x close

กำพร้ากตัญญู หาเงินช่วย ยายป่วยมะเร็ง

เด็กชายอาร์มยอดกตัญญู

กำพร้ากตัญญู หาเงินช่วย ยายป่วยมะเร็ง(ไทยรัฐ)

          เด็กชายวัย 13 ปี ยอดกตัญญู ทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเอง โดยอยู่กับยายแค่ 2 คน แต่มาป่วยเป็นมะเร็ง  รักษาตัวอยู่ที่ จ.พิษณุโลก ทำให้ต้องอยู่เพียงลำพัง ต้องขอตั๋วรถไฟฟรีเยี่ยมทุกวันเสาร์...

          เมื่อเวลา 06.30 น.วันนี้ (15 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีเด็กชายอายุ 13 ปี อาศัยอยู่กับยายที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งขั้นสุดท้าย ซึ่งเป็นเด็กกตัญญู คอยดูแลยายที่เจ็บป่วย รู้จักช่วยเหลือตนเองและผู้อื่น แลกเงินค่าอาหารและของใช้ประจำวัน แม้ความเป็นอยู่จะยากจน อยากให้สังคมให้ความช่วยเหลือ

          ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าทุกวันเสาร์ เวลา 12.00 น. จะมีเด็กชายรูปร่างผอม สูงประมาณ 135 เซนติเมตร ผิวคล้ำ มักสวมเสื้อยืดและกางเกงขาสั้นในสภาพเก่า เดินเท้าจากบ้านม่อนดินแดงมายังสถานีรถไฟศิลาอาสน์ ในเขตเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งเดินเท้าโดยคิดเป็นระยะทาง 10 กิโลเมตร หิ้วถุงพลาสติกใส่นมกล่อง 1 แพ็ค เพื่อมาขอตั๋วรถไฟฟรีจากเจ้าหน้าที่ที่ช่องจำหน่ายตั๋วจำนวน 1 ที่นั่ง เดินทางไปยัง จ.พิษณุโลก เพื่อไปเยี่ยมยายที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งปากมดลูกระยะสุดท้าย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพุทธชินราช

          หลังจากที่ ผู้สื่อข่าวทราบเรื่องจึงได้เดินทางไปยังโรงเรียนเทศบาลวัดท้ายตลาด ต.ท่าอิฐ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ และขอพบกับนางประทุมทิพย์ ไพเราะ ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลวัดท้ายตลาด พร้อมทั้งแจ้งถึงจุดมุ่งหมายให้ผู้อำนวยการโรงเรียนได้รับทราบ ซึ่ง นางปทุมทิพย์ กล่าวว่า เด็กที่ผู้สื่อข่าวกล่าวถึงนั้นมีชื่อจริงว่า เด็กชายอาร์ม แสงหัวช้าง อายุ 13 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาลวัดท้ายตลาด เทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ และได้รับรู้เรื่องของเด็กชายอาร์มแล้ว ซึ่งเด็กชายอาร์ม ต้องเดินเท้า จากบ้านพักที่บ้านม่อนดินแดง ต.ท่าเสา อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ มาเรียนหนังสือที่โรงเรียน ใช้ระยะทาง 5 กิโลเมตร

เด็กชายอาร์มยอดกตัญญู

          ตอนหลังได้รู้ว่า ยายของเด็กชายอาร์มป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย แพทย์จากโรงพยาบาลจังหวัดอุตรดิตถ์ได้ส่งตัวยายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลพุทธชินราช จังหวัดพิษณุโลก โดยใช้บัตรผู้สูงอายุรักษา แต่เด็กชายอาร์มต้องลำบากอยู่คนเดียว ไม่มีใครดูแล ทุกวันเสาร์เด็กชายอาร์ม จะเดินทางไปเยี่ยมยายที่โรงพยาบาลที่จังหวัดพิษณุโลก ตนเองเห็นว่าเด็กชายอาร์มเป็นเด็กกตัญญู และมีความประพฤติดี เป็นเด็กดีมากๆ เป็นเด็กที่มีความประหยัด เกรงใจ และจะไม่ยอมเอาของใครฟรีๆ แต่จะขอแลกกับการทำงาน ตั้งแต่ยายไม่สบายและไปอยู่ จ.พิษณุโลก ทางโรงเรียนอนุญาตให้เด็กชายอาร์ม มารับประทานอาหารฟรีที่โรงอาหารทุกมื้อ แต่เด็กชายอาร์มจะขอช่วยงานแม่ครัว และทำความสะอาดโรงอาหาร เพื่อแลกกับอาหาร

          ผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าวอีกว่า ตนได้ชวนครู-อาจารย์ในโรงเรียน หักเงินเดือนออกคนละ 100 บาท เพื่อตั้งเป็นเงินกองกลางไว้สำหรับงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานกุศล งานบุญ ซึ่งเงินส่วนหนึ่งจะช่วยเหลือเด็กชายอาร์ม โดยเฉพาะใช้ซื้อสิ่งของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน และค่าขนม ไม่น่าเชื่อเด็กชายอาร์มไม่เคยมาขอเบิกเงินดังกล่าวแม้แต่บาทเดียว เมื่อสอบถามจะได้รับคำตอบว่า ยังไม่จำเป็น บางครั้งครูที่โรงเรียนให้เงินครั้งละ 100-200 บาท เด็กชายอาร์มจะขอแลกด้วยการทำงานให้ทุกครั้ง

          จากนั้น ผู้อำนวยการโรงเรียนได้พาผู้สื่อข่าวไปพบกับเด็กชายอาร์ม ซึ่งกำลังเรียนวิชาสังคมศึกษา จึงสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุผลที่ต้องอาศัยรถไฟฟรีทุกวันเสาร์ เพื่อหิ้วนมไปส่งให้ยายที่ จ.พิษณุโลก ด.ช.อาร์ม กล่าวว่า ตั้งแต่เล็กอยู่กับตาและยายที่ห้องแถวบ้านชั้นเดียวเลขที่ 256/10 ต.ท่าเสา อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ไม่เคยได้เจอพ่อแม่มาก่อน โดยตาทำงานเป็นยามอยู่ที่โรงเลื่อยจักรท่าเสา ต่อมาตาได้เสียชีวิตลง เจ้าของโรงเลื่อยใจดีอนุญาตให้ยายและตนเองอยู่บ้านพักฟรี มาระยะหลังยายป่วยด้วยโรคมะเร็งปากมดลูกระยะสุดท้าย หลังจากรักษาตัวที่โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ แพทย์ได้ส่งตัวไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลพุทธชินราช จ.พิษณุโลก โดยการฉายรังสีรักษานานเกือบ 1 ปีแล้วทุกวันเสาร์ เวลา 12.00 น. ตนจะเดินเท้ามายังสถานีรถไฟศิลาอาสน์ เทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ ระยะกว่า 5 กิโลเมตร โดยจะหิ้วถุงพลาสติกที่ใส่นมกล่อง 1 แพ็ค พร้อมกับขอตั๋วรถไฟฟรีจากเจ้าหน้าที่ช่องจำหน่ายตั๋ว 1 ที่นั่ง  เดินทางไปยัง จ.พิษณุโลก ไปเยี่ยมยายที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล จ.พิษณุโลก ก่อนจะกลับมาที่จังหวัดอุตรดิตถ์อีกครั้งในทุกวันอาทิตย์

          "ทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ผมจะไปของานทำที่อู่รับทำสีรถยนต์ ขูดสีรถ และจัดเตรียมอุปกรณ์ เก็บทำความสะอาดภายในอู่รถ เพื่อแลกกับอาหารและของใช้ในชีวิตประจำวัน ส่วนตอนเช้าของทุกวันที่ไปเรียนหนังสือ จะไปช่วยแม่ครัวทำความสะอาดโรงอาหาร เพื่อแลกกับอาหารเช้าและขนม ส่วนยายจะมีรายได้เดือนละ 500 บาท จากเงินเบี้ยยังชีพ เพราะอายุมากไม่สามารถทำงานหนักๆ ได้ โดยตนจะไม่รบกวนขอเงินยายมาใช้ เพราะต้องการให้ยายเก็บไว้ใช้  ตั้งแต่ยายไปรักษาตัวที่ จ.พิษณุโลก ผมไปเยี่ยมยายทุกสัปดาห์ จะมีเพียง 1 สัปดาห์ที่ไม่ได้ไปหายาย และยายก็ร้องไห้ เพราะว่ารถไฟหยุดวิ่ง เนื่องจากดินถล่มทับรางรถไฟวิ่งไม่ได้ ส่วนอนาคตอยากเรียนต่อสายอาชีพและอยากเป็นช่างซ่อมรถยนต์ และอยากเป็นเจ้าของอู่ซ่อมรถ " เด็กชายอาร์ม กล่าว




ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
กำพร้ากตัญญู หาเงินช่วย ยายป่วยมะเร็ง อัปเดตล่าสุด 15 มิถุนายน 2552 เวลา 18:01:40 11,025 อ่าน
TOP