x close

แบไต๋ไฮเทคพิสูจน์ คลิปอภิสิทธิ์ ที่ช่อง11

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ



เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์



แบไต๋ไฮเทคพิสูจน์ คลิปอภิสิทธิ์ ที่ช่อง11 (คมชัดลึก)

          อภิสิทธิ์ เชิญพิธีกรรายการแบไต๋ไฮเทคเนชั่นทีวีทำหน้าที่พิสูจน์คลิปเสียงระบุชัดตัดต่อยันหาต้นต่อได้ ทางรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์" ปชช.ยังกังวลแม้นเสื้อแดงเลื่อนม็อบชี้เกมการเมือง 

          วันที่ 30 สิงหาคม เวลา 09.00 น. ณ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวกับพี่น้องประชาชนในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์" เป็นครั้งที่  33 ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย  โดยช่วงที่ 2 ได้เชิญพิธีกรจากรายการแบไต๋ไฮเทคเนชั่นทีวีทำหน้าที่สัมภาษณ์เรื่องคลิปเสียงที่ทำให้เข้าใจว่าสั่งสลายการชุมนุมออกมาเผยแพร่  โดยพิธีกรได้พิสูจน์ด้วยโปรแกรมออดิโอคลื่นเสียงระบุชัดเจนว่าเป็นการตัดต่อ ยังตรวจสอบการส่งคลิปทางอีเมล์ไปหาใครบ้างเพื่อรู้ว่าต้นต่อมาจากไหน

          ทั้งนี้ นาย อภิสิทธิ์ กล่าวว่า ครั้งแรกที่ได้รับทราบจากสื่อมวลชนที่มาบอก เมื่อได้ฟังเสียงแล้วตนยอมรับว่าเป็นเสียงของตนเอง แต่เมื่อฟังไปได้ประมาณ 2 - 3 ประโยค ตนรู้ได้ทันทีว่าเสียงดังกล่าวเป็นการตัดต่อ เพราะความสม่ำเสมอของเสียงไม่เท่ากัน และเสียงในคลิปดังกล่าวก็ได้ส่งให้ผู้เชี่ยวชาญทำการตรวจสอบ ซึ่งภายใน 1 วันก็ทราบผลแน่ชัดแล้วว่าเป็นการตัดต่ออย่างแน่นอน เนื่องจากเสียงพูดนั้นเป็นการพูดไม่ปกติ โดยเปรียบเทียบคำพูดและน้ำเสียงในแต่ละคำ

          หากมีการนำคลิปเสียงของตนไปเปิดในเวทีชุมนุม และหากมีคนเชื่อว่าตนได้พูดอย่างนั้นก็จะทำให้เกิดความวุ่นวายอย่างแน่นอน ผมขอฝากเตือนไปยังคนที่ตัดต่อเสียง และนำไปเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตนั้นจะมีความผิด เพราะมีพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ควบคุมอยู่ ในระหว่างนั้นขณะเดียวกัน ผู้ดำเนินรายการถามว่ามีความรู้สึกโกรธหรือไม่กับการที่ถูกตัดต่อเสียงในคลิปดังกล่าว นายกรัฐมนตรีระบุว่า ก็เป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์

          ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ส่วนตัวใช้ใช้ทวิตเตอร์  hi5 และ facebook ซึ่งมีทีมงานคอยดูแลทำให้ แต่ส่วนใหญ่จะติดตามคนที่ชอบใช้มากกว่า ส่วนอีเมล์ตนก็พยายามที่จะตอบเองให้หมดทุกอีเมล์ อย่างไรก็ตามรัฐบาลพร้อมเตรียมผลักดันเรื่อง 3G และระบบไอทีต่างๆ ให้พัฒนาขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีถือว่าเป็นดาบสองคม ดังนั้นคนที่ใช้ต้องมีจริยธรรมในการงานด้วย

เผยรบ.เตรียมถก พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ อีกครั้งวันจันทร์นี้ 

          นอกจากนี้นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงการเลื่อนการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า วันพรุ่งนี้จะหารือกันว่า จะยกเลิก พรบ.ความมั่นคง หรือไม่ แต่ยืนยันว่าการชุมนุมโดยสงบไม่ว่ากลุ่มไหนสามารถทำได้ แต่การระบุว่า จะไปปิดล้อมสถานที่ต่างๆ ไม่สามารถทำได้ เป็นการสร้างเงื่อนไข  ส่วนที่ให้ ผบ.ตร.ไปเจรจากับแกนนำนั้น มีมาตั้งแต่การประชุมอาเซี่ยนซัมมิท ที่พัทยาแล้ว ซึ่ง ผบ.ตร.ได้ดำเนินการและเข้าใจดี แต่กลุ่มผู้ชุนชุมจะปฏิบัติตามหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่หน้าที่ของรัฐบาลคือเฝ้าระวัง เพราะถ้าเกิดปัญหาขึ้น คนที่ลำบากคือประชาชน

ขณะที่ช่วงที่ช่วงที่1นายกรัฐมนตรี  กล่าว

          สวัสดีครับพี่น้องประชาชนที่เคารพรักทุกท่านครับ  สัปดาห์นี้ผมมาบันทึกรายการในวันเสาร์บ่าย หลังจากที่ได้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ซึ่งความจริงในช่วงของวันสุดท้ายคือ ตั้งแต่วันศุกร์เป็นต้นมา  มีการประชุมต่อเนื่องกันถึง 25 ชั่วโมง  แต่ว่าในที่สุดสภาผู้แทนราษฎรได้มีมติเห็นชอบพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ไปเรียบร้อยแล้ว  ผมขอถือโอกาสนี้ขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกท่าน รวมทั้งคณะกรรมาธิการ ซึ่งได้ไปใช้เวลาในการพิจารณากลั่นกรองรายละเอียดของงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 แล้วทำให้กฎหมายนี้ได้รับความเห็นชอบผ่านไปด้วยความเรียบร้อย 

รัฐบาลเตรียมงบประมาณไว้พร้อมสำหรับโครงการต่างๆ

          ผมถือโอกาสนี้เรียนนะครับย้ำว่างบประมาณปี 53 เป็นงบประมาณซึ่งอยู่ในภาวะที่ไม่ปกติ  เพราะว่าการจัดเก็บรายได้หลังจากที่เกิดปัญหาในเรื่องของวิกฤตเศรษฐกิจขึ้นก็ต่ำกว่าเป้าหมาย  เมื่อต่ำกว่าเป้าหมายก็หมายความว่า เราไม่สามารถที่จะจัดงบประมาณในปริมาณหรือในจำนวนที่เท่ากับปีที่แล้วด้วยซ้ำ  เพราะฉะนั้น จะเป็นลักษณะของงบประมาณที่มีค่าใช้จ่ายลดน้อยลง  แต่ว่าเราจะมีปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง  ซึ่งจะเดินควบคู่กันไป  ซึ่งจะมาชดเชย  และเพิ่มในเรื่องของการลงทุนเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ  ในงบประมาณฉบับนี้ก็ขอยืนยันครับว่า นโยบายสำคัญ ๆ ของรัฐบาลที่ได้ผลักดันมาในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะเรื่องของการเรียนฟรี  เรื่องเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ  เรื่องค่าตอบแทน อสม.  และที่พูดเอาไว้เรื่องค่าตอบแทนของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน  รวมไปถึงการมีเบี้ยให้กับทางคนพิการ  ถูกบรรจุไว้ในงบประมาณอย่างครบถ้วน  เพราะฉะนั้น พี่น้องประชาชนมั่นใจได้ว่าโครงการเหล่านี้ซึ่งรัฐบาลได้เริ่มต้นไว้เพื่อเป็นการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในหลายกลุ่ม  ซึ่งคิดว่าควรจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล  มีเงินงบประมาณที่เตรียมไว้พร้อม  และจะทำให้โครงการเหล่านี้สามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็หวังว่าจะเป็นลักษณะที่เป็นการถาวรต่อด้วย

เศรษฐกิจไทยไตรมาสที่ 4 น่าจะกลับมาเป็นบวก

          ผมเลยถือโอกาสเรียนต่อไปเลยว่าในช่วงวันจันทร์ที่ผ่านมานี้  ทางสภาพัฒน์ (สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ) ได้มีการประเมินตัวเลขเศรษฐกิจ  หลังจากที่ตัวเลขจริงของไตรมาสที่ 2 คือช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายนออกมา  ปรากฏว่าเศรษฐกิจนั้นติดลบร้อยละ 4.9 เทียบกับใน 3 เดือนแรกที่ติดลบไปร้อยละ -7.1 ขณะเดียวกันถ้าเทียบไตรมาสที่ 2 กับไตรมาสแรกนั้นเศรษฐกิจจะโตขึ้นมาประมาณร้อยละ 2.3 โดยสรุปแล้วแนวโน้มเห็นชัดเจนว่า เศรษฐกิจไทยได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุด  และเริ่มมีการขยายตัวขึ้นจนเรามั่นใจว่าในไตรมาสที่ 4 คือ 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้อัตราการเติบโตปีต่อปี  น่าที่จะกลับมาเป็นบวกอีกครั้งหนึ่ง  ตัวเลขล่าสุดที่เป็นการประมาณการณ์ของสภาพัฒน์ฯ คือตลอดทั้งปีจะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณลบร้อยละ 3-3.5  ถือว่าเป็นตัวเลขซึ่งแน่นอนครับไม่มีใครอยากจะเห็นเพราะเป็นตัวเลขที่ติดลบ แต่ก็ดีกว่าที่ได้มีการคาดการณ์เอาไว้ค่อนข้างมากในช่วงต้นปี  และสิ่งที่สำคัญคือว่าตัวชี้วัดอื่นๆ ในทางเศรษฐกิจเริ่มสะท้อนออกมาในทางที่ดี  ทั้งในส่วนของเศรษฐกิจภายในประเทศเราเอง  แล้วก็เศรษฐกิจโลก  และตัวเลขที่สำคัญที่สุดเรื่องของการจ้างงานก็เช่นเดียวกันนะครับ  ขณะนี้เห็นได้ชัดว่า อัตราการเพิ่มของการว่างงานชะลอตัวลงอย่างชัดเจน  ขณะเดียวกันในบางอุตสาหกรรมเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะที่จะต้องจ้างงานคนเพิ่มแล้วด้วย  เพราะฉะนั้น ตรงนี้ก็เป็นสัญญาณที่ดี  

          แต่ในเชิงนโยบายนั้นมีเรื่องที่รัฐบาลจำเป็นที่จะต้องเร่งและระมัดระวัง  ที่ต้องเร่งคือในส่วนของการใช้จ่ายและการลงทุนของรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นงบประมาณคือไทยเข้มแข็ง  จะต้องเดินหน้าอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ  เพราะว่าปัจจัยหนึ่งที่ประคับประคองเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2 และต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันได้คือการใช้จ่ายของรัฐบาลเอง  นั่นคือเป็นความตั้งใจของเราอยู่แล้วที่ได้ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อประคับประคองตรงนี้  เพราะฉะนั้น ในขั้นตอนการปฏิบัติ  เวลาที่เร่งรัดการให้มีเม็ดเงินงบประมาณลงไปสู่เศรษฐกิจจริง  ก็เป็นสิ่งที่รัฐบาลจะต้องเร่งดำเนินการต่อไป 

