ฮูสอบหวัด 2009 อาจเกิดจากวิจัยวัคซีนพลาด (คมชัดลึก)
องค์การอนามัยโลก กำลังสอบสวนกรณีที่นักวิจัยออสเตรเลียอ้างว่า ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 อาจจะเกิดจากความผิดพลาดระหว่างการวิจัยวัคซีน
เอเดรียน กิบส์ นักวิจัยชาวออสเตรเลีย วัย 75 ปี ที่ร่วมทำการพัฒนายาต้านไวรัส ทามิฟูล ของ บริษัทโรช โฮลดิ้ง เอจี ระบุในรายงานที่ส่งถึงองค์การอนามัยโลกว่า ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ เอ เอช 1 เอ็น 1 ที่กำลังระบาดไปในหลายประเทศทั่วโลกขณะนี้ อาจเป็นความผิดพลาดที่เกิดจากการผลิตวัคซีน หรือ เชื้อไวรัส อาจกระโดดข้ามจากหมูไปยังสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมสายพันธุ์อื่น ๆ หรือ ข้ามไปยังนก ก่อนที่จะมาถึงมนุษย์
กิบส์ และนักวิจัยอีก 2 คน พยายามค้นหาแหล่งกำเนิดของไวรัสตัวใหม่ ด้วยการวิเคราะห์พิมพ์เขียวพันธุกรรมของเชื้อไวรัส เอ เอช 1 เอ็น 1 และตั้งข้อสงสัยว่า เชื้อไวรัสตัวใหม่นี้ อาจเกิดขึ้นเองภายในไข่ที่นักวิทยาศาสตร์ใช้เพาะไวรัส และผู้ผลิตยานำมาผลิตวัคซีน เขาบอกด้วยว่า การระบุแหล่งที่มาของไวรัสอาจช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจได้ดีขึ้น เกี่ยวกับศักยภาพของจุลินทรีย์ในการแพร่เชื้อโรค และทำให้เกิดอาการป่วย ซึ่งเขาเตรียมเผยจะเผยแพร่รายงานเกี่ยวกับข้อสงสัย ในวารสารการแพทย์เร็วๆ นี้
ด้าน นายเคอิจิ ฟูกูดะ รักษาการผู้ช่วยผู้อำนวยการ องค์การอนามัยโลก บอกว่า ศูนย์วิจัยไข้หวัดใหญ่ขององค์การอนามัยโลก ที่ร่วมกับนักวิจัยของศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคหรือซีดีซี ของสหรัฐ กำลังตรวจสอบผลการศึกษาของเขา หลังเพิ่งได้รับมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ยังได้ขอให้นักวิทยาศาสตร์ขององค์การอาหารและยา หรือ เอฟเอโอ รวมทั้ง องค์การสุขภาพสัตว์โลก และหน่วยงานอื่นๆ ขององค์การอนามัยโลกร่วมตรวจสอบด้วย ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้ในอีก 2-3 วันนี้ เขาบอกด้วยว่า อาจต้องมีการรักษาความปลอดภัยไวรัส ที่เกิดจากผลิตวัคซีน และจากการทดลองมากกว่านี้
ขณะที่ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรค หรือ ซีดีซีของสหรัฐ ในนครแอตแลนต้า ก็ได้รับรายงานของกิบส์แล้วเช่นกัน แต่บอกว่ายังไม่มีหลักฐานในมาสนับสนุน
กิบส์ ซึ่งเป็นผู้ศึกษาวิวัฒนาการของเชื้อโรคมานาน 40 ปี เป็นหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์คนแรกที่ทำการวิเคราะห์องค์ประกอบพันธุกรรมของไวรัสตัวใหม่มีการประกาศพบการระบาดในเม็กซิโกเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน และอาจจะเป็นเชื้อไข้หวัดใหญ่ที่จะแพร่ระบาดทั่วโลกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2511
ขณะที่ นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ ถึงการเตรียมขอเงินงบประมาณ 80 ล้านบาท เพื่อซื้อวัตถุดิบในการผลิตยาป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ว่า ขณะนี้กำลังให้ทางกระทรวงสาธารณสุขดูถึงความจำเป็นเพราะเรามีสต๊อกอยู่ถึง 4.2 แสนชุด โดยการประเมินตัวเลขที่มีอยู่ก็น่าจะเพียงพอสำหรับความรุนแรงของการแพร่ระบาด ดังนั้นถ้าไม่จำเป็นจริงๆก็ไม่อยากสต๊อกมากเกินไปจนทำให้เกิดการแตกตื่น เพราะฉะนั้น การประชุมครม. วันนี้ (13 พ.ค.) จึงยังไม่มีการเสนอของบประมาณจาก ครม. เพราะวันนี้ยังไม่มีการแพร่ระบาดในประเทศไทย ที่เราตรวจค้นเจอผู้ป่วย 2 รายนั้น ก็เป็นผู้เดินทางที่กลับจากประเทศเม็กซิโก
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีประชาชนที่นั่งเครื่องบินร่วมกับผู้ป่วยทั้ง 2 รายมีการตรวจสอบหรือยัง รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า กรมควบคุมโรคมีรายละเอียดว่ามาเที่ยวบินไหน ซึ่งตนได้สั่งการตั้งแต่เบื้องต้นแล้วว่า ที่นั่งของผู้โดยสารที่เดินทางจากประเทศที่มีการแพร่ระบาดนับห่างไป 2 ที่นั่ง โดยรอบบริเวณต้องมีรายชื่อทั้งหมด และหน้าที่ของกรมควบคุมโรค ก็ต้องควบคุมทั้งหมดในบริเวณที่วางเป้าหมายแล้ว ซึ่งขณะนี้กรมควบคุมโรคก็ได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งก็เลยระยะเวลาการแพร่ระบาดแล้ว กลุ่มบุคคลที่อย่ในบริเวณที่ดังกล่าวไม่มีใครติดเชื้อไข้หวัด และตนขอย้ำอีกครั้งว่า ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ไม่ได้ติดง่ายมากนัก ป้องกันและรักษาให้หายได้ จึงอยู่ที่ความร่วมมือของทุกฝ่ายที่ต้องให้ความร่วมมือ
เมื่อถามว่า เข้าฤดูฝนพอดีกับที่มีการแพร่ระบาดของโรค จะทำให้คนสับสนหรือไม่ ระหว่างไข้หวัดธรรมดากับไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 นายวิทยา กล่าวว่า เราต้องรู้ประวัติตัวเราเอง อีกทั้งในประเทศไทยขณะนี้ ยังไม่มีข้อมูลบ่งชี้ว่า มีการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ถ้ามีการแพร่ระบาดเมื่อไหร่ กระทรวงสาธารณสุขจะแจ้งเตือนทันที ดังนั้น ถ้าวันนี้ใครเป็นหวัดถ้าไม่ได้ไปผ่านประเทศที่มีการแพร่ระบาดหรือไม่ได้ไปสัมผัสกับบุคคลที่มาจากประเทศดังกล่าวก้เชื่อไว้ก่อนว่าเป็นแค่ไข้หวัดธรรมดา