x close

เปิดคำคุย ศิริโชค โสภา ไขปริศนา วอลเปเปอร์

ศิริโชค โสภา

ศิริโชค โสภา



เปิดคำคุย ศิริโชค โสภา ไขปริศนา วอลล์เปเปอร์ หมัดน็อคสะท้าน สีกากี (ข่าวสด)

สัมภาษณ์พิเศษโดย จำนง ศรีนคร, พงศ์พิพัฒน์ บัญชานนท์

          " วอลเปเปอร์ อื่นคือยืนเพื่อออกทีวีอย่างเดียว แต่ผมยืนเพื่อฟังและรับข้อมูล มันก็เลยได้มุมโดยไม่ตั้งใจ..."

          หลายคนคงคุ้นๆ กับภาพของชายวัย สี่สิบต้นๆ ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง เดินตามหาโอกาส "ฉายภาพ" อยู่ด้านหลัง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ทุกโอกาสและสถานที่ และใครเลยจะคิดว่าชายผู้นี้มี นามว่า ศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรค ประชาธิปัตย์ หรือสมญา วอลเปเปอร์ ตัวพ่อ จะมีฤทธิ์เดชขนาดขย่มวงการสีกากี ด้วยการแฉเรื่องการเซ็งลี้เก้าอี้ตำรวจ 2 ครั้งซ้อน จนทำเอาวงการสีกากีปั่นป่วนวุ่นวายยกใหญ่

          แต่ก็ช่วยผสมโรงกับที่ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พยายามบีบให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ร่อนเร่พเนจรไปได้ทั่วโลก ยกเว้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อไม่ให้ยุ่งกับการจัดทำบัญชีโยกย้ายตำรวจ ซึ่งว่ากันว่าเป็น "กฐินสามัคคี" ที่มีการล้วงควักมโหฬารที่สุดนับแต่มีกรมปทุมวันมา

          ในฐานะคนที่แค่มองตาก็รู้ใจ เราจึงขอให้ ศิริโชค โสภา ไขปริศนา ทั้งที่มาความแนบแน่นระหว่าง "รุ่นพี่-รุ่นน้อง" ออกซฟอร์ดคู่นี้ และวิธีการแก้ปัญหาของ "คนข้างหน้า" ในฐานะผู้ที่ติดตามอยู่ตลอดเวลา ที่ดูยึกๆ ยักๆ ชอบกล จนทำให้ภาวะความเป็นผู้นำดูลดน้อยถอยลง มาจากอะไร...

  นอกจากความเป็นนักเรียนอังกฤษด้วยกัน มันมีจุดคลิกอะไร ทำไมนายกฯ เลือกใช้งานศิริโชค

          ศิริโชค โสภา : อาจจะใช้งานง่าย พูดอะไรแล้วเข้าใจ ไม่ต้องอธิบายยาว และเวลาไปหาข้อมูลสำคัญๆ ที่จำเป็นต้องหาในเน็ตก็จะใช้ผมเป็นหลัก อย่างเช่นเวลาต้องการ พ.ร.บ.อะไรสักอย่าง หรือต้องการ พ.ร.ก. ผมก็จะไปดึงในเน็ตซึ่งผมเข้าใจว่า สเปคแบบนี้มันมีไม่เยอะใน ปชป.ที่จะหาข้อมูลได้เร็ว และบางทีเป็น เอกสารภาษาอังกฤษ ก็จะต้องใช้คนที่เชี่ยว ชาญพอสมควร

  แต่ก็มีคนมองว่าทั้งคุณ ศิริโชค ทั้ง นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นคนที่มีแต่พรรค แต่ไม่มีพวก ก็เลยมารวมกัน

          ศิริโชค โสภา : อาจจะเป็นบุคลิกใกล้เคียงกัน ทั้งผมและ คุณ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีสังคมและโลกส่วนตัวเหมือนกัน ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร พอเย็นก็กลับบ้าน ไม่ค่อยได้ไปสังสรรค์กับบรรดา ส.ส. จึงอาจจะมองไปอย่างนั้นก็ได้

  เขาบอกว่าคุณศิริโชคเลือกคบคน เฉพาะคนที่ให้ประโยชน์จริงไหม

          ศิริโชค โสภา : ไม่จริง ผมคบกับคนที่มาคุยกับผม สมมุติผมไม่รู้จัก ผมก็ไม่รู้ไปคุยอะไร เพราะเป็นบุคลิกส่วนตัว อย่างผู้หญิงถ้าจะจีบต้องมีคนแนะนำ ไม่กล้าเดินไปจีบเอง เพราะทำใจไม่ได้ที่จะเดินไปทักคนที่ไม่รู้จัก ซึ่งตรงนี้ก็ เป็นปัญหาเหมือนกัน เพราะในพรรคเองเวลามี ส.ส.ใหม่เข้ามา ผมไม่รู้จักก็จะไม่เข้าไป คุยด้วย หน้าตาผมก็ไม่ค่อยรับแขกอยู่แล้ว ผสมโรงกับเป็นคนที่มีมนุษย์สัมพันธ์ไม่ค่อยดี เขาก็เลือกมองว่า คนคนนี้เลือกคบเฉพาะคนที่มีประโยชน์ด้วย ซึ่งถ้ามองข้อเท็จจริงคนที่ผมคบก็ไม่เห็นมีใครทำประโยชน์ให้ผมเลย

  อย่างน้อยๆ ก็ใช้แบรนด์นายกฯทำให้ คนรู้จัก

          ศิริโชค โสภา : โหย...ผมว่าเป็นเรื่องการทำงานมากกว่า เพราะผมเปิดโทรศัพท์ 24 ชั่วโมง นายกฯโทร.ตามเมื่อไรก็ได้ และอีกอย่างผมเป็นคนมีวินัย อย่างนายกฯมาทำงาน 7 โมงเช้า ผมก็มา 7 โมงเช้า

  ตอนแรกบทบาทอยู่ในระนาบเดียวกัน แต่ตอนหลังไปเป็น วอลเปเปอร์ ให้นายกฯอยู่ข้างหน้า

          ศิริโชค โสภา : จริงๆ คำว่าวอลเปเปอร์ มาจาก คุณ โน้ต อุดม แต้พานิช ที่ไปพูดในคอนเสิร์ตเขา คำว่า วอลเปเปอร์ มันก็เลยเด่นออกมา จริงๆ แล้วถ้าไม่มีใครสังเกต มันก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากสมัยเป็นผู้นำฝ่ายค้าน อย่างเวลาผมไปกับผู้นำฝ่ายค้าน เวลาออกทีวีก็ออกพร้อมกัน ไปกับนายกฯก็ออกทีวีพร้อมกัน คือต้องเข้าใจว่า ส.ส.ต่างจังหวัดเวลามาทำงานใน กทม.เขามีเวลาว่างกลับต่างจังหวัดแต่เสาร์ - อาทิตย์ หรือถ้าเป็นรัฐบาล จริงๆ ก็แค่วันเสาร์วันเดียว จึงจำเป็นต้องให้ชาวบ้านได้เห็นเราบ้างในทีวี ส.ส.ต่างจังหวัดทั่วไป เวลาอยู่สภาก็อยากออกทีวี แย่งกันอภิปรายเวลามีการถ่ายทอดสด คือมันเป็นปรากฏการณ์ปกติที่ ส.ส.อยากออกทีวี

  มีเทคนิคส่วนตัวอะไรให้หน้าได้ออกทีวีบ่อยๆ เพราะบางครั้งรูมันนิดเดียว

          ศิริโชค โสภา : มันเป็นธรรมชาติ คือผมเป็นคนที่พยายามฟังว่านายกฯพูดอะไร เวลาให้สัมภาษณ์ และเวลาฟังบางทีไม่ได้ยินก็เงี่ยหูฟัง เพราะบางครั้งหลังจากที่นายกฯให้สัมภาษณ์เสร็จ เราก็อาจจะคอมเมนต์บางอย่าง หรือนายกฯอาจ จะถามว่า ประเด็นที่นักข่าวถามเนี่ยมันมา จากไหน ถ้าเราไม่ฟังมันจะมีปัญหา พอเราเงี่ยหูฟัง มันก็จะได้มุมพอดี ขณะที่ วอลเปเปอร์ อื่น คือยืนเพื่อออกทีวีอย่างเดียว แต่ผมยืนเพื่อฟังและรับข้อมูล มันก็เลยได้มุมโดยไม่ตั้งใจ

  ตอนนี้นายกฯ มีวอลเปเปอร์กี่

          ศิริโชค โสภา : เยอะนะครับ เวลาลงพื้นที่ก็มี ส.ส.อยากมายืนข้างหลังนายกฯ

คุณ ศิริโชค อาจจะเป็น วอลเปเปอร์ ยี่ห้อพิเศษหน่อย คือซักอะไรตอบได้ รู้ใจเข้าขานายกฯมากกว่า

          ศิริโชค โสภา : น่าจะเป็นอย่างนั้น คนเลยพุ่งเป้ามาที่ผมเป็นส่วนใหญ่ พุ่งมาทุกเรื่อง แต่ส่วนใหญ่โจมตีมากกว่าสรรเสริญ เพราะทุกคนที่อยู่ใกล้ชิดศูนย์อำนาจมักจะถูกมองแบบนี้

  เวลานายกฯ ปรึกษา คุณ ศิริโชค จะปรึกษา มุมไหนบ้าง

          ศิริโชค โสภา : บางทีนั่งรถไปด้วยกัน แกก็จะปรึกษาหารือ แต่ในบางเรื่องนะครับ ไม่ใช่ทุกเรื่อง หรือบางทีนั่งรถไปด้วยกัน แกนึกสนุกก็อาจจะลองว่าเรารู้จริงหรือเปล่า เช่น เปิดเพลงแล้วถามว่า เพลงนี้ใครร้อง เพราะแกเห็นว่าผมคุยนักคุยหนาว่าเป็นดีเจ มีแผ่นเสียงเยอะ ก็มีวิธีทดสอบ เพราะนายกฯเป็นคนที่ฉลาด จะมีวิธีทดสอบคนที่ทำงานด้วยอยู่ตลอดเวลา ว่ารู้จริงหรือเปล่า หรือบางขณะที่เวลานายกฯอยู่คนเดียวในห้องที่ตึกไทยคู่ฟ้า ผมก็อาจจะเดินไปคุยในเรื่องของพรรค ความเดือดร้อนของประชาชน หรือบางทีท่านก็อาจจะถามข้อมูลลึกๆ บางอย่าง ปัญหาเรื่องของต่างประเทศ หรือในประเทศ แล้วแต่เรื่อง

  เรื่องพรรคท่านนายกฯปรึกษาใคร

          ศิริโชค โสภา : เข้าใจว่าคุยกับรองนายกฯสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นหลัก แต่ในแง่เด็กๆ บางทีมี ส.ส.หนุ่มๆ อยากจะบอกบางสิ่งบางอย่างกับนายกฯ ก็จะบอกผ่านผม ผมก็อาจจะไปพูด

  แต่การที่มี วอลเปเปอร์ อยู่ด้านหลังตลอด ทำให้นายกฯถูกวิจารณ์ว่าเป็นเด็กเพราะมัวแต่เล่นอยู่กับเด็กๆ

          ศิริโชค โสภา : ถ้ามองอีกมุมหนึ่ง ผู้บริหารอายุสี่สิบ จะเอาทีมงานอายุห้าสิบเหรอ เพราะเวลาใช้งาน ใช้งานกับคนที่อายุน้อยกว่าจะง่ายกว่า แต่ว่าเอาคนที่อายุมากกว่า มาเป็นพี่เลี้ยงเป็นที่ปรึกษา สมมุตินายกฯอยากขอคำปรึกษาก็โทรศัพท์ติดต่อคนที่มีประสบการณ์ได้ แต่จะให้ท่านใช้คนอายุหกสิบไปทำงานให้ท่าน เป็นใครก็รู้สึกอึดอัด นี่ก็เป็นหลักธรรมชาติของคนไทยอยู่แล้ว

  แสดงว่านายกฯกลัวภาวะถูกขี่อยู่เหมือนกัน

          ศิริโชค โสภา : ไม่ใช่ถูกขี่ เหมือนผม ผมเคยเป็นผู้บริหารบริษัท เวลาผมจะเลือกคนที่ไปกับผม ก็จะเลือกคนที่อายุใกล้เคียงกัน แต่ถ้าเกิดมีลุงอายุหกสิบนั่งรถไปกับผม ผมก็จะมีความรู้สึกอึดอัด ไม่กล้าใช้งานเขา เกรงใจเขา แต่ถ้ามีคนอายุไล่เลี่ยกัน ก็จะบอกว่า เห้ย คุณไปจัดการเรื่องนี้ให้ผมด่วนเลยนะ โอเค ผมกล้าพูด แต่ถ้าเป็นอายุหกสิบ ผมคงไม่กล้าพูด

  อย่างลุงสุเทพสร้างภาวะอึดอัดไหม

          ศิริโชค โสภา : (อึกอัก) ไม่ใช่...ลุงสุเทพ ท่านก็เป็นคนที่ท่านนายกฯหารือ ปรึกษา เป็นคนที่มีประสบการณ์ ให้คำแนะนำนายกฯได้ แต่จะไปใช้งานคุณสุเทพหนักๆ ให้ไปค้นข้อมูล ท่านก็คงไม่ใช่หรอก ท่านก็มาใช้งานเด็กๆ อย่างผม หรือ สตาฟฟ์ให้ไปจัดการ นี่มันคือหลักปกติของการบริหารงานอยู่แล้ว

ศิริโชค โสภา

ศิริโชค โสภา

ศิริโชค โสภา

ศิริโชค โสภา



  แต่ในเมื่อยอมรับว่าไม่ค่อยมีเพื่อนในพรรค แล้วจะไปค้นข้อมูลที่เที่ยงตรงแม่นยำได้ที่ไหน

          ศิริโชค โสภา : คำว่าเพื่อน ต้องดูว่ามีเพื่อนอะไรบ้าง ถ้าเพื่อนในพรรคอาจจะมีน้อย แต่เครือข่ายข้างนอกมีเยอะอยู่แล้ว ไม่งั้นอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่ได้หรอกครับ เพียงแต่ผมไม่มีโอกาสสุงสิงกับคนในพรรค ถ้าผมเห็นแก่ประโยชน์ ผมก็จะต้องสุงสิงกับคนในพรรคอย่างเดียว หาคะแนนกับคนในพรรค เพื่อเขาจะผลักดันให้ผมมีตำแหน่งสูงขึ้นๆ ถ้าผมไปคบกับคนพวกนี้ วันๆ ไม่ต้องไปทำอะไรเลย สังสรรค์อย่างเดียว เวลาเขาไปไหนก็ตามเขาไป ช่วยจ่ายเงินให้ ดูแลเขาเป็นพิเศษ คนก็พูดกันเองไปเรื่อยเปื่อยว่า คนไม่ค่อยชอบในพรรค แต่จริงๆ ผมก็มีคนที่สนิทสนมรู้ใจกันหลายคนเหมือนกัน

  ทำไมพอเกิดเรื่องจึงไม่เห็นมีใครออกมาช่วยเลย

          ศิริโชค โสภา : คือเรื่องที่ผมจับ เป็นเรื่องใหญ่ และมีความสลับซับซ้อน แล้วใครจะมาพูดได้ล่ะครับ ยกตัวอย่างเรื่องชินแซทไม่มีใครรู้เรื่องเลยพอมาเรื่องซีทีเอ็กซ์ หรือปราสาทพระวิหาร คนก็รู้จำกัด พอมาเรื่องตำรวจ เขาก็ไม่รู้ว่าผมมีหลักฐานแค่ไหน และเขาเอง เมื่อเขาไม่ได้ทำ เขาก็ไม่มีหลักฐาน เขาก็ไม่กล้าลุกขึ้นมาพูด แต่ถ้าเป็นการถกเถียงการเมืองทั่วไป โอเค มีคนมาช่วยอยู่แล้ว เพราะมันเป็นเรื่องง่าย อย่างถกเถียงว่า ควรจะแก้หรือไม่แก้รัฐธรรมนูญ

  การออกมาแต่ละครั้ง จะค่อนข้างเปรี้ยงปร้าง

          ศิริโชค โสภา : คือผมเป็นนักมวยหมัดน็อค แต่มันเป็นเหตุบังเอิญมากกว่า เกือบทุกปีก็จะมีเรื่องใหญ่

  ทำไมอยู่ๆ ถึงมาเปรี้ยงเรื่องตำรวจ

          ศิริโชค โสภา : เขาโยนความผิดมาที่ผม...มาที่บรรดา วอลเปเปอร์ ที่ปรึกษาก่อน ก็เลยต้องออกไปชี้แจงข้อเท็จจริงแค่นั้นเอง

  เรื่องที่ไปเซ็นชื่อนามบัตร

          ศิริโชค โสภา : ผมก็ไม่รู้เขาหมายถึงใคร เพราะเท่าที่ผมฟัง มันมีหลักฐานหลายอย่างเหลือเกิน เพราะเขาปล่อยข่าวออกมาเยอะแยะเต็มไปหมด ผมจึงต้องออกมาชี้แจงว่า ไม่เกี่ยวข้องกับการ เมืองเลย และต้องอธิบายว่าทำไมถึงถูกกล่าวหา และถือโอกาสนี้ออกมาปรามว่าอย่าทำกันเลย เพราะทำไปแล้วมันไม่ดีต่อวงการตำรวจ

  ทำไมต้องเปิดเผยเรื่องการซื้อขายตำแหน่งเป็นระลอกๆ

          ศิริโชค โสภา : ไม่มีหรอกครับ มันเป็นความบังเอิญ เพราะผมไปให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งไว้ เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม แต่เขาไม่ได้เอาไปลงอยู่ดีๆ ก็เอามาลงเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม มันก็เลยเป็นข่าวใหญ่ขึ้นมา เว็บไซต์ ทีวีก็เกี่ยวไปหมด ผมเลยต้องออกมาชี้แจง

  แต่หมัดนี้แทนที่พวกซื้อขายตำแหน่งจะน็อค กลับมาโดนนายกฯคางเหลืองแทน

          ศิริโชค โสภา : ผมว่านายกฯ น่าจะดีขึ้นนะครับ มองความรู้สึกว่า อย่างน้อยสังคมก็ชัดเจนว่าไม่เกี่ยวกับฝ่ายการเมือง วันนี้ถ้าไปถามสังคม เขาก็จะรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น จากเดิมที่อาจจะคลางแคลงใจว่าฝ่ายการเมืองเข้าไปล้วงลูก วันนี้ เขาก็อาจจะมีความชัดเจนขึ้นว่าไม่ใช่ นายกฯน่าจะหน้าตาดีขึ้น ไม่น่าจะคางเหลือง

  เป็นความตั้งใจที่เราจะออกมาช่วยนายกฯหรือเปล่า หลังจากที่มีปัญหาการจัดการเรื่องตำรวจตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา

          ศิริโชค โสภา : บางทีคนไปเข้าใจว่า พรรคประชาธิปัตย์มีแผนสลับซับซ้อนมาก จริงๆ ไม่ใช่หรอก มันเป็นความบังเอิญ ข่าวมาลงในจังหวะเวลาที่ทำโผ มันเลยดัง ถ้าไปลงเวลาอื่น ไม่มีคนสนใจหรอกครับ ถามว่านายกฯ มีการเตี๊ยมไหม ไม่มีหรอกครับ นายกฯเป็นคนที่ทำงานไปวันๆ ไม่มีมาวางแผนยุทธศาสตร์ว่า ไป ทำอย่างนี้ อีกคนไปทำอย่างนี้

  เคยโดนนายกฯ ตำหนิว่า อย่าเอาแต่เดินตาม ให้ไปลงพื้นที่บ้าง

          ศิริโชค โสภา : คือต้องเข้าใจนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คนที่ไม่รู้จัก จะไม่เข้าใจท่าน บางทีแกแซวเล่น ท่านหยอกล้อ ซึ่งสิ่งที่หยอกล้อไม่ใช่อย่างที่คนคิด คือ บางคนก็เข้าใจว่านายกฯแดกดัน คือท่านก็มีวิธีระบายของท่าน แล้วนายกฯเป็นคนที่สนุก สนานมีมุขตลกเยอะ ถ้ารู้จักดีพอ ก็จะหยอกล้อของท่านไปเรื่อย แต่คนบางคนไม่เข้าใจคิดว่าตำหนิ

  ถ้าไม่มีคุณศิริโชค นายกฯคงไม่รู้จะไประบายกับใคร

          ศิริโชค โสภา : ก็คงมีคนอื่นแหละครับ (หัวเราะ) แต่บังเอิญว่าผมอยู่ใกล้มือใกล้เท้าหน่อยเท่านั้นเอง

  เรื่องยอดนิยมคือเรื่องไหน

          ศิริโชค โสภา : ส่วนใหญ่เป็นเรื่องฟุตบอลเป็นหลัก ได้ 24 ชั่วโมงเลย เพราะนายกฯเป็นคนที่มีข้อมูลเยอะ โดยเฉพาะเรื่องทีม นิวคาสเซิล เวลาว่างๆท่านก็เปิดอินเตอร์เน็ตดู ผมว่ามันเป็น การฝึกสมองอย่างหนึ่ง เหมือนมีกระแสข่าวว่านายกฯไม่ควรไปปาฐกถาเยอะ ควรจะอยู่ทำงาน อันนี้ก็มาจากคนที่ไม่เข้าใจนายกฯจริงๆ ถ้าเราเอามาตรฐานตัวเองไปวัด เราก็จะคิดคนละมุมกัน คือนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นคนที่ถ้าอยู่นิ่งๆ ทำงานไม่คล่อง แต่ถ้าออกไปปาฐกถา เดินสาย สมองจะวิ่งฉิวเลย คือคนมันต่างกัน อย่างสมัยเรียนก่อนสอบ คนส่วนใหญ่ต้องไปอยู่ในห้องสมุดเงียบๆ แต่นายกฯต้องเปิดเพลงดังๆ แล้วอ่านหนังสือ ทีนี้บางคนพอเห็นนายกฯเปิดเพลงดังแล้วคิดว่าไม่เรียนหนังสือ แต่พอไปสอบก็ได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง คือผมจะมองให้เห็นว่า บางสิ่งบางอย่างที่เราคิด มันไม่ใช่

  ถ้าจะให้เนม (ระบุรายชื่อ) คนที่นายกฯพูดจาปราศรัยด้วยยามเย็น มีใครบ้าง

          ศิริโชค โสภา : เยอะนะครับ มีข้าราชการ 3-4 คนอยู่ข้างหน้า มีคนที่ท่านเอามาทำงานส่วนตัว 2-3 คน เพียงแต่คนเหล่านั้นไม่ได้ปรากฏว่าเป็นข่าว คนเลยคิดว่ามีผมคนเดียว ส่วนรัฐมนตรีคนอื่นๆ ต่างคนก็ต่างทำงาน มีคุณสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯเดินมาบ้างแต่ไม่ค่อยบ่อย

  เวลานายกฯเครียด ท่านทำอะไร

          ศิริโชค โสภา : ผมไม่เคยเห็นท่านเครียดเลย มีเครียดครั้งเดียวที่ผมเห็น คือวันที่นิวคาสเซิลตกดิวิชั่น

  ในการตัดสินใจช็อตสำคัญๆ ที่นายกฯแสดงภาวะผู้นำ เช่นเหตุการณ์สงกรานต์ ปัญหากับพรรคร่วม การโต้ตอบกับคุณศักดิ์สยาม (ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย) มีมุมที่นายกฯต้องใจหายใจคว่ำลุ้นไหมว่า ผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร

          ศิริโชค โสภา : ไม่มี คือท่านเป็นคนที่รอบคอบ จะศึกษาข้อมูลทั้งหมด จะหารือกับคนนั้นคนนี้ แต่เมื่อตกผลึกแล้วถึงจะจัดการ แต่วิธีการจัดการอาจจะต่างจากคนอื่น เพราะอาจจะทำในมุมที่คนอื่นมองไม่เห็น ในระยะสั้นคนอาจจะมองว่า เออ ทำไมไม่เด็ดขาด แต่ในระยะยาว ผมเชื่อว่า มันจะเป็นผลดี มันก็เปรียบเทียบได้กับทีมฟุตบอลแหละครับ คือถ้าจะเข้าใจนายกฯ ต้องเข้าใจทีมนิวคาสเซิล คือชอบให้คนอื่นยิงนำไปก่อน เสร็จแล้วก็มายิงตามทีหลัง หรือถ้าจะแพ้ก็แพ้เพราะว่ายิงเข้าประตูตัวเอง

  ยิงตามทีหลังโอกาสก็ได้แค่เสมอ

          ศิริโชค โสภา : อาจจะยิงนำก็ได้ ชนะ 3-2 ก็มี

  อาจจะมีเวลาฝนตก ต้องพักสนาม

          ศิริโชค โสภา : เป็นปัจจัยภายนอก แต่โดยทั่วไปแล้ว เมื่อเกมยังไม่จบ อย่ากะพริบตา นี่คือนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ บางทีอาจจะเห็นว่าทำไมไม่รีบจัดการ ทำไมลังเล ผมว่าท่านมีเหตุผล แล้วสุดท้ายพอจบ จะเห็นว่าสิ่งที่ตัดสินใจนั้นถูกต้อง

  ตอนนี้ชุดเอลงสนามหมดหรือยัง หรือยังมีตัวข้างสนามอื่นอีก

          ศิริโชค โสภา : ผมว่าอันนี้เป็นเรื่องที่ผู้จัดการทีมบอกไม่ได้ว่าจะเอาใครลงต่อ อยู่ที่การตัดสินใจของท่านนายกฯ และผมก็เชื่อมั่น เพราะที่ผ่านมา ท่านก็ตัดสินใจถูกมาโดยตลอด เห็นได้จากช่วงเดือนเมษายน ก็จะเห็นภาวะผู้นำ เมื่อถึงบทบาทที่ท่านจะเอาจริง ท่านก็ทำ แต่ตอนนี้มันยังไม่ถึงที่จะต้องแตกหัก

  จะไม่มีโยนผ้า

          ศิริโชค โสภา : ไม่มีอยู่แล้ว ยกเว้นเมื่อท่านคิดว่ายุบสภาไปแล้วเป็นผลประโยชน์ประเทศชาติ เพราะท่านไม่ยึดติดอำนาจ ซึ่งอันนี้เป็นความน่ากลัวของคุณ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่นักการเมืองอื่นมองไม่เห็น เพราะไม่สามารถเอาอะไรไปต่อรองได้เลย ในเมื่ออีกคนบอกว่า ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร

  คนใกล้ชิดพูดอย่างนี้ส่งสัญญาณถึงพรรคร่วมหรือไม่ว่า กดดันมากๆ เดี๋ยวยุบสภานะ

          ศิริโชค โสภา : ไม่หรอก มันเป็นบุคลิกโดยเฉพาะคุณ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อยู่แล้วที่สามารถมองเห็นได้

  คนอย่างท่าน นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะมีวันที่ขาลอย เหยียบเมฆ เหมือนกับที่ถูกวิจารณ์ไหม

          ศิริโชค โสภา : ไม่มีทางเลยครับ คนคนนี้ไม่มีทาง เพราะเป็นคนที่ติดดินมาตลอด เพราะสังคมในเมืองนอกสอนให้ท่านเป็นคนอย่างนั้น เพราะสังคมในเมืองนอกไม่มีการแบ่งชนชั้นวรรณะ ทุก คนเท่าเทียมกันหมด เหมือนกับผม วันหนึ่ง ก็ต้องถอน เมื่อถอนแล้วก็จบ




ศิริโชค โสภา

ศิริโชค โสภา



ประวัติ ศิริโชค โสภา ฉายา วอลเปเปอร์

คอลัมน์ คนตามข่าว
โดย ดุษฎี สนเทศ

          ได้ฉายา " วอลเปเปอร์ " ประจำตัวนาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ชนิดไม่มีผู้ใดคัดค้าน เนื่องจากทุกครั้งที่ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้สัมภาษณ์ จะเห็นนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ ยืนเด่นเป็นสง่าอยู่ด้านหลัง

          ทว่าหลังจากเขาปูดข่าวกล่าวหาคนใกล้ชิด พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีพฤติการณ์ซื้อขายตำแหน่งโยกย้ายนายพันตำรวจเท่านั้นแหละ นายศิริโชคเลยกลายเป็นวอลเปเปอร์สีบาดตาบาดใจตำรวจรอบตัว ผบ.ตร.

          เกิดเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2510 เป็นบุตรนายบัวไส-นางเสาวรส โสภา มีพี่น้อง 3 คน เขาเป็นคนสุดท้อง

          พ่อแม่ส่งไปเรียนที่ไฮสคูล ประเทศอังกฤษตั้งแต่อายุ 10 ขวบ จบปริญญาตรีสาขาเคมีและเศรษฐศาสตร์ ที่คิงส์คอลเลจ มหาวิทยาลัยลอนดอน ปี 2531 ปริญญาโท สาขาบริหารการเงิน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ปี 2539

          กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ เลขานุการคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ กรรมาธิการสื่อสารและโทรคมนาคม กรรมาธิการกิจการสภา

พรรคการเมือง : กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์

          ปี 2539 ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งแรกในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ที่กรุงเทพมหานคร เขต 11 แต่ไม่สำเร็จ ปี 2544 ย้ายไปลง ส.ส.สงขลา เขต 7 อาศัยฐานพรรคแน่นเลยสอบติดได้เป็น ส.ส.ครั้งแรก ปี 2548 ส.ส.สงขลา เขต 7 ปี 2550 ส.ส.สงขลา เขต 3

          เคยสร้างผลงานตรวจสอบความไม่โปร่งใสในการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์สมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และตรวจสอบบริษัท ชิน แซทเทลไลท์

          ด้วยความที่เป็นรุ่นน้องจากแดนผู้ดีจึงมาสนิทสนมกับ นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในช่วงเป็นหัวหน้าพรรค กอร์ปกับเชี่ยวชาญภาษาอังกฤษ เขาจึงได้รับความไว้วางใจให้มาช่วยงานข้างกายผู้นำประเทศในที่สุด


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เปิดคำคุย ศิริโชค โสภา ไขปริศนา วอลเปเปอร์ อัปเดตล่าสุด 20 สิงหาคม 2552 เวลา 10:52:59 17,160 อ่าน
TOP