญิงวิระยา : พี่ว่าบ้า สมมติพี่เป็นศัตรูกับคุณสนธิ คนอย่างพี่จะมีน้ำยาอะไรไปทำคุณสนธิได้ ทุกวันนี้ติดต่อทหารหน่วยรบอยู่หรือไม่
ท่านผู้หญิงวิระยา : พี่ไม่ได้ติดต่อหน่วยรบที่ไหนเลยตอนนี้ นอกจากพี่ไปใต้เดือนละครั้ง ไปเยี่ยมทหาร ไปแล้วก็กลับ แล้วใครมันจะลุกขึ้นมาทำอะไรให้พี่ได้ขนาดที่ลือกัน นายสนธิ พูดบ่อยครั้ง ไม่โกรธจริงๆ หรือเพราะบางคนฟังอาจคิดว่ามันเกี่ยวกับท่าน
ท่านผู้หญิงวิระยา : ไม่โกรธ เพราะเห็นเขาด่าคนมาเยอะมาก มีคนถามท่านไหม เรื่องสังหารนายสนธิ
ท่านผู้หญิงวิระยา : เมื่อวานพึ่งไปอยุธยามา ก็มีคนมาเล่าให้ฟัง แล้วเขาถามเราว่าใครเป็นคุณสุภาพสตรีที่คุณสนธิพูดถึง คนอื่นเห็นพี่ยังบอกเออหน้าตาน่ารักดี จะฆ่าคนลงหรือ คนพยายามตีอะไรต่างๆ ให้เกิดความเสียหาย พี่ไม่เคยโกรธเขา เพราะพี่เชื่อกฎแห่งกรรม ใครทำอะไรย่อมได้อย่างนั้น รู้หัวอกคนถูกลอบฆ่า เพราะท่านเองก็เคยถูกเหมือนกัน
ท่านผู้หญิงวิระยา : ใช่ พี่รู้หัวอก เพราะพี่ถูกซุ่มโจมตีตอนลงพื้นที่ภาคใต้ ถูกวางกำลังกลุ่มก่อความไม่สงบไล่ล่า พี่รู้ดีว่าการถูกไล่ยิงมันมีความรู้สึกอย่างไร พอคุณสนธิถูกยิงพี่สงสาร มีคนมาบอกพี่ด้วยว่านี่รู้ไหม คุณสนธิด่าท่านผู้หญิงไม่กี่วัน ถูกลอบฆ่าแล้วนะ คิดอยากแจงให้สังคมเข้าใจบ้างหรือไม่
ท่านผู้หญิงวิระยา : จะให้ทำอย่างไรได้ พี่ไม่โกรธ คนเขาอยากด่าเรา ให้เขาด่าไป ถ้าเราผิดจริงก็ให้เขาด่า ถ้าเราไม่ผิด คนเขาด่า แล้วเขาอยากเชื่อพี่ก็ไม่เดือดร้อน ข่าวลือแม้ไม่จริงแต่ลือทุกวัน ชาวบ้านอาจคิดว่าท่านทำจริง
ท่านผู้หญิงวิระยา : พี่จะไปทำอะไรได้ พี่แคร์กับคนที่ชอบพี่ ใครอยากคบพี่ก็คบ ใครไม่อยากคบก็ไม่ต้องคบ เพราะทั้งชีวิตพี่ไม่ได้พึ่งใคร ถ้าไม่จริงอย่างที่บอก คิดบ้างหรือไม่ทำไมผู้หญิงคนนั้น ที่สั่งฆ่านายสนธิ ทำไมเป้ามาตกที่ท่าน
ท่านผู้หญิงวิระยา : เป็นไปได้ไหมที่เขาอยากดิสเครดิตพี่ เพราะพี่เป็นคนไปการันตีคุณทักษิณ ชินวัตร มีความจงรักภักดี ก็พี่เชื่ออย่างนี้ จะให้พี่ไปขึ้นศาลพี่ก็จะพูดอย่างนี้ ก็เชื่อแบบนี้นี่ ความคิดของแต่ละคนมันมี จะมาบังคับให้เปลี่ยนใจได้อย่างไร คงโกรธตรงนี้เลยจะดิสเครดิตพี่เพื่อให้คนไม่เชื่อและไม่คล้อยตาม ดิสเครดิตครั้งนี้เล่นแรงเลย
ท่านผู้หญิงวิระยา : ช่างปะไร สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ รู้ว่าพี่เป็นอย่างไร และไม่ไล่พี่ออกจากวังตามที่คุณสนธิพูดด้วย รวมทั้งเงินจัดทำเสื้อฟ้า พี่ไม่เคยโกงแม้แต่บาทเดียว ท้อหรือไม่เจอสถานการณ์หนักมากคราวนี้
ท่านผู้หญิงวิระยา : ไม่ ท้อทำไม ตอนนี้ตั้งใจทำโครงการช่วยเหลือคนในพื้นที่ภาคใต้ เดือนหน้าจะเปิดโรงงาน สร้างงานให้คนภาคใต้ จะมีเยาวชนมาร่วมทำงานด้วย ใครอยากพูดอะไรก็พูดไป ทุกวันนี้ถ้ามีใครมาถามเรื่องการเมืองพี่ไม่กลัว คิดอย่างไรพี่ก็จะตอบอย่างนั้น เพราะพูดบนพื้นฐานความจริง คุณถามฉัน คุณก็ต้องการความจริงจากฉันไม่ใช่หรือ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
