สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจากหนังสือพิมพ์คมชัดลึก, ไทยรัฐ
จากกรณี ด.ช.เคอิโงะ ซาโต อายุ 9 ขวบ ตามหานายคัตซูมิ ซาโต พ่อชาวญี่ปุ่น จนในที่สุดสถานทูตญี่ปุ่นในประเทศไทยได้ตามหาตัวนายคัตซูมิจนเจอ สามารถนัดให้พ่อลูกได้คุยกันผ่านทางโทรศัพท์ของสถานทูต ซึ่งด.ช. เคอิโงะเดินทางจากจังหวัดพิจิตรเข้ากรุงแล้ว เพื่อนัดคุยกับพ่อตามกำหนดนัดวันที่ 22 พฤษภาคม นั้น
เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ด.ช.เคอิโงะ ซาโต ตื่นตั้งแต่เวลา 05.00 น. เพื่อเตรียมตัวไปออกรายการข่าวเช้าทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 อสมท. พร้อมด้วยป้าคือ นางปัทมา จตุพิศ จากนั้นก็ลงสระว่ายน้ำ เล่นน้ำร่วมกับเพื่อนอีก 3 คน ที่ตามมาด้วยอย่างสนุกสนาน เป็นเวลานานกว่า 2 ชั่วโมง หลังจากเล่นน้ำเสร็จ ด.ช.เคอิโงะ และเพื่อนขึ้นไปพักผ่อนยังห้อง 926 และได้รับของขวัญที่นายวุฒิโรตม์ รัตนะสิงห์ กงสุลนครลอสแองเจลิส ประเทศอเมริกา ส่งมาให้ ถึงกับแสดงอาการดีใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากของที่ส่งมาให้ ประกอบด้วย เสื้อยืดสีแดง กางเกงขาสั้นสีขาว มีหนังสือเขียนกำกับว่า ให้สวมเสื้อผ้าดังกล่าวไปพูดคุยกับพ่อที่สถานทูตญี่ปุ่น เพราะสีแดงและขาวเป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น รวมถึงให้โค้งคำนับเพื่อแสดงการคารวะต่อเจ้าหน้าที่สถานทูต นอกจากนั้น ยังมีหนังสือแบบเรียนคัดลายมือภาษาญี่ปุ่น โดย ด.ช.เคอิโงะ แสดงความสนใจอยากเรียนมาก
ต่อมาเวลา 13.30 น. ด.ช.เคอิโงะ และคณะ ได้เดินทางไปยังสถานีรถไฟฟ้ามหานคร พระราม 9 เพื่อขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินเดินทางไปยังสถานีลุมพินี เพื่อไปยังสถานทูตญี่ปุ่น เนื่องจาก ด.ช.เคอิโงะ บอกว่าอยากนั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน โดยมีนายคมทัศน์ ชัยภักดี ผอ.สำนักผู้ว่าการรถไฟฟ้ามหานคร และเจ้าหน้าที่บริษัทรถไฟฟ้ากรุงเทพ คอยให้การต้อนรับ และมอบของที่ระลึกเป็นโมเดลรถไฟฟ้าให้ ด.ช.เคอิโงะ และเพื่อนทุกคน จากนั้นมอบบัตรโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินประเภท 1 วัน ให้คณะทั้งหมด แล้วพาทั้งหมดไปขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน
โดย ด.ช.เคอิโงะ มีท่าทางตื่นเต้น ยิ้มแย้มและพูดคุยกับเพื่อนทั้ง 3 คนอย่างร่าเริง พร้อมสอดส่ายสายตามองไปทั่วบริเวณ ขณะที่ทาบบัตรผ่านทางประตูทางเข้า ด.ช. เคอิโงะ มีท่าทางตื่นเต้นมาก เมื่อประตูทางเข้าเปิดจึงรีบวิ่งผ่านทันที เพราะกลัวว่าประตูจะหนีบเอา และเมื่อขึ้นไปอยู่บนรถไฟ มีผู้โดยสารจำนวนมากทราบข่าวสนใจมองดู ด.ช.เคอิโงะ ด้วยสายตาที่เอ็นดู โดย ด.ช.เคอิโงะ และเพื่อนต่างตื่นเต้นมากที่ได้นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินเป็นครั้งแรกในชีวิต พากันนั่งมองออกนอกหน้าต่างรถไฟฟ้าด้วยความสงสัยอยากรู้ และชักชวนกันดูวิวนอกรถอย่างสนุกสนาน
ทั้งนี้ ด.ช.เคอิโงะ กล่าวอย่างมีสีหน้าแจ่มใสว่า ตื่นเต้นที่จะพูดกับพ่อ เตรียมคำว่า คอนนิจิวะ และ ซาโยนาระ ไว้พูดกับพ่อ นอกจากนั้นยังอยากบอกอีกว่า "รักพ่อมาก" พร้อมจะบอกพ่อว่าแม่เสียแล้ว ครั้งนี้แม้จะได้ยินพ่อแต่เสียง และแม่เสียไปแล้วแต่ไม่เสียใจ เพราะคนเราเกิดมาต้องตายทุกคน ตอนนี้ถ้าแม่อยู่ตรงนี้อยากบอกกับแม่ว่า ให้แม่รอแป๊บหนึ่ง เดี๋ยวจะได้พบพ่อแล้ว ความฝันเหลืออีกไม่ไกลแล้ว
"ดีใจที่จะได้พูดคุยกับพ่อ อยากให้พ่อมาเยี่ยมที่ประเทศไทย เพราะเตรียมตุ๊กตาแมวไว้ให้พ่อ แต่หากพ่อต้องการให้ไปที่ประเทศญี่ปุ่นยังไม่อยากไป เพราะต้องการเรียนต่อให้จบ และไม่อยากอยู่ห่างจากป้า พร้อมขอขอบคุณทุกคนที่ให้ความช่วยเหลือ ทั้งสมเด็จพระราชินี และทุกคนที่ให้เงินช่วยเหลือเป็นทุนการศึกษา" ด.ช.เคโงะ กล่าว
ต่อมาเวลา 14.20 น. เจ้าหน้าที่สถานทูตญี่ปุ่นพา ด.ช.เคอิโงะ เข้าไปภายในสถานทูตเพื่อรอการติดต่อพูดคุยกับนายคัตซูมิ บิดา โดยเจ้าหน้าที่สถานทูตไม่อนุญาตให้เข้าไปฟังการพูดคุยของสองพ่อ-ลูก พร้อมแจ้งว่าจะเริ่มติดต่อการสื่อสารเพื่อให้พ่อลูกคุยกันในเวลาประมาณ 16.00 น. เนื่องจากนายคัตซูมิยังไม่เลิกจากการทำงาน
ต่อมาเวลา 16.40 น. ด.ช.เคอิโงะ และนางปัทมา ได้เดินออกมาจากห้องที่ใช้เป็นห้องคุยโทรศัพท์ โดย ด.ช.เคอิโงะ มีสีหน้าเศร้าสร้อย ตาแดงก่ำเสมือนเพิ่งผ่านการร้องไห้มา จากนั้นนายชินยะ อาโอกิ โฆษกสถานทูตญี่ปุ่นแถลงข่าวว่า เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ด.ช.เคอิโงะ ได้เดินทางมาสถานทูตญี่ปุ่น เพื่อขอให้ติดต่อพูดคุยทางโทรศัพท์กับพ่อ หรือให้พ่อมาหาที่ประเทศไทย สถานทูตจึงประสานไปยังประเทศญี่ปุ่นจนพบตัวนายคัตซูมิ โดยนายคัตซูมิยอมรับว่าเป็นพ่อของ ด.ช.เคอิโงะ จริง แต่หย่าร้างจากภรรยาไปนาน 5 ปีแล้ว และในวันนี้นายคัตซูมิสะดวกที่จะพูดคุยกับ ด.ช.เคอิโงะ ทางสถานทูตจึงประสานงานให้ จนทำให้พ่อลูกได้พูดคุยกันในที่สุด
หลังจากนายชินยะแถลงจบ สื่อมวลชนต่างรุมถาม ด.ช.เคอิโงะ ถึงการพูดคุยกับพ่อ ด.ช.เคอิโงะ ตอบว่า ดีใจที่พูดคุยกับพ่อ คำแรกที่พูดกับพ่อคือสวัสดีครับ หลังจากนั้นก็ไม่ได้คุยกับพ่ออีก ไม่รู้ว่าเขาพูดอะไรกัน เพราะหลังจากนั้นไม่ได้ยินเสียงพ่ออีก ต่อจากนั้นก็มีพี่สาวคนหนึ่งนำช็อกโกแลตมาให้กิน และให้นั่งรออีกห้องหนึ่ง และไม่ได้คุยกับพ่ออีกเลย ถ้าพ่อจะให้ไปอยู่ด้วยก็จะไม่ไป เพราะไม่อยากห่างจากป้า
ด้านนายชินยะกล่าวยืนยันว่า ด.ช.เคอิโงะ ได้พูดคุยกับพ่อเป็นเวลานานถึง 50 นาที โดยมีล่ามจากสถานทูต ป้า และเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการต่างประเทศของไทยร่วมฟังอยู่ด้วย โดย ด.ช.เคอิโงะ นั่งฟังการพูดคุยอยู่ตลอดเวลา แต่รายละเอียดในการพูดคุยไม่สามารถบอกได้ เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวภายในครอบครัวซาโต ส่วนที่ ด.ช.เคอิโงะ บอกว่าไปนั่งกินช็อกโกแลตอีกห้องหนึ่งขณะที่ผู้ใหญ่ยังพูดคุยกันอยู่นั้น เป็นช่วงที่จบการพูดคุยระหว่าง ด.ช.เคอิโงะ กับนายคัตซูมิแล้ว
