x close

ไข้หวัด 2009 คร่าชีวิตคนไทยรายที่ 7




สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม


          วันนี้ (4 กรกฎาคม) น.พ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้ กระทรวงฯ ได้รับรายงานข้อมูลไม่เป็นทางการ มีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 เป็นรายที่ 7 ของประเทศไทย เบื้องต้นทราบว่าเป็นผู้หญิง อยู่ในจังหวัดราชบุรี โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในพื้นที่กำลังตรวจสอบข้อมูล โดยคาดว่าเย็นวันนี้จะชี้แจงข้อเท็จจริงให้ทราบต่อไป ทั้งนี้ พบว่าไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ได้กระจายเกือบทั่วโลกแล้ว โดยมีผู้ติดเชื้อประมาณ 80,000 คน โดยประเทศสหรัฐอเมริกามีผู้ป่วยและเสียชีวิตด้วยโรคดังกล่าวมากที่สุด

          ขณะที่ นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เดินทางมารณรงค์การใช้หน้ากากอนามัย และเจลล้างมือภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพหรือหมอชิต 2 ซึ่งมีผู้มาใช้บริการจำนวนมาก โดย นายวิทยา กล่าวถึงผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ เอช 1 เอ็น 1 ในประเทศไทย ว่า ล่าสุดพบผู้ป่วยรายใหม่ 134 คน ในจำนวนนี้ 115 คน เป็นเด็กนักเรียน ส่งผลให้ยอดรวมสะสมอยู่ที่ 1,845 คน กลับบ้านได้แล้ว 1,748 คน มีผู้ป่วยเฝ้าระวัง 10 ราย ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัวและโรคอ้วน

          "ในระยะหลังผู้ป่วยที่เสียชีวิตส่วนใหญ่มีโรคอ้วน จึงกำชับให้โรงพยาบาลดูแลผู้ป่วยมีภาวะอ้วนเป็นกรณีพิเศษ และขอให้ผู้ปกครองงดให้บุตรหลานไปเรียนพิเศษเพื่อตัดวงจรการแพร่ระบาด และกำชับให้โรงพยาบาลในต่างจังหวัด เตรียมรับมือผู้ป่วยหวัด 09 รายใหม่ เพราะอาจมีผู้ป่วยยังไม่รู้ติดเชื้อ เดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงวันหยุดยาวนี้" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว

          ทั้งนี้ เมื่อวานนี้ (3 กรกฎาคม) ที่กรมควบคุมโรค มีการประชุมคณะอนุกรรมการที่ปรึกษาวิชาการและยุทธศาสตร์ด้านการแพทย์และ สาธารณสุข โรคไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ซึ่งประกอบด้วยอาจารย์ ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ภายหลังมีการประชุมร่วมกันประมาณ 4 ชั่วโมง โดยศ.เกียรติคุณ น.พ.ประเสริฐ ทองเจริญ ประธานมูลนิธิส่งเสริมการศึกษาไข้หวัดใหญ่ ในฐานะประธานฯ เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในประเทศไทย จะยืดเยื้อต่อไปอีก 1 ปี แม้ว่าจะมีการควบคุมเป็นพิเศษแค่ไหนก็ตาม โดยภายใน 6 เดือนข้างหน้าจะแพร่ระบาดถึงชุมชนในต่างจังหวัด จากนั้นประชาชนจะคุ้นชินและเข้าใจกลายเป็นเพียงไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ตามฤดูกาล

          "โดยปกติไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลจะมีผู้ป่วยราว 9 แสนคนต่อปี ซึ่งคาดว่าผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ก็น่าจะมีถึงหลักล้านคน หากมีการระบาดไปทั่วประเทศ แต่ความรุนแรงของโรคจะไม่ร้ายแรงเกินกว่าไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ตามฤดูกาล ทำได้มากที่สุดก็คือมีความรุนแรงในระดับเดียวกันเท่านั้น" ศ.เกียรติคุณ น.พ.ประเสริฐกล่าว

          ศ.เกียรติคุณ น.พ.ประเสริฐ กล่าวด้วยว่า คณะอนุกรรมการฯ มีการหารือร่วมกันด้วยว่า สำหรับกลุ่มเสี่ยงในการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 มากที่สุด เป็นกลุ่มนักเรียนและคนวัยทำงาน แต่หากเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ติดเชื้อแล้วมีอาการรุนแรงไม่มีการเปลี่ยนแปลงจาก ที่มีการประเมินไว้ก่อนหน้านี้ คือ กลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคอ้วน ตับ ไต หัวใจ ปอด และผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงทำลายสุขภาพ ดื่มสุรา สูบบุหรี่และพักผ่อนน้อย ซึ่งจากการประเมินข้อมูลของผู้เสียชีวิตในประเทศไทยนั้น เป็นเพราะมาถึงมือแพทย์ช้า ประมาทเกินไป และมีโรคประจำตัว ซึ่งแม้จะติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ตามฤดูกาลก็อาจเสียชีวิตได้เช่นกัน

          ด้าน น.พ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ปัจจุบันได้พบว่ามีการโฆษณาขายยาต้านไวรัสดังกล่าวผ่านทางเว็บไซต์ต่างๆ ดังนั้น ขอให้ผู้บริโภค ผู้ป่วย ผู้ปกครอง ญาติพี่น้องของผู้ป่วย อย่าหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อผู้ประกอบการที่โฆษณาขายยาต้านไวรัสในรูปแบบต่างๆ ผ่านทางอินเทอร์เน็ตเด็ดขาด เพราะนอกจากเสียเงินจำนวนมากแล้ว ยังอาจต้องเสี่ยงกับการใช้ยานั้น เพราะไม่ได้อยู่ภายใต้การสั่งจ่ายและดูแลโดยแพทย์ นอกจากนี้ การได้รับยาอย่างไม่เหมาะสม จะทำให้เชื้อไวรัสดื้อต่อยาได้ และที่สำคัญอาจเป็นยาปลอม และยาเสื่อมคุณภาพ ซึ่งไม่มีใครสามารถรับรองความปลอดภัย และประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ยาดังกล่าวได้ อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการกระทำที่ผิดกฎหมายด้วย และขอความร่วมมือหากพบเห็นเว็บไซต์โฆษณาขายยา โปรดร้องเรียนมายังสายด่วน อย. 1556 เพื่อจะได้เร่งตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมาย

          "ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกกับไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 เพราะผู้บริโภคสามารถป้องกันมิให้ตนเองติดเชื้อได้ โดยยึดถือหลัก กินร้อน ใช้ช้อนกลาง และหมั่นล้างมือ เมื่อจับต้องของสาธารณะด้วยน้ำและสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ ควรสวมหน้ากากอนามัยหากต้องดูแลผู้ป่วย และให้ผู้ป่วยสวมหน้ากากอนามัยด้วย ไม่ใช้แก้วน้ำ หลอดดูดน้ำ ช้อนอาหาร ผ้าเช็ดมือ ผ้าเช็ดหน้าร่วมกับผู้อื่น รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ก็จะช่วยได้ทางหนึ่ง สำหรับผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่มีอาการรุนแรงต้องรีบไปโรงพยาบาลทันที โดยแพทย์จะพิจารณาให้ยาต้านไวรัส เป็นยาชนิดกิน คือ ยาโอเซลทามิเวียร์ ซึ่งหากผู้ป่วยได้รับยาภายใน 2 วัน หลังเริ่มป่วย จะให้ผลในการรักษาดี อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่า อย่าหาซื้อยาโอเซลทามิเวียร์มากินเองอย่างเด็ดขาด" น.พ.พิพัฒน์ กล่าว


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ไข้หวัด 2009 คร่าชีวิตคนไทยรายที่ 7 อัปเดตล่าสุด 4 กรกฎาคม 2552 เวลา 15:44:46 11,179 อ่าน
TOP