สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ, มติชนออนไลน์ , หนังสือพิมพ์คมชัดลึก และ pantip.com
กรณีที่แพนด้า "หลินฮุ่ย" ได้ผสมพันธุ์เทียมกับ "ช่วง ช่วง" จนประสบความสำเร็จตกลูกออกมา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา สร้างความดีใจต่อคนไทยทั่วประเทศ เกี่ยวกับความคืบหน้า เมื่อวานนี้ (28 พฤษภาคม) ที่สวนสัตว์จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีประชาชนจำนวนมากเดินทางมาเพื่อชื่นชมแพนด้าน้อยที่เกิดใหม่จากหลินฮุ่ย ปรากฏว่า ต้องผิดหวัง เพราะทางสวนสัตว์เชียงใหม่ไม่สามารถนำออกมาให้ชมได้ เนื่องจากอยู่ในช่วงระยะพักฟื้น และกลัวแพนด้าน้อยติดเชื้อ สร้างความผิดหวังให้กับประชาชน ที่เดินทางมาเพื่อชื่นชมแพนด้าน้อยเป็นอย่างมาก แต่สวนสัตว์เชียงใหม่ได้นำกล้องวงจรปิดมาเปิดให้ประชาชนดูแทน และส่วนหนึ่งก็เข้าไปชม ช่วง ช่วง ในส่วนที่จัดแสดงแทน ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก
ทั้งนี้ นายธนภัทร พงษ์ภมร ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ กล่าวถึงมาตรการรองรับนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเดินทางเข้ามาชมแพนด้าน้อยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการทำงานสวนสัตว์เชียงใหม่มีมติจัดตั้งศูนย์ทำงานขึ้นเป็นการเฉพาะ เนื่องจากคาดการณ์ว่า วันเสาร์ - อาทิตย์นี้ (30-31 พฤษภาคม) จะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาลหลั่งไหลกันเข้ามาสู่สวนสัตว์เชียงใหม่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการจราจร จึงเตรียมจัดเจ้าหน้าที่ดูแลทางเข้าเพื่อและอำนวยความสะดวก โดยอาคารจอดรถด้านหน้ารองรับรถได้จำนวน 400 คัน แต่หากไม่เพียงพอจะอนุญาตให้นำรถเข้ามาจอดภายใน
"สิ่งที่สวนสัตว์เชียงใหม่จัดเตรียมไว้สำหรับนักท่องเที่ยวทุกคนที่จะมาร่วมแสดงความยินดีกับลูกแพนด้า คือ สมุดโน้ตและโปสเตอร์ พร้อมทั้งจัดทำป้ายธงและปรับพื้นที่ด้านหน้าส่วนจัดแสดงแพนด้า เพื่อติดตั้งศูนย์ข้อมูลแสดงเรื่องราวความเคลื่อนไหวลูกแพนด้าตั้งแต่แรกเกิด - ปัจจุบัน" ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ กล่าว
ทางด้าน นสพ.ดร.บริพัตร ศิริอรุณรัตน์ ผช.ผอ.ส่วนอนุรักษ์วิจัย และศึกษาองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า จากการเฝ้าดูผ่านวีดิโอวงจรปิด และสอบถามข้อมูลจากสัตวแพทย์ประจำตัวแพนด้าและพี่เลี้ยงพบว่า โดยรวมเป็นไปอย่างปกติ แพนด้าน้อยได้รับการโอบกอดจากแม่อยู่ตลอด ขณะที่หลินฮุ่ยมีการเปลี่ยนแปลงอิริยาบถนั่งสลับนอน และมีความเครียดน้อยลง นอกจากนี้ยังเริ่มกินอาหารมากขึ้น โดยพี่เลี้ยงได้ให้ขนมปังไผ่เสริมกับแครอทเพิ่มเติม จากการป้อนเพียงแอปเปิ้ลให้กินในช่วงสองวันที่ผ่านมา และสังเกตว่าหลินฮุ่ยเริ่มมีแววตาที่สดใส ขณะที่แพนด้าน้อยนั้นได้รับความอบอุ่นจากแม่ตลอด และได้นอนอย่างเต็มที่ จึงแข็งแรงขึ้นตามลำดับ และพบว่าตามตัวมีการเปลี่ยนแปลงชัดเจน คือ ขนเริ่มดกยาวขึ้นมา พร้อมกับส่งร้องเสียงดัง
ขณะที่นายเหว่ย หมิง ผู้เชี่ยวชาญจีน ซึ่งเดินทางมาอยู่ช่วยดูแลเรื่องสุขภาพของแพนด้า ได้ให้ข้อมูลว่า เท่าที่เคยพบลูกแพนด้ามาในหลายแห่ง การที่ลูกแพนด้ายังร้องเสียงดังเมื่อเปลี่ยนท่าในลักษณะนี้ แสดงว่าทายาทของหลินฮุ่ยจะเติบโตขึ้นมาเป็นแพนด้าที่สมบูรณ์แข็งแรงมาก
อย่างไรก็ตาม ทางสวนสัตว์เชียงใหม่เตรียมจ่ายเงินให้กับทางการจีน 150,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 5 ล้านบาท หลังเกิดลูกแพนด้า 30 วัน โดยงวดแรกจะจ่าย 2,500,000 บาท ภายในเวลาไม่เกิน 10 วัน และอีกครึ่งหนึ่งจะจ่ายในปีต่อไป ทั้งนี้ เป็นไปตามข้อตกลงระหว่างรัฐบาลไทย จีน ที่จะนำเงินดังกล่าวไปช่วยเหลือลูกหมีแพนด้าที่เกิดตามธรรมชาติในประเทศจีน ส่วนตนเองจะมีการวิ่งแก้บนรอบสวนสัตว์ หลังจากบนขอให้หลินฮุ่ยกำเนิดลูกด้วย ส่วนการจัดงานเฉลิมฉลองจะมีการประชุมกับทางจังหวัดต่อไป
ขอขอบคุณข้อมูลจาก