ครม.ทุ่ม 123 ล้านบาท ซื้อรถกันกระสุน (เดลินิวส์)
สรุปประเด็นโดยกระปุกดอทคอม
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวานนี้ (16 มิถุนายน) นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงผลการประชุม ครม. ว่า ที่ประชุม ครม. อนุมัติการจัดหารถยนต์ปฏิบัติการหุ้มเกราะ จำนวน 20 คัน วงเงินรวม 122,800,000 บาท และอนุมัติหลักการให้กองบัญชาการกองทัพไทย โดยศูนย์รักษาความปลอดภัย ดำเนินการจัดหาตามระเบียบของทางราชการด้วยวิธีพิเศษ ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ เนื่องจากรถยนต์หุ้มเกราะเดิมมี 3 คัน ถูกทุบทำลายเสียหาย 1 คัน เครื่องยนต์ชำรุด 1 คัน คงเหลือปฏิบัติการได้ 1 คัน ทำให้มีความจำเป็นต้องใช้ยานพาหนะที่มีคุณสมบัติพิเศษและเป็นยานพาหนะหุ้มเกราะกันกระสุน เพื่อรักษาความปลอดภัยแก่บุคคลสำคัญ ให้มีความปลอดภัยสูงสุด
ทั้งนี้ นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกฯ ในฐานะผู้ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า สำหรับสเปกของรถหุ้มเกราะกันกระสุน ครม.ได้กำหนดว่าต้องเป็นรถที่มีสมรรถนะกันกระสุนชนิด บี 4-บี 6 โดยโครงสร้างจะต้องเป็นเชทซี มาตรฐานสากลสูงถึงระดับสูงสุด กระจกกันกระสุนมีความหนา ขนาด 35 มม. มาตรฐานโดยรวมต้องได้มาตรฐานสากล โดยเครื่องยนต์ต้องได้ระดับ 4,000 ซีซี ซึ่งถือว่าไม่ใช่ระดับพิเศษสูงสุดของผู้นำทั่วโลก แต่อยู่ในระดับกลาง
นายปณิธาน กล่าวอีกว่า สำหรับรถหุ้มเกราะกันกระสุน จะต้องมีการจัดซื้อโดยเร็ว เพื่อให้ทันการประชุมผู้นำสุดยอดอาเซียน และหลังจากเกิดเหตุความวุ่นวายขึ้น มีรัฐมนตรีหลายคนยื่นขอรถกันกระสุนเข้ามาเป็นจำนวนมาก ดังนั้นรถที่ได้มาจะนำมาสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนให้รัฐมนตรีได้ใช้อย่างทั่วถึง รวมถึงไว้ต้อนรับผู้นำต่างประเทศที่แวะเวียนมาประเทศไทยเกือบทุกเดือน ซึ่งก่อนหน้านี้มีหลายประเทศใจดีที่ให้ประเทศไทยยืมรถกันกระสุน แต่เราเห็นว่างบประมาณมีพอที่จะสามารถเจียดมาซื้อได้ ก็ต้องจัดซื้อให้เป็นของรัฐบาลเอง และจะทำให้การดูแลรักษาและการบริหารง่ายกว่า ซึ่งจะสามารถสร้างความมั่นใจให้กับผู้นำต่างประเทศที่เดินทางมาประเทศไทยได้
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก