x close

พิสูจน์บ้านอาถรรพ์ ไฟไหม้ หนึ่งเดือน 50 ครั้ง




พิสูจน์บ้านอาถรรพ์ ไฟไหม้50ครั้งรวด เจ้าของต้องย้ายหนี (ข่าวสด)

        ถึงแม้เหตุการณ์ไฟไหม้บ้านร่วม 50 ครั้ง ภายในระยะเวลา 1 เดือน จะเป็นเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้ แต่นายวิฑูรย์ ชื่นจิต เสี่ยเจ้าของธุรกิจขายโลงศพ วัย 25 ปี เจ้าของบ้านก็ปักใจเชื่อเต็มที่ว่าเรื่องนี้ไม่ธรรมดา งานนี้จะต้องเป็นฝีมือของคนไม่หวังดี 

        ทำคุณไสยแกล้งให้ไฟไหม้บ้าน!!?

        แต่ในมุมวิทยาศาสตร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับมองว่า เรื่องนี้น่าจะเกิดจากความประมาท หรือไม่ก็เป็นอุบัติเหตุธรรมดา ที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งไม่ว่าเรื่องนี้จะมาจากสาเหตุใด เป็นอุบัติเหตุหรือเรื่องราวที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ ผลที่ตามมาก็คือ ความเสียหายในธุรกิจขายโลงศพที่นายวิฑูรย์ทำอยู่ต้องขาดทุนมากมาย

        งานนี้ถึงขั้นต้องย้ายบ้านหนี!!

        เรื่องประหลาดอัศจรรย์ครั้งนี้ เกิดขึ้นที่บ้านเลขที่ 85 บ้านหัวลิง หมู่ที่ 10 ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เป็นบ้านเช่าที่นายวิฑูรย์เช่าไว้เปิดเป็นร้านขายโลงศพ และรับจัดงานศพแบบครบวงจร ซึ่งไม่น่าเชื่อว่า หลังจากเข้ามาอยู่บ้านหลังนี้ได้เดือนเศษๆ ก็เกิดเหตุประหลาดไฟไหม้ติดต่อกันเกือบ 50 ครั้ง เล่นเอาเจ้าของบ้านต้องแก้ปัญหาจ้าละหวั่น

        ครั้งล่าสุดที่เกิดเหตุไฟไหม้บ้าน คือ ในวันที่ 30 มิ.ย. วันนั้นเกิดเหตุไฟไหม้ถึง 3 ครั้งติดต่อกัน ครั้งแรกไหม้ผ้าสำหรับประดับงานศพ จากนั้นไหม้กระถางดอกไม้พลาสติก และครั้งสุดท้ายไปลุกไหม้โลงศพที่ตั้งวางขายอยู่ในร้าน ซึ่งในแต่ละครั้งกล้องวงจรปิดที่เจ้าของบ้านลงทุนติดตั้งไว้เพื่อจับผิดคนวางเพลิง ไม่สามารถจับภาพได้เหมือนทุกๆ ครั้ง เห็นแต่คนในบ้านเดินไปเดินมาเท่านั้น 

        จึงเกิดคำถามตามมาว่าแล้วไฟที่ลุกไหม้มาจากไหน?

        นอกจากวันที่ 30 มิ.ย. แล้วก่อนหน้านั้น 1 วัน ในตอนเย็นก็เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่บริเวณห้องนอนชั้นสองของบ้าน แต่เจ้าหน้าที่สามารถนำรถน้ำมาฉีดสกัดเพลิงเอาไว้ได้ ทำให้ตู้เสื้อผ้าในห้องและฝ้าเพดาน ถูกเพลิงไหม้ ได้รับความเสียหาย ประมาณ 2 หมื่นบาท และในเช้าวันเดียวกัน ก็เกิดเพลิงลุกไหม้ตะกร้าผ้าเปล่าที่วางอยู่ใต้ถุนบ้าน โดยไม่ทราบสาเหตุด้วยเช่นกัน 

        ลำพังไฟไหม้ 3-4 ครั้ง ก็คงจะสันนิษฐานได้ว่า อาจเกิดจากความประมาท หรือไม่ก็เกิดจากอุบัติเหตุ เพราะธุรกิจร้านขายโลงศพ มักจะมีพวกกองไม้ เศษวัสดุ ติดไฟวางไว้เกลื่อนกลาด แต่เมื่อย้อนกลับไปดูประวัติการเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่บ้านหลังนี้แล้ว ก็ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า สาเหตุเกิดจากเรื่องใดกันแน่ เพราะที่ผ่านมา เกิดเหตุเพลิงไหม้ติดต่อกันนับครั้งไม่ถ้วน จนเจ้าของบ้านแทบไม่ต้องเป็นอันทำอะไร วันๆ เอาแต่นั่งเฝ้ากลัวไฟจะไหม้บ้านวอดวาย

 



        ขนาดติดกล้องวงจรปิดทั่วบ้านยังไม่เจอสิ่งผิดปกติต้องสงสัย!!?

        เหตุไฟไหม้โดยไม่รู้ที่มาที่ไปในหลายๆ ครั้ง ทำให้นายวิฑูรย์ต้องวิ่งโร่เข้าแจ้งความกับตำรวจโรงพักเมืองบุรีรัมย์ ถึง 8 ครั้ง และทุกครั้งเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า เหตุเกิดจากสาเหตุใด ไม่พบแม้กระทั่งเบาะแสการวางเพลิง หรือร่องรอยของไฟฟ้าลัดวงจร เพราะบริเวณที่เกิดเหตุเพลิงลุกไหม้ ไม่มีปลั๊กไฟ และไม่มีคนแปลกหน้าเล็ดลอดเข้าไปในบ้านได้...

        เมื่อเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ไม่สามารถพิสูจน์ได้ นายวิฑูรย์จึงหันไปหาทางแก้ทางไสยศาสตร์ โดยเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ที่ผ่านมา เจ้าของบ้านได้นิมนต์พระสงฆ์จาก 9 วัด มาทำพิธีสวดเพื่อปัดรังควาน แต่ขณะพระสงฆ์ทำพิธีสวดก็ยังเกิดไฟลุกไหม้ขึ้นถึง 13 ครั้ง จนคนในบ้านต้องช่วยกันนำน้ำมาดับไฟ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความหวาดผวา และประหลาดใจให้กับคนในบ้าน และชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงจนแทบไม่มีใครกล้าเข้าบ้านหลังนี้ 

        แต่ที่หนักไปกว่านั้นคือ ในแต่ละวัน จะมีคนมาด้อมๆ มองๆ แถวหน้าบ้าน เพื่อพิสูจน์ความลึกลับเกี่ยวกับเหตุไฟไหม้ โดยไม่รู้ที่มาที่ไป จนสร้างความหวาดผวาให้คนในบ้านไปตามๆ กัน ซึ่งเหตุพิลึกพิลั่นครั้งนี้ ทำให้ธุรกิจขายโลงศพของนายวิฑูรย์ต้องซบเซาลง ลูกค้าหดหายไปกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายเกือบหลักล้าน มิหนำซ้ำ ลูกน้องยังเกิดความหวาดกลัวพากันลาออกไปหลายคน แต่นายวิฑูรย์ก็ยังยืนยันประกอบธุรกิจนี้ต่อไป เพราะรับช่วงต่อมาจากบิดา แต่เพื่อความสบายใจ นายวิฑูรย์จึงตัดสินใจขนของย้ายออกจากบ้านหลังนี้ เพื่อหนีเหตุร้ายที่เกิดขึ้น โดยจะไปเปิดร้านใหม่ที่ อ.ลำปลายมาศ และจะไปหาหมอเขมรขมังเวทมาแก้อาคม เพราะเชื่อว่า ตนเองถูกทำคุณไสย จากคู่แข่งทางธุรกิจ จนทำให้ถูกไฟไหม้หลายหน

        "วิฑูรย์"ยืนยันว่านี่คือความเชื่อส่วนบุคคล!!?

        "ผมเชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้นต้องไม่ธรรมดา และไม่น่าจะเกิดจากการลอบวางเพลิง หรือไฟฟ้าลัดวงจร เพราะตรวจสอบระบบไฟฟ้าภายในบ้านหมดแล้ว ไม่พบสิ่งผิดปกติ เชื่อว่าน่าจะเกิดจากคาถาอาคม หรือคุณไสยจากคู่แข่งทางด้านธุรกิจ เพราะทุกครั้งที่เกิดเพลิงไหม้ กล้องไม่สามารถจับภาพคนร้ายได้เลย ติดผ้ายันต์ก็ยังไม่ดีขึ้น และจะพบเศษเถ้ากระดูกที่เผาศพคนตายปะปนอยู่กับขี้เถ้าไฟที่ไหม้ด้วย ผมต้องหาทางแก้ไขเรื่องนี้ด้วยการไปหาหมอเขมรให้ช่วยแก้คุณไสย ผมเชื่อในเรื่องนี้ เพราะวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถพิสูจน์อะไรได้เลย ขนาดติดกล้องวงจรปิดยังจับใครไม่ได้ แต่บางคนก็ว่า เป็นอาถรรพ์ เพราะเจ้าของบ้านหลังนี้ ทั้งพ่อแม่และลูกชายตายโหงทั้งหมด ตอนนี้จึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อความสบายใจ" นายวิฑูรย์ กล่าว 

        ส่วนทางด้านการพิสูจน์ข้อเท็จจริงเรื่องนี้ พล.ต.ต.สมบัติ คงพิบูลย์ ผบก.ภ.จว. บุรีรัมย์ สั่งการให้ พ.ต.อ.รุทธพล เนาวรัตน์ ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ ไขคดีเพลิงไหม้ปริศนาที่บ้านหลังนี้เป็นการด่วน ผู้กำกับฯ รุทธพล ส่งชุดสืบสวนลงหาข่าวในพื้นที่ทันที เพราะถือว่าเป็นคดีพิเศษที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก 

        หากสืบพบว่า เหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นเป็นการสร้างสถานการณ์ หรือลอบวางเพลิงก็จะดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุทันที และเพื่อเป็นการพิสูจน์ความจริง เรื่องนี้ ดร.สมหมาย ปะติตังโข หัวหน้าภาควิชาวิทยาศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ได้ไปที่บ้านหลังนี้ พร้อมระบุว่า หากจะมองในด้านวิทยาศาสตร์ก่อนจะเกิดเพลิงไหม้ได้ต้องมีสิ่งที่เป็นเชื้อไฟ หรือสารเคมีบางอย่าง เกิดการสันดาปกับอิเล็กตรอน และเกิดปฏิกิริยาว่องไวต่อแสง จึงจะทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้ ถ้าเกิดไฟไหม้ขึ้นเองคงเป็นไปไม่ได้ โดยเฉพาะบริเวณที่เกิดเพลิงไหม้ ไม่มีสิ่งที่จะทำปฏิกิริยาได้ เพราะจากการสำรวจดูแล้ว สายไฟฟ้าภายในบ้านก็ถูกตัดขาดทั้งหมด

        ส่วนความเชื่อทางด้านไสยศาสตร์นั้น ก็ควรใช้วิจารณญาณว่า ควรเชื่อหรือไม่ ยังคงเป็นปริศนากันต่อไป!!?



ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
พิสูจน์บ้านอาถรรพ์ ไฟไหม้ หนึ่งเดือน 50 ครั้ง อัปเดตล่าสุด 4 กรกฎาคม 2552 เวลา 16:20:11 41,750 อ่าน
TOP