สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
วันนี้ (16 มิถุนายน) น.พ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผยไทยพบผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เพิ่มอีก 109 ราย ทำให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อขณะนี้อยู่ที่ 310 ราย ขณะที่ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อกว่า 35,000 ราย ใน 76 ประเทศ และเสียชีวิตแล้ว 163 ราย ทั้งนี้กระทรวงจะทำการแถลงข่าวถึงสถานการณ์ของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ทุกวัน ในเวลาประมาณ 11.00 น. เพื่อป้องกันความสับสนของข้อมูลที่เกิดขึ้น พร้อมเตือนผู้ป่วยที่มีภูมิต้านทานต่ำ หรือผู้ป่วยที่มีโรคเรื้อรัง เช่น โรคปอด โรคหัวใจ โรคไต และโรคเบาหวาน จะเสี่ยงต่อการเกิดอาการรุนแรงและเชื้อดื้อยา รวมถึงอาจเสียชีวิตได้ง่าย หากติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ 2009
ขณะที่ นายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข เปิดเผยว่า ในวันพฤหัสที่ 18 มิถุนายนนี้ กระทรวงจะแจกจ่ายสมุดปกเขียวจำนวน 1 ล้านเล่ม ไปยังทุกจังหวัดทั่วประเทศ เป็นคู่มือแนะนำวิธีปฏิบัติตัวอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
อย่างไรก็ดี หลังมีข่าวการแพร่ระบาดของโรค ทำให้มีคลินิคบางแห่ง อ้างว่ามีวัคซีนป้องกันเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 โดยเรียกเก็บเข็มละ 600 บาท เกี่ยวกับเรื่องนี้ นพ.ม.ล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ยืนยันว่า ไม่มีวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ในตอนนี้แน่นอน มีเพียงแค่วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ธรรมดาเท่านั้น
"ยืนยันว่าขณะนี้ไม่มีวัคซีนใดที่จะป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ที่ระบาดมาจากประเทศเม็กซิโกได้ อาจมีบริษัทยาบางแห่งอ้างว่าผลิตได้แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับการทดลองตามขั้นตอนจนสามารถนำมาใช้กับคนได้ อย่างเร็วที่สุดที่จะมีวัคซีนป้องกันไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ได้ ก็น่าจะเป็นปี 2010 และช่วงนี้เป็นช่วงไข้หวัดใหญ่ระบาดในทุกๆ ปี จึงทำให้เกิดความสับสนได้" อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าว
นพ.ม.ล.สมชาย กล่าวอีกว่า มีนักวิชาการบอกว่าไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 จะระบาดต่อไปจนถึงปี 2010 และโรคนี้ก็จะกลายเป็นโรคไข้หวัดประจำปีไป ส่วนการป้องกันนั้นเพียงแค่ล้างมือบ่อยๆ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ หากไม่สบาย เช่น มีน้ำมูกไหล มีไข้ต่ำๆ ไอ เจ็บคอ ให้สวมหน้ากากอนามัย และควรพักผ่อนรักษาตัวเองอยู่ที่บ้าน 3 - 7 วัน แต่หากมีอาการมากขึ้นควรไปพบแพทย์ ระหว่างอยู่ที่บ้านควรหลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับผู้อื่น และสวมหน้ากากอนามัย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก