"สิงโต" แชมป์เดอะสตาร์ 5 ลูกอีสาน! มาแรงสมชื่อ (เดลินิวส์)
ผ่านไปแล้วงาน "เดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาว ปี 5" ที่เฟ้นหานักร้องคุณภาพจากทั่วประเทศมาตั้งแต่เดือน พ.ย.ปี 2551 จนได้ตัวแทนจาก 4 ภาค คัดเหลือ 8 ผู้เข้ารอบสุดท้ายมาทำการแข่งขันโชว์ในแต่ละสัปดาห์ คัดผู้ที่ได้ผลโหวตจากประชาชนทั่วประเทศมากที่สุด จนเหลือผู้แข่งขัน 2 คนสุดท้าย คือ "สิงโต-สิงหรัตน์ จันทร์ภักดี" หมายเลข 4 และ "ดิว-พงศธร สุภิญโญ" หมายเลข 5
และในที่สุด หนุ่มที่พกพาความใสซื่อ พร้อมรอยยิ้มจริงใจกับการพัฒนาการที่ดีขึ้นตามลำดับในแต่ละสัปดาห์ และกวาดคะแนนโหวตจากประชาชนทั่วประเทศได้อย่างท่วมท้น! คือ "สิงโต-สิงหรัตน์ จันทร์ภักดี" คว้าแชมป์ "เดอะสตาร์" คนที่ 5 ของเมืองไทยมาครอง และนั่นหมายถึงว่า "สิงโต" จะได้เป็นศิลปินในสังกัดของค่ายแกรมมี่ และมีอัลบั้มเพลงเป็นของตัวเอง พูดก็พูดเถอะ! เรายังตื่นเต้นดีใจแทนเด็กไม่หาย แต่ก็ไม่วายรีบไปเจ๊าแจ๊ะกับ "สิงโต" หนุ่มหน้าละอ่อน อยากรู้ว่าเส้นทางก่อนจะมาเป็นดาวของเขา เป็นยังไงนะซี่
"สิงโต-สิงหรัตน์" เป็นลูกอีสานโดยแท้ เกิดที่ จ.ขอนแก่น ปัจจุบันอายุ 16 ปี เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 รร.กัลยาณวัตร จ.ขอนแก่น คุณพ่อของสิงโต มีอาชีพรับราชการ ส่วนคุณแม่เป็นแม่ค้าขายอาหารอีสาน เรามาเริ่มเมาท์กับ "สิงโต" เลยดีฝ่า เพราะหลังคว้าแชมป์ฯ กลายเป็นหนุ่มเนื้อหอม มีแต่คนขอคิว
ก่อนจะมาสมัคร "เดอะสตาร์ 5" สิงโตทำอะไรอยู่
สิงโต : เรียนหนังสืออยู่ที่ขอนแก่น แล้วก็ติดตามรายการเดอะสตาร์ มาตั้งแต่ปีที่ 4 แล้ว ตั้งใจว่าถ้ามีปีที่ 5 ผมต้องไปสมัคร ก็เลยพยายามติดตามข่าวสารตลอด แต่ก็ไม่ได้เตรียมตัวอะไร เพราะต้องเรียนด้วยแล้วก็ทำกิจกรรมของโรงเรียนด้วย
อะไรเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้อยากจะเข้ามาสู่เวทีนี้
สิงโต : ปีที่แล้ว ผมได้ดู พี่แก้ม เดอะสตาร์ พอดูแล้ว ผมก็ชอบ แล้วอยากลองไปดูครับ อยากลองไปหาประสบการณ์ ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก อยากไปทดสอบความสามารถของตัวเอง ตอนนั้นก็ได้คุยกับคุณพ่อคุณแม่ ว่าจะไปลองประกวดดูนะ คุณพ่อคุณแม่ก็สนับสนุน ซึ่งผมชอบร้องเพลงอยู่แล้วตั้งแต่เด็กๆ ตอนอายุ 13-14 ผมชอบ พี่แบงค์ วงแคลช เป็นไอดอลของผม พี่เค้ามีความโดดเด่น มีความเป็นเอกลักษณ์ ความเท่ เสียงร้อง และวิธีการนำเสนอของเค้าที่ไม่เหมือนใคร
พอทราบข่าวว่า "เดอะสตาร์ 5" เปิดรับสมัครผู้เข้าประกวดร้องเพลง จากภาคอีสาน ในเดือนพฤศจิกายน ปีที่แล้ว "สิงโต" ไม่รอช้า รีบยื่นใบสมัครทันที ที่จ.ขอนแก่น จากจำนวนผู้สมัครประมาณ 3,000 คน และ "สิงโต" ได้แสดงความสามารถในการร้องเพลง ฝ่าฟันมาได้จนติด 1 ใน 5 เป็นตัวแทนภาคอีสาน
ติด 1 ใน 5 ตอนนั้นรู้สึกยังไง
สิงโต : ก็ไม่คิดว่า จะติดเข้ามา 1 ใน 5 ก็งงๆ อยู่ครับว่าอายุ 16 ปี เข้าไปจะเป็นยังไง แต่ก็เอาน่า ไม่คิดอะไรทำให้เต็มที่ คิดว่ามาหาประสบการณ์ มาทดสอบความสามารถ จากนั้นผมก็เข้ามาที่กรุงเทพฯ รู้สึกตื่นเต้นมาก เป็นอะไรที่แปลกใหม่ มีการเก็บตัวกับผู้แข่งขันคนอื่นอีก 20 คน เก็บตัวทั้งหมด 7 วัน เพื่อแข่งคัดเลือกให้เหลือ 8 คนสุดท้าย
7 วันที่อยู่ร่วมกับผู้แข่งขันคนอื่นๆ สนิทกันมั้ย
สิงโต : สนิทกันครับ ทั้ง 7 วันเนี่ย ก็มีเรียนร้องเรียนเต้น แอ๊คติ้งทุกวันครับ ในห้องผมพักอยู่กับ พี่ดิว (พงศธร สุภิญโญ) รู้จักกันมาก่อน ตอนที่พี่เค้าไปสมัครที่ขอนแก่น เค้าเป็นคนแปลกๆ มีโลกส่วนตัว ทำอะไรไม่ค่อยเหมือนคนอื่นเท่าไหร่
ตอนที่เหลือ 2 คนสุดท้าย รู้สึกตื่นเต้นมากมั้ย!
สิงโต : ตื่นเต้นครับ และไม่คิดว่าตัวเองจะเข้ามาถึงรอบ 2 คนสุดท้าย ตอนเข้า 8 คนก็งงแล้วครับ แต่คิดว่าน่าจะเป็นเพราะความเป็นตัวของตัวเอง การแสดงความเป็นตัวตนของตัวเอง
ช่วงแข่งขันรอบสุดท้ายกับการแสดงมินิคอนเสิร์ต 30 นาทีของ "สิงโต" เล่นเอาสะกดคนดูในห้องส่งและคนทางบ้าน เหมือนนั่งดูคอนเสิร์ตนักร้องระดับมืออาชีพเลยทีเดียว จริงๆ แล้วใครเป็นคนคิดไอเดีย ว่าจะเลือกเพลงอะไร หรือจะมีโชว์การแสดงอะไร
สิงโต : ผมคิดเองหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นเพลง คอนเซปต์ สคริปต์ แนวการนำเสนอ คือมันต่อเนื่องมาจากมินิคอนเสิร์ต 3 คน ผมก็ได้แนวคิดนั้นมา พยายามทำให้มันเกิดความหลากหลาย ให้มันได้บ่งบอกสิ่งที่เราได้เรียนรู้มา
ระหว่างที่นั่งเมาท์กับหนุ่ม "สิงโต" รู้สึกบรรยากาศดูเป็นทางการยังไงไม่รู้ สิงโตที่นั่งอยู่ต่อหน้าเรา ช่างไม่เหมือนสิงโตที่เราเห็นบนเวทีเดอะสตาร์ ที่มีลีลาในการร้องเพลง ดูแล้วเพลินสนุกสนานตามไปกับเขาด้วย ทำให้เรารู้สึกได้ว่า ที่แท้ตัวตนจริงๆ ของสิงโต เป็นผู้ใหญ่เกินวัย 16
มาถึงวินาทีสำคัญ ตอนที่พิธีกรกำลังจะประกาศว่า ใครจะได้เป็นเดอะสตาร์ คนที่ 5 ของเมืองไทย ตอนนั้นในใจคิดอะไรอยู่
สิงโต : ตอนนั้นตื่นเต้นมากครับ ใจเต้นบอกไม่ถูกเลย ไม่คิดว่าจะได้ คิดว่าพี่ดิวจะได้ เพราะพี่เค้าเก่ง สำหรับตัวผมไม่ได้คิดถึงว่าจะได้หรือไม่ได้ มาถึงตรง 2 คนสุดท้ายก็พอใจแล้ว มีความสุขแล้วภูมิใจแล้วครับ และตอนนั้นผมนึกถึงคุณแม่ ก่อนที่เขาจะประกาศจะเห็นคุณแม่บิ๊วๆ อยู่หน้าเวที ก็คิดถึงหน้าแม่ไว้
ในที่สุด "สิงโต" ก็สามารถคว้าแชมป์ "เดอะสตาร์ คนที่ 5" ของเมืองไทย ที่มีอายุน้อยที่สุด นับเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกบนเวทีเดอะสตาร์ตั้งแต่รุ่นแรก จนถึงรุ่นปัจจุบัน "สิงโต" ที่ยังคงดีใจไม่หาย บอกว่า
สิงโต : เหมือนฝันจริงๆ เป็นไปได้เหรอ แต่ก็รู้สึกดีใจที่ได้ทุ่มเท กับมัน และมันเป็นรางวัลให้เรา
เพียงแค่ข้ามคืน คนทั้งประเทศรู้จักชื่อ "สิงโต-สิงหรัตน์" เดอะสตาร์คนที่ 5 ของเมืองไทย คิดว่าดังหรือยัง
สิงโต : ไม่ทราบครับ คงยังไม่ดัง" (ยิ้มหวานเชียว)
จากนี้ไปต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง
สิงโต : เตรียมทั้งเรื่องงานแล้วก็เรื่องเรียน ที่สำคัญที่สุดคือเรื่องเรียน
ตอนนี้ "สิงโต" อยากทำอะไรให้ครอบครัวมากที่สุด
สิงโต : อยากทำให้คุณแม่มีความสุข ไม่อยากให้คุณแม่เหนื่อยมาก ไม่อยากให้คุณแม่ทำงานหนัก อยากให้คุณแม่สบาย ผมดูแลแม่ได้อยู่แล้วครับ
อย่าหาว่าละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวเลยนะ ทราบว่าคุณพ่อคุณแม่หย่ากัน ตอนนั้น "สิงโต" อายุเท่าไหร่ (นิ่งไปพักนึง)
สิงโต : ประมาณ 8 ขวบ คืนนั้นคุณพ่อก็มายินดีด้วย คุณพ่อชมว่าเก่ง ท่านก็มาเชียร์ตลอดครับ
หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "สิงโต" เป็นคนที่มีเสน่ห์มั่ก..มาก เจ้าตัวออกตัวแบบอ่อนน้อมถ่อมตนว่า
สิงโต : มันน่าจะเป็นความจริงใจมากกว่าครับ เวลาเราให้ความจริงใจกับใคร พอเขาได้รับเขาก็จะรู้สึก
หน้าตาหล่อหยั่งงี้ ถามจริง ๆ มีกิ๊กมีแก๊กหรือยัง (แซวเด็ก)
สิงโต : ยังครับ.. แต่ถ้าเขาเข้ามาคุยด้วย เราก็คุยครับ (อมยิ้มอีกแย้ว)
มาถึงตอนนี้ "สิงโต" อยากจะฝากอะไรถึงแฟนๆ ทั้งประเทศ
สิงโต : ขอบคุณแฟนๆ รายการเดอะสตาร์ ขอบคุณทุกๆ คนที่ติดตามพวกเราทั้ง 8 คน รวมถึงตัวผมด้วย ขอบคุณมากที่เป็นกำลังใจให้เรามาตลอด และขอให้ติดตามผลงานของพวกเราตลอดไปนะครับ
แหม..ถ้าเราไม่คุยกับ "คุณแม่นวลแดง จันทร์ภักดี" ก็ดูจะแปลกๆ อยู่นา ยิ่งได้ยินมาว่า คุณแม่แอบไปบนให้ลูกชายได้เป็นเดอะ สตาร์ ตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ถึง 5 แห่งทีเดียว งานนี้คุณแม่จะว่ายังไงเนี่ย
คุณแม่นวลแดง : ก็จะไปแก้บนที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองที่ขอนแก่น หนังกลางแปลง 5 จอ ถวายอาหารคาวหวาน มีหัวหมู, ผลไม้อะไรอย่างเนี้ย และไปแก้บนอีกหลายที่
ตอนนั้นคุณแม่บนว่าอย่างไร
คุณแม่นวลแดง : ก็ขอให้น้องติด 1 ใน 3 ไม่ได้คาดหวังว่าน้องจะได้เป็นเดอะสตาร์
"สิงโต" ได้เป็นเดอะสตาร์แล้ว คุณแม่ก็เลิกขายอาหารอีสานแล้วล่ะสิ (ขอแซวหน่อยนะ)
คุณแม่นวลแดง : ไม่หรอกค่ะ ลูกค้าติดใจส้มตำเยอะ เลิกไม่ได้หรอก แล้วแม่ก็มีความสุขกับการขายส้มตำด้วย ปกติน้องเค้าก็ช่วยขายด้วย ตอนนี้น้องคงไม่ว่างแล้ว เห็นน้องอย่างนี้ อย่าเอ็ดไปนะ กินปลาร้าไม่เป็น น้องไม่ชอบบอกไม่อร่อย (ช็อตเด็ดเลยนะคุณแม่)
ถ้าไม่ได้ยินจากปากคุณแม่ของสิงโต ก็คงไม่เชื่อนะเนี่ย ลูกอีสานแท้ๆ แต่กินปลาร้าไม่เป็น เอาน่า !.. "สิงโต" น่าร้า..ก จะไม่แตะปลาร้าปลาเจ่า ก็ไม่มีใครว่าหรอกจ้า..
"ธพัชรินทร์ จิตราบุณยสร" รายงาน
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก