x close

ปิดโรงเรียนกวดวิชา หยุดการระบาดไข้หวัด 2009 ได้จริงหรือ?

หวัดใหญ่2009



โรงเรียนกวดวิชาพร้อมใจปิด...แต่ไม่เชื่อหยุดการระบาดหวัด2009 (คมชัดลึก)

          ทันทีที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเห็นชอบให้โรงเรียนกวดวิชาทั่วประเทศกว่า 3,000 แห่ง ปิดทำการเรียนการสอน ตั้งแต่วันที่ 13 - 28 กรกฎาคมนี้ รวม 15 วัน เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 หลังพบผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นนักเรียนนักศึกษานั้น

          "คม ชัด ลึก" ได้สำรวจตามโรงเรียนกวดวิชาดังๆ เช่น ย่านสยามสแควร์และห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ พบว่าส่วนใหญ่แม้จะไม่เห็นด้วยและไม่เชื่อว่าการปิดโรงเรียนกวดวิชาจะช่วยลดจำนวนผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ได้ แต่ก็ยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่

          โรงเรียนกวดวิชายูเรก้าซึ่งเปิดสอนกวดวิชามานาน มีสาขาอยู่ 3 แห่ง ได้แก่ สยามสแควร์ ห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ และวิสุทธ์ธานี กำลังเตรียมจะปิดการเรียนการสอนตามคำสั่ง ครม.แม้ว่าที่ผ่านมาโรงเรียนจะมีมาตรการป้องกันการระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ด้วยการทำความสะอาดโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง ทั้งอุปกรณ์การเรียนการสอน โต๊ะ เก้าอี้ คอมพิวเตอร์ ประตู หน้าต่าง ลูกบิดประตู หรือแม้แต่การทำความสะอาดระบบเครื่องปรับอากาศด้วยก็ตาม

          "เพชรรัตน์ดา ภูมิมาธรรม" ผู้จัดการโรงเรียนบอกว่า นอกเหนือจากการทำความสะอาดโรงเรียนแล้ว ยังมีมาตรการป้องกันตัวเด็กนักเรียน ด้วยการซื้อผ้าปิดปากปิดจมูกแจกนักเรียนทุกคน ไม่ว่าจะมีอาการไข้หวัดหรือไม่ก็ตาม ที่ผ่านมามีเด็กเพียงไม่กี่คนที่ไม่ให้ความร่วมมือ แต่หลังจากเปิดเรียนเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ที่ผ่านมา สถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ 2009 ไม่ดีขึ้นจึงออกกฎบังคับให้ทุกคนใส่หน้ากาก

          ถึงตอนนี้เมื่อมีมติครม.ออกมาเช่นนี้ สิ่งที่ เพชรรัตน์ดา และผู้บริหารโรงเรียนกวดวิชายูเรก้ากำลังพิจารณา คือ เมื่อหยุดการเรียนการสอนไป 2 สัปดาห์ เมื่อกลับมาเปิดสอนอีกครั้ง จะต้องประชุมกับครูผู้สอนว่าจะดำเนินการอย่างไร จะเพิ่มชั่วโมงสอนหรืออัดเทปให้นักเรียนไปเรียนด้วยตัวเอง นั่นคือสิ่งที่พวกเขากำลังหาทางออกร่วมกัน เพื่อตัวเด็กนักเรียนที่ได้รับผลกระทบโดยตรง

          ข่าวปิดโรงเรียนกวดวิชาไม่ได้ทำให้ "วันชัย สุนทรอดิศัย" ผู้จัดการโรงเรียนกวดวิชาและภาษาเดอะเบสท์รู้สึกแปลกใจมากนัก และเขาเองก็ยินดีจะปฏิบัติตาม แต่ขณะเดียวกันก็อดกังวลผลกระทบที่จะเกิดต่อเด็กนักเรียนกวดวิชาส่วนใหญ่ไม่ได้

          "เราก็ทราบกันดีว่านักเรียนที่มาเรียนกวดวิชานั้น ส่วนใหญ่ไม่ทันกับการสอนของโรงเรียนภาคปกติ หรือบางคนต้องการมาเรียนเสริมทักษะเพิ่มเติม โดยปกติเราก็จะสอนไปพร้อมๆ กับบทเรียนของโรงเรียน แต่ถ้าต้องหยุดเรียนหยุดสอนไป นักเรียนที่เรียนไม่ทันอยู่แล้วจะเรียนไม่ทันไปกันใหญ่ ตรงนี้ทางโรงเรียนกวดวิชาจะหารือกันอีกครั้งว่าจะทำยังไงดี เพราะตอนนี้ก็ใกล้จะหมดเทอมแล้ว"

          วันชัยยืนยันด้วยว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา โรงเรียนกวดวิชาและภาษาเดอะเบสท์มีมาตรการป้องกันอยู่แล้ว เช่น ทำความสะอาดโรงเรียน การออกข้อบังคับให้เด็กที่มีอาการเสี่ยงใช้ผ้าปิดปาก ตลอดจนก่อนเด็กจะเข้ามาในโรงเรียนให้ทำความสะอาดมือด้วยน้ำหรือสเปรย์ ฯลฯ

          อย่างไรก็ตามจากการสุ่มสอบถามเด็กนักเรียนกวดวิชามีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับมติครม. บางคนอย่าง "ชัยยุตม์" เชื่อว่าการหยุดเรียนจะช่วยกำจัดการแพร่ระบาดได้บ้าง และไม่คิดว่าการหยุดเรียนกวดวิชาจะกระทบต่อนักเรียนมากนัก เพราะมีเวลาอ่านหนังสืออยู่กับบ้าน

          ขณะเดียวกันหลังจาก ครม.มีมติออกมาเช่นนี้ สมาคมผู้บริหารและครูโรงเรียนกวดวิชาได้หารือกับสมาชิก 48 แบรนด์ กว่า 400 โรงเรียนกลับไม่เห็นด้วย แต่เมื่อเป็นมติ ครม.ก็ต้องถือปฏิบัติตาม ทั้งนี้ "อนุสรณ์ ศิวะกุล" นายกสมาคมมองว่า โรงเรียนกวดวิชาจะมีเด็กมาใช้บริการแค่ช่วงเย็นและวันเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งน้อยกว่าอยู่โรงเรียนปกติ ประกอบกับช่วงกลางวันจะมีพนักงานทำความสะอาดใหญ่อยู่แล้ว จึงยืนยันว่าการติดเชื้อของเด็กไม่ได้เกิดจากโรงเรียนกวดวิชาเท่านั้น

          "ผมอยากเรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยข้อมูลทางวิชาการว่ามีเด็กติดเชื้อจากโรงเรียนกวดวิชาเท่าใด ครม.มีข้อมูลเพียงพอหรือไม่ที่ออกมตินี้มา ซึ่งกระทบกับโรงเรียนกวดวิชาและตัวเด็ก โรงเรียนจะสอนเสริมให้ภายหลัง แต่รู้สึกว่าไม่ยุติธรรมเพราะโรงเรียนกวดวิชาทั่วประเทศมีกว่า 3,000 แห่ง บางพื้นที่ไม่มีการแพร่ระบาด ต้องหยุดการเรียนการสอน"

          นอกจากโรงเรียนกวดวิชาแล้ว "คม ชัด ลึก" ยังสำรวจตามร้านเกมและอินเทอร์เน็ตย่านรามคำแหง พบว่าร้านส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยตระหนักถึงมหันตภัยไข้หวัดใหญ่ 2009 และร่วมกันป้องกันการแพร่เชื้ออย่างจริงจัง หลายแห่งเด็กๆ และผู้ใช้บริการยังเข้าไปนั่งเล่นได้ตามปกติ โดยปราศจากผ้าปิดปากปิดจมูก แม้ว่าบางคนจะมีอาการไอจามบ้างเป็นระยะๆ ทั้งที่ก่อนหน้านี้กระทรวงสาธารณสุขรณรงค์ไปแล้วครั้งหนึ่ง

          "อุกฤษ" พนักงานเฝ้าร้านเกมสี่แยกลำสาลียอมรับว่า ทราบข่าวการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ตามหนังสือพิมพ์ แต่เจ้าของร้านยังไม่มีมาตรการอะไรออกมาตามที่รัฐบาลพยายามรณรงค์ ไม่แม้แต่ทำความสะอาดร้าน หรือไม่ได้ห้ามเด็กที่มีอาการไอเข้ามาเล่น

          แต่สำหรับ "สมยศ แก้วเขียว" เจ้าของร้านเกมย่านลาดพร้าวกลับตระหนักถึงภัยนี้จึงทำความสะอาดระบบแอร์ ทำความสะอาดร้าน รวมถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกครั้ง พร้อมทั้งประกาศแจ้งไม่ให้ลูกค้าที่มีอาการไข้ไอเข้ามาใช้บริการด้วย

          "ผมยอมเสียลูกค้า เพราะร้านเราไม่ใหญ่มาก เป็นห้องแอร์มีที่นั่งติดกัน อาจทำให้เชื้อแพร่กระจายได้ง่าย พอได้ฟังข่าวเลยต้องพยายามป้องกันไว้ก่อน เพราะผมเองก็นั่งอยู่กับพวกเขาทั้งวันทุกวัน เราต้องป้องกันตัวเองไว้ก่อน"


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก มติชนออนไลน์

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ปิดโรงเรียนกวดวิชา หยุดการระบาดไข้หวัด 2009 ได้จริงหรือ? อัปเดตล่าสุด 10 กรกฎาคม 2552 เวลา 10:49:26 3,673 อ่าน
TOP