ไกรสร เครียดเข้ารพ.ตรวจสภาพจิต (คมชัดลึก)
"ไกรสร" เครียดเข้าพบแพทย์ตรวจสภาพจิต ที่โรงพยาบาลสวนปรุง ปัดตอบปมมรดกราชินีลูกทุ่ง ทางด้านภรรยาเปิดศึกแจ้งจับ "น้ำอ้อย" พร้อมแม่ ฐานหมิ่นประมาท เผยนิ่งต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ยืนยันเอาเรื่องถึงที่สุด
(24 มิ.ย.) นายไกรสร แสงอนันต์ หรือ นายไกรสร ลีละเมฆินทร์ เดินทางไปโรงพยาบาลสวนปรุง จ.เชียงใหม่ เพื่อตรวจสุขภาพจิตตามที่ได้ประกาศไว้ โดยทันทีที่เดินทางถึง นายไกรสรได้รับบัตรคิว เสร็จแล้วก็ไปยื่นทำบัตรผู้ป่วยเข้าพบนักสังคมสงเคราะห์ เพื่อซักและบันทึกประวัติ ก่อนเข้าพบ น.พ.สุรเชษฐ์ ผ่องธัญญา จิตแพทย์ประจำโรงพยาบาล เพื่อทำการตรวจประเมินทางจิตเวช ตามขั้นตอนปกติ ซึ่งแพทย์จะประเมินภายหลังว่า จำเป็นต้องใช้วิธีการทดสอบทางจิตวิทยาด้วยหรือไม่ ขณะที่ผลการตรวจทั้งหมดทางโรงพยาบาลจะแถลงให้ทราบภายหลัง
สำหรับการตรวจร่างกายในเบื้องต้นพบว่า นายไกรสรมีความดันสูง ถึง 168 มิลลิเมตรปรอท จากระดับปกติ 125-130 มิลลิเมตรปรอท ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่า อาจเกิดจากความเครียด ขณะที่นายไกรสรยอมรับว่า เครียดและวิตกจนนอนไม่หลับ เพราะไม่เคยตรวจมาก่อน
นายไกรสร กล่าวว่า เมื่อลูกต้องการให้มาตรวจก็ยินดี เพื่อให้เกิดความกระจ่าง เมื่อตนมาตรวจแล้วก็ต้องการให้ลูกชายมาตรวจด้วย ซึ่งในส่วนตนไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรก็ต้องยอมรับ เพราะเป็นโรงพยาบาลของรัฐที่มีความน่าเชื่อถือ
ทั้งนี้หลังจากได้ดูลูกชาย และ น.ส.ธิดารัตน์ อรรถรัตน์ หรือ น้ำอ้อย ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการตีสิบ บอกได้คำเดียวว่า ผู้หญิงคนนี้เลวมาก โกหกตลอดเวลา โดยเฉพาะเรื่องที่บอกว่า เคยติดต่อให้ตนไปรับลูกหลายครั้งหลังจากหนีออกจากบ้าน ทั้งที่ความจริงไม่เคยติดต่อมาเลย
นายไกรสร กล่าวว่า คำโกหกและการเสี้ยมสอนของผู้หญิงคนนี้ทำให้ชีวิตครอบครัวแตกสลาย อยากขอร้องให้สื่อมวลชนช่วยกระชากหน้ากากคนกลุ่มนี้ให้ได้ สังคมจะได้ดีขึ้น ที่สำคัญอยากขอให้น้ำอ้อยและแม่มาตรวจปัญหาทางจิตด้วยเช่นกัน เพราะคิดว่าคนที่ไม่มีสามัญสำนึกอย่างนี้ไม่น่าจะปกติ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับปัญหามรดกของ "พุ่มพวง ดวงจันทร์" หรือไม่ นายไกรสร ปฏิเสธที่จะชี้แจง พร้อมตอบว่า เรื่องมรดกตอนนี้ยังไม่พูดถึงอะไรทั้งสิ้น เอาเป็นว่าให้ลูกผมปกติและคิดได้เองก่อน ตอนนี้ขอให้เป็นเรื่องกระบวนการนำลูกชายกลับคืนมาก่อน
ด้าน นางสิริกร อินทร์พรหม ภรรยานายไกรสร กล่าวว่า หลังดูการออกมาให้สัมภาษณ์ของ น.ส.ธิดารัตน์ ในรายการโทรทัศน์รู้สึกว่า น.ส.ธิดารัตน์ ออกมาโกหกทุกๆ คน สร้างความเจ็บปวดให้กับครอบครัว ทั้งยังทำให้สังคมปั่นป่วน ไม่รู้ว่าคอยสร้างประเด็นการโกหกตลอดเวลาได้อย่างไร
ส่วนเรื่องราวที่เกิดขึ้นซึ่งมีการพาดพิงถึงตนหลายครั้ง รวมถึงที่ น.ส.ธิดารัตน์ แจ้งความจับตนข้อหาหมิ่นประมาท เรื่องนี้ตนไม่ยอมอีกต่อไป โดยในวันที่ 25 มิ.ย. จะเข้าแจ้งความที่ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อ.เมือง จ. เชียงใหม่ ให้ตำรวจดำเนินคดีกับ น.ส.ธิดารัตน์และแม่ ในข้อหาหมิ่นประมาทเช่นเดียวกัน ซึ่งยืนยันว่าแม้สามีจะหยุด แต่ตนจะดำเนินการอย่างถึงที่สุด เพราะถือว่าได้รับความเสียหาย และต้องการกระชากหน้ากากผู้หญิง คนนี้ออกมาให้ได้