มาร์เชี่ยลอาร์ต เปิดฉากแล้ว จา พนม จุดคบเพลิง (ไทยรัฐ)
หลังจากที่ต้องเลื่อนจากกำหนดเดิมในเดือนเมษายนที่ผ่านมา มาหลายต่อหลายครั้ง เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่สงบ เกิดความวุ่นวายภายในประเทศในช่วงเวลาดังกล่าว ในที่สุดการแข่งขันกีฬาศิลปะการต่อสู้แห่งเอเชีย หรือศึกเอเชี่ยนมาร์เชี่ยลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 1 ตามกำหนดใหม่ ระหว่างวันที่ 1 - 9 สิงหาคมนี้ ก็ได้ฤกษ์เปิดฉากการแข่งขันอย่างเป็นทางการไปเรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อช่วงเย็นวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้มีการจัดพิธีเปิดการแข่งขันขึ้นเพียงอย่างเดียว ที่อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก ภายในการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.)
สำหรับพิธีเปิดครั้งนี้ เริ่มในเวลา 18.00 น. ประเดิมด้วยการแสดง 2ชุด ชุดแรก เกมของน้ำใจ และชุดที่ 2 ดินแดนแห่งรอยยิ้ม จากนั้นเวลา 18.30 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ ถึงสนาม เป็นองค์ประธานในพิธี ต่อด้วยขบวนพาเหรดของนักกีฬาจาก 40 ประเทศที่ร่วมการชิงชัยในครั้งนี้เรียงตามลำดับภาษาอังกฤษ โดยนักกีฬาไทยในฐานะเจ้าภาพ เข้าสู่สนามเป็นลำดับสุดท้าย โดยมี บดินทร์ ปัญจบุตร นักยูยิตสู ทำหน้าที่ถือธงไทย
จากนั้นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดการแข่งขัน กล่าวรายงานการแข่งขัน และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระราชทานพระราชดำรัส เปิดการแข่งขัน ก่อนเข้าสู่การจุดไฟในกระถางคบเพลิง โดย "น้องปุ้ย" ญาณิศา ต่อรัตนวัฒนา นักกีฬาคาราเต้โด ได้อัญเชิญไฟพระฤกษ์เข้าสู่สนาม และส่งต่อให้ "จา พนม" ทัชชกร ยีรัมย์ ยอดนักแสดงจอมบู๊ชื่อดัง ซึ่งสวมบทเป็นหนุมาน สัญลักษณ์ของนักสู้ และมาสคอตตัวนำโชคในครั้งนี้ รับหน้าที่จุดไฟในกระถางคบเพลิงด้านในอินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก
ขณะเดียวกันกระถางคบเพลิงด้านนอกสนามก็ได้ติดขึ้นไปพร้อมๆ กัน เป็นการเริ่มการแข่งขัน และตามด้วยการแสดงชุดสุดท้าย เปลวไฟแห่งศิลปะการต่อสู้ และตอนท้าย มีการแสดงเฉลิมฉลอง โดย "แพนเค้ก" เขมนิจ จามิกรณ์ นักแสดงชื่อดัง พร้อมด้วยการขับกล่อมบทเพลง ประจำการแข่งขันจาก "แอ๊ด คาราบาว" ยืนยง โอภากุล รวมใช้เวลา 1.30 ชั่วโมง สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมได้ไม่น้อย
การแข่งขันกีฬาเอ เชี่ยนมาร์เชี่ยลอาร์ตเกมส์ครั้งนี้ มีนักกีฬาจาก 40 ชาติ รวม 980 คน ร่วมชิงชัยใน 9 ชนิดกีฬา ได้แก่ คาราเต้โด เทควันโด มวยไทย คิกบ๊อกซิ่ง ยูยิตสู ยูโด คูราช วูซู - กังฟู และปันจักสีลัต รวม 112 เหรียญทอง สำหรับการจับสลากแบ่งสายในกีฬาที่สำคัญ เทควันโด จอมเตะไทยที่จะประเดิมสนามวันแรก วันที่ 2 สิงหาคม 3 คน
ปรากฏว่า ฟินเวทหญิง "น้องสอง" บุตรี เผือดผ่อง น่าจะได้เข้าถึงรอบชิงฯ เมื่อรอบแรกเจอพม่า ส่วนรอบ 8 คน เจอปากีสถาน และรอบรองฯ พบมาเก๊าหรือบาห์เรน ส่วนเวียดนาม เกาหลีใต้ อยู่ในสายล่าง, ฟินเวทชาย เจียรณัฎฐ นาคะวิโรจน์ งานหนัก รอบแรกเจอคาซัคสถาน แต่หากผ่านได้น่าจะได้เข้าชิงฯ และเฮฟวี่เวทหญิง รภัทกร ประสพสุข ได้เหรียญทองแดงแน่นอนแล้ว เมื่อในรุ่นนี้มีแข่ง 4 คน โดยรภัทกร จะตัดเชือกกับเกาหลีใต้
ส่วนมวยไทย จากเดิมมีชิง 16 เหรียญทอง แต่ในรุ่นไลท์เวลเตอร์เวทหญิง 63.5 กิโลกรัม ไม่มีนักกีฬาส่งแข่ง ทำให้เหลือชิงเพียงแค่ 15 เหรียญทอง ในจำนวนนี้ 3 รุ่น มีนักกีฬาเข้าร่วมในแต่ละรุ่น 2 คน จากเดิมที่แจ้งมามากกว่านี้ คือ พินเวทหญิง 45 กิโลกรัม, ไลท์เวทหญิง 60 กิโลกรัม และไลท์เฮฟวี่เวท 81 กิโลกรัม ซึ่งตามกฎของสหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ ให้จัดแข่งขันได้ แต่ต้องรอปรึกษาสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (โอซีเอ) เจ้าของเกมอีกครั้งว่า จะสามารถจัดแข่งชิงเหรียญได้หรือไม่
อย่างไรก็ตามใน 3 รุ่นดังกล่าว ไม่มีนักกีฬาไทยเข้าร่วมแต่อย่างใด และจากการจับสลากประกบคู่มวยไทย ถือเป็นโชคดีของ 5 นักชกไทย จากที่ส่งเข้าร่วมชิงชัยทั้งหมด 9 คน ที่ได้เหรียญทองแดงตุนไว้ก่อนแล้ว หลังจากได้ไปยืนรอในรอบรองฯ เลย ได้แก่ เฟเธอร์เวทหญิง 57 กิโลกรัม สรารัตน์ คงสว่าง, แบนตั้มเวทหญิง 54 กิโลกรัม ประกายดาว ประมะรี, ไลท์ฟลายเวทหญิง 48 กิโลกรัม มลธิรา วัฒนภักดี, ฟลายเวทหญิง 51 กิโลกรัม กรณิกา นวลบริบูรณ์ และเฟเธอร์เวทชาย 57 กิโลกรัม กิตติศักดิ์ บุญเสมเสน
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