ดูแลไม่ให้ราคาน้ำมันดีเซลเกิน 30 บาท

          ปัจจัยที่ต้องระมัดระวังแน่นอนที่สุดนะครับ  ประการแรกมีเรื่องของราคาน้ำมัน  ซึ่งยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นในตลาดโลก  แต่ว่าเมื่อรัฐบาลได้เก็บภาษีและมีการเก็บเงินเข้ากองทุนอยู่ส่วนหนึ่ง  ผมก็ยืนยันเหมือนเดิมว่าจะยันไม่ให้ราคาน้ำมันดีเซลเกิน 30 บาท  และก็พร้อมที่จะใช้มาตรการเพิ่มเติมในกรณีที่น้ำมันดิบในตลาดโลกนั้นพุ่งสูงขึ้นไปอีก  เพราะฉะนั้น  ตรงนี้ก็น่าจะทำให้พี่น้องประชาชนอุ่นใจและมั่นใจได้ว่ารัฐบาลยังมีกำลังในการที่จะเข้ามาดูแลพี่น้องประชาชนตรงนี้   ซึ่งก็เป็นเจตนาที่เราได้บริหารในเรื่องของราคาน้ำมันในช่วงที่ผ่านมา  พร้อมๆ กันนั้นการที่เราจะยันราคาน้ำมันไว้ตรงนี้  เพื่อที่จะไม่ให้มีการไปเพิ่มราคาในเรื่องของการขนส่ง ในเรื่องอื่นๆ เพราะฉะนั้น ตรงนี้ก็เป็นจุดหนึ่งที่เราต้องติดตามอย่างใกล้ชิด 

อัตราการเสียชีวิตไข้หวัดใหญ่ 2009 เริ่มลดลง

          ประการที่  2 เรื่องของไข้หวัด ไข้หวัด 2009 ยังคงเป็นปัจจัยที่ยังมีความห่วงใยอยู่ ทั้งในส่วนของการดูแลคนของเรากันเอง  แม้ว่าอัตราการเสียชีวิตในสัปดาห์ล่าสุดที่มีการประกาศตัวเลขเริ่มมีแนวโน้มลดลงอย่างชัดเจน  แต่ว่าในประเทศอื่นๆ  หลายประเทศขณะนี้พุ่งสูงขึ้นค่อนข้างรวดเร็ว  และเราต้องระมัดระวังไม่ให้กลับมา  และโดยเฉพาะในพื้นที่ใหม่ๆ  ซึ่งเชื้อไข้หวัด 2009  เข้าไปในชนบทในบางพื้นที่  ก็ต้องจับตาดูอย่างต่อเนื่อง  เพราะว่าตัวนี้ถ้าหากว่าไม่ลดลงอย่างต่อเนื่อง  ก็อาจจะทำให้เกิดผลกระทบต่อความเชื่อมั่น  โดยเฉพาะอย่างยิ่งของชาวต่างชาติ  และเรื่องของการท่องเที่ยว  สุดท้ายที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษแน่นอนที่สุดคือเรื่องของการเมือง  เพราะว่าในบรรดาผู้เชี่ยวชาญ นักธุรกิจ หรือคนที่มีการติดตามในเรื่องของภาวะเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด  ยืนยันว่าถ้าการเมืองนั้นมีความแน่นอน  มีเสถียรภาพระดับหนึ่งนั้น  ก็ไม่มีอะไรที่จะต้องกังวลในแง่ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ  แต่ถ้าหากว่ามีเหตุการณ์ความวุ่นวายแล้ว  เศรษฐกิจของไทยคงจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง  ซึ่งจะทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยากลำบากมากขึ้น  และแน่นอนครับคนที่เดือดร้อนมากที่สุด  คงจะหนีไม่พ้นพี่น้องประชาชน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องประชาชนที่เป็นคนยากคนจน  

ประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงดูแลการชุมนุม 

          เพราะฉะนั้น หน้าที่ของรัฐบาลอีกประการหนึ่งก็คือการดูแลความสงบเรียบร้อยในส่วนของบ้านเมือง  ซึ่งในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคาร  จึงได้ต้องประกาศใช้กฎหมายความมั่นคง  เนื่องจากว่ามีการประกาศว่าจะมีการชุมนุมในวันอาทิตย์  และมีการพูดไปถึงขั้นว่าอาจจะมีการมาปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล  รัฐบาลก็ได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่  29 สิงหาคมเป็นต้นมา  และจะต่อเนื่องไปจนถึงวันที่  1 กันยายน  ซึ่งเป็นการใช้กฎหมายเพื่อป้องปรามหรือป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้น  และมีผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนน้อยมาก  สิ่งที่ผมต้องการจะกำหนดเป็นแนวทางคือ การที่การชุมนุมทางการเมืองนั้นสามารถจัดได้  แต่ว่าอยู่ในขอบเขตของกฎหมาย  และไม่นำไปสู่ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน และไม่นำไปสู่ความรุนแรง  ซึ่งจะไปกระทบต่อเรื่องของเศรษฐกิจอย่างที่ได้กล่าว

เปิดหีบเลือกตั้งซ่อม ส.ส.สุราษฎร์ธานีเขต1ยังไม่คึกคัก

          ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 1 จ.สุราษฎร์ธานี แทนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ลาออก ใน 7 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมือง กาญจนดิษฐ์ ดอนสัก บ้านนาสาร เวียงสระ เกาะสมุย และ อ.เกาะพะงัน  ซึ่งภาพรวมประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ไปเข้าคิวลงคะแนนกันอย่างบางตา บางหน่วยไม่มีประชาชนไปใช้สิทธิ ต้องหาคนเป็นพยานเปิดหีบบัตรเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง บอกว่า ไม่เคยมีเหตุการณ์อย่างนี้มาก่อน อาจเป็นเพราะคนเบื่อการเมือง มีการเลือกตั้งบ่อยเกินไป และในวันที่ 6 กันยายนนี้ จะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นอีก 

          ขณะเดียวกัน สภาพอากาศ อาจเป็นอุปสรรคต่อการมาลงคะแนนของประชาชนได้ เนื่องจากสถานีอุตุนิยมวิทยา สุราษฎร์ธานี คาดการณ์ว่า จะมีฝนตกลงมาประมาณ ร้อยละ 60-70  ทั้งนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง จ.สุราษฎร์ธานี ตั้งเป้าจะมีผู้ออกมาใช้สิทธิประมาณร้อยละ 60 

ปชช.ยังกังวลแม้นเสื้อแดงเลื่อนม็อบชี้เกมการเมือง

          สวนดุสิตโพล เปิดเผยผลสำรวจประชาชนคิดอย่างไรกับการเลื่อนชุมนุมของคนเสื้อแดงโดยร้อยละ 27.59 ยังรู้สึกกังวลเหมือนเดิม เพราะเป็นเพียงการเลื่อนชุมนุมออกไปเท่านั้นร้อยละ 23.28 รู้สึกโล่งใจ จะได้ไม่เกิดการปะทะกัน ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ กับผู้ชุมนุมซึ่ง ร้อยละ 52.48 มองว่า เป็นการแก้เกมการเมือง เพราะเป็นการชิงไหวชิงพริบ ชิงความได้เปรียบ การประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง เป็นตัวแปรสำคัญของการเลื่อนการชุมนุมครั้งนี้ โดยทางกลุ่มคนเสื้อแดง ต้องการปั่นหัวรัฐบาล

          ขณะ ร้อยละ 31.40 มองว่า ไม่ใช่การแก้เกมการเมือง เพระเป็นการตัดสินใจของแกนนำเสื้อแดงอย่างกะทันหัน อาจกลัวว่าผู้ชุมนุมจะไม่ได้รับความปลอดภัยส่วน ร้อยละ 26.79 พบว่า ถ้าประชาชนเป็นรัฐบาลจะรอดูท่าทีของกลุ่มเสื้อแดงไปก่อน และไม่ให้ข่าวที่เป็นการยั่วยุ และ ร้อยละ 30.27 ถ้าประชาชนเป็นแกนนำเสื้อแดง จะชุมนุมอย่างสงบโดยไม่ทำให้ประชาชนทั่วไปต้องเดือดร้อน

          นอกจากนี้ ร้อยละ 34.95 พบว่า ประชาชนอยากฝากถึงรัฐบาลและเสื้อแดง ให้นึกถึงความสงบสุขของประเทศชาติบ้านเมืองเป็นสำคัญ

          ปชช.มีสุขมากขึ้นอยากให้ทักษิณหยุดเคลื่อนไหว

          เอแบคโพล เผยผลสำรวจถึงความสุขของประชาชนชาวไทยมวลรวมในวันนี้ พบว่า ประชาชนชาวไทยมีความสุขมวลรวมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในระยะเวลา 1 ปี ที่ผ่านมา โดยวัดสถิติตั้งแต่เดือน ก.ค. 2551 ถึง เดือน ส.ค. 2552 นี้ โดยคิดจากคะแนนเต็ม 10 คะแนน ซึ่งจากเริ่มต้นเก็บสถิติ ประชาชน มีความสุข 5.82 คะแนน และใน เดือน ส.ค. 2552 ประชาชนมีความสุขเพิ่มขึ้นเป็น 7.18 คะแนน และจากการสำรวจพบว่า ประชาชนถึง 9.20 คะแนน มีความสุขจากการแสดงความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ของคนไทย รองลงมา มีความสุขจากครอบคัว คือ 8.44 คะแนน โดยประชาชนไม่มีความสุข และแสดงความเป็นห่วงมากที่สุด คือ สถานการณ์ทางการเมือง กับสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ประชาชนส่วนใหญ่ ยังคงให้โอกาสรัฐบาลชุด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทำหน้าที่บริหารบ้านเมืองต่อไป และให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยุติการเคลื่อนไหว เพื่อความสงบสุขของประเทศไทย

          ทหารยังตรึงกำลังสถานที่สำคัญ ชี้กันไว้ดีกว่าแก้ 

          พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า ในวันนี้ทหารยังคงตรึงกำลังบริเวณทำเนียบรัฐบาล และสถานที่สำคัญ รวมทั้งเส้นทางโดยรอบ ถึงแม้ว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจะประกาศเลื่อนการชุมนุมออกไปเป็นวันที่ 5 กันยายน แล้วก็ตาม แต่ทั้งนี้ได้มีการปรับลดกำลังให้เหลือเท่าที่จำเป็น เพื่อเป็นการป้องกันไว้ดีกว่าแก้ ไม่ใช่เรื่องเสียหน้า ซึ่งเหมือนกับการกางมุ้งเพื่อป้องกันยุง ถึงแม้ไม่ถูกยุงกัดก็ไม่เสียหายอะไร

          ส่วนจะปรับลดเหลือกี่กองร้อยนั้นตนไม่สามารถบอกได้ ทั้งนี้ หลังประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ไปแล้ววานนี้ พบว่าประชาชนในพื้นที่เขตดุสิตยังคงใช้ชีวิตตามปกติ ซึ่งกองทัพยังไม่ได้รับเสียงสะท้อนจากประชาชนแต่อย่างใด สำหรับการตรึงกำลังนี้ เบื้องต้นจะมีไปจนถึงวันที่ 1 กันยายน ขณะที่ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย กล่าวว่า ทางศูนย์ฯ ได้มีการประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ถึงแม้กลุ่มคนเสื้อแดงจะประกาศเลื่อนการชุมนุมแล้วก็ตาม ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ก็ไม่ได้สั่งกำชับอะไรเป็นพิเศษ

          ขณะที่ช่วงที่ 3    ผู้ดำเนินรายการ  สวัสดีครับช่วงสุดท้ายของเชื่อมั่นประเทศไทย  วันนี้ผม สุวิช  สุทธิประภา ได้รับเกียรติจากท่านนายกรัฐมนตรีให้มาซักถามประเด็นเรื่องของการบ้านการเมือง  สวัสดีครับท่านนายกรัฐมนตรี

          นายกรัฐมนตรี  สวัสดีครับ

          ผู้ดำเนินรายการ  ต้องกราบขอบพระคุณท่านนายกฯ และทีมงานที่ได้ให้โอกาสมาร่วมสนทนาซักถามด้วย  นะครับ   เมื่อสักครู่นั่งฟังท่านนายกรัฐมนตรีตลอดเลย เรื่องของการบ้านการเมือง ท่านบอกว่าต่อไปนี้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลจะดูแลความสงบ  แต่เรื่องของผู้ชุมนุมได้ประกาศยกเลิกการชุมนุม  คือเลื่อนไปอีกแล้ว เรื่องของ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ท่านนายกฯ ประกาศเลิกก่อนกำหนดวันที่ 1 กันยายนนี้ได้หรือไม่

          นายกรัฐมนตรี  คงจะดูเหตุการณ์นะครับ  คือกฎหมายฉบับนี้ไม่เหมือนพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน  กฎหมายนั้นหมายความว่าเกิดเหตุรุนแรงแล้วเป็นภาวะฉุกเฉิน ประกาศ  พอหมดภาวะฉุกเฉินก็เลิก  แต่กฎหมายฉบับนี้จริงๆ คือการประกาศเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุ   ทีนี้ผมคิดว่าเดิมจะชุมนุมกันวันที่ 30 ณ ที่เราคุยกันขณะนี้  บอกว่าจะไม่มี  แต่เราก็อยากจะรอดูสถานการณ์ไปอีกระยะหนึ่ง  เพราะว่าตัวกฎหมายฉบับนี้ ณ ที่ปฏิบัติอยู่ก็ไม่ได้ไปกระทบกระเทือนสิทธิเท่าไหร่  แต่เป็นการบูรณาการคือหมายความว่าสามารถที่จะเอาเจ้าหน้าที่จากหน่วยต่างๆ มาร่วมกันทำงานได้  ถ้าไม่ประกาศตัวนี้ความรับผิดชอบอาจจะแยกส่วนกันอยู่

          ผู้ดำเนินรายการ  อำนาจในการยกเลิกก่อนกำหนดได้ไหม  เป็นอำนาจของนายกฯ โดยตรง หรือจะต้องนำกลับเข้าไปสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี

          นายกรัฐมนตรี   ที่จริงเมื่อหมดเงื่อนไขหรือเหตุการณ์ ก็สามารถที่จะประกาศยกเลิกได้  ผมคิดว่าพรุ่งนี้คงจะชัดเจน 

          ผู้ดำเนินรายการ  ขณะเดียวกันทางผู้ชุมนุมบอกว่าวันนี้ไม่มีการชุมนุม แต่ขอเลื่อนเป็นวันที่ 5 กันยายน  ถ้าดูอีก วันที่ 5  ถ้ารัฐบาลประกาศ พ.ร.บ.อีก ก็จะเลื่อนไปอีก  ก็เหมือนกับทฤษฎีไม่รู้จบ  รัฐบาลจะทำอย่างไร

          นายกรัฐมนตรี  จริงๆ แล้วผมพยายามให้ทางเจ้าหน้าที่ไปคุยในช่วงที่ผ่านมา ให้ท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ไปคุย ที่คุยเพราะว่าผมไม่ได้ขัดข้องกับการที่จะมีการชุมนุมทางการเมือง  ผมพูดมาตลอดถ้าชุมนุมทางการเมือง  อยากจะตั้งเวทีวิพากษ์วิจารณ์ผมอะไรต่างๆ ตราบเท่าที่อยู่ในขอบเขตของกฎหมายก็ทำได้  แต่คงไม่มีใครอยากจะเห็นเหมือนเดือนเมษายนอีก  และถ้าเกิดอีก  ผมคิดว่าตอนนี้เศรษฐกิจแทนที่จะฟื้นก็จะมีปัญหามากเลย  ซึ่งผมคิดว่าคนที่เดือดร้อนที่สุดคือประชาชนทั่วไป  เพราะฉะนั้น ที่ผมพยายามทำคือว่าชุมนุมได้  แต่ว่าจะทำอย่างไรให้การชุมนุมอยู่