ต่อมาเวลา 18.20 น. ด.ช.เคอิโงะ เปิดแถลงข่าวว่า พ่อสอบถามสารทุกข์สุขดิบเกี่ยวกับสุขภาพและความเป็นอยู่ แต่พ่อก็ยังไม่ได้พูดว่าจะเดินทางมาเมืองไทยเมื่อไร รู้สึกดีใจที่ได้คุยกับพ่อ ได้คุยกันหลายๆ เรื่องและได้บอกหลายๆ อย่าง แต่พูดไปหนูก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง เพราะพ่อพูดภาษาญี่ปุ่นต้องมีล่ามแปลให้ อยากขอบคุณสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ หนูสัญญาว่าจะเป็นเด็กดี ขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรที่ช่วยหลายๆ อย่าง
ต่อมานางปัทมา ป้า ด.ช.เคอิโงะ นำภาพถ่ายที่นายคัตซูมิถ่ายภรรยากับบุตรชายสมัยยังเล็กมาโชว์กับสื่อมวลชน โดยอ้างว่าภาพดังกล่าวถ่ายไว้ด้วยมือถือ พ่อของเด็กก็พกติดตัวไว้ตลอด และส่งทางอีเมล์มาให้ทางสถานทูตญี่ปุ่น ก่อนป้าจะนำไปอัดเป็นภาพมาโชว์
นางปัทมา กล่าวด้วยว่า ที่คุยกันพ่อของ เคอิโงะ ถามคำถามแรกว่าเหนื่อยไหม อยากเป็นหมอเหรอ พ่อไม่ค่อยชอบเรียนหนังสือ เรียนหนังสือเก่งพ่อก็ดีใจ และยังจำได้สมัยที่มีครอบครัวอยู่ยังเก็บรูปถ่ายไว้ตลอด คิดถึงเสมอไม่เคยลืม ขณะนี้ยังไม่มีครอบครัว และมีน้องคนเดียว แต่ก็ไม่ได้พูดถึงสาเหตุที่หายไป แต่บอกว่าจะกลับมาไหว้อัฐิของแม่ ส่วน เคอิโงะ ก็ดีใจจนร้องไห้ บอกว่าเดือน 7-8 ถ้าว่างจะกลับมา และรอให้ เคอิโงะโต กว่านี้ก่อน เพื่อให้ตัดสินใจว่าอยากอยู่เมืองไทยหรืออยากไปญี่ปุ่น โดยคาดว่าในวันที่ 5-6 กันยายนนี้ หากนายคัตซูมิว่างอาจจะเดินทางมาประเทศไทย
จากนั้นเวลา 19.30 น. ด.ช.เคอิโงะ พร้อมครอบครัวจะขึ้นเรือล่องแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อล่องชมความงามแม่น้ำเจ้าพระยายามค่ำคืน ทั้งนี้ ด.ช.เคอิโงะ เปิดใจก่อนขึ้นเรือว่า วันนี้ที่ได้คุยกับพ่อถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว ฝันเป็นจริงแล้ว แต่คงไม่ไปอยู่กับพ่อที่ประเทศญี่ปุ่น เพราะสัญญากับหลวงพ่อที่จังหวัดพิจิตรไว้ จะรอวันที่พ่อมาหาที่ประเทศไทย เพราะพ่อบอกว่าขณะนี้กำลังหัดพูดภาษาไทยอยู่ และตัวเองจะพยายามหัดพูดภาษาญี่ปุ่นเพื่อคุยกับพ่อ และขอเป็นกำลังใจให้เด็กคนอื่นที่ตามหาพ่อเหมือนตน ขอให้สู้ต่อไปจนกว่าจะสำเร็จเหมือนตน
อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวของ ด.ช.เคอิโงะ ในเช้าวันนี้ (23 พฤษภาคม) ได้พาเพื่อนๆ ไปเที่ยวสวนสนุกดรีมเวิลด์อย่างสนุกสนาน โดยมีนักท่องเที่ยวที่รู้จักแห่มาขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกด้วยจำนวนมาก
ขณะที่ นายสิทธิพจน์ เกบุ้ย ผู้ประสานงานจากจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีเจ้าของผลิตภัณฑ์หลายยี่ห้อ ติดต่อขอให้ น้องเคอิโงะ ไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ ทั้งเสื้อผ้า รองเท้า และขนม รวมทั้งยังมีการติดต่อขอซื้อลิขสิทธิ์ชีวิต เขียนเป็นการ์ตูน ทั้งภาษาไทย และญี่ปุ่น เพื่อจำหน่ายทั่วภูมิภาคเอเซีย ชื่อเรื่อง "เคอิโงะนักล่าฝันตามหาพ่อสุดขอบฟ้า" ทั้งนี้ ด.ช.เคอิโงะ จะเดินทางกลับจังหวัดพิจิตรในเย็นวันนี้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
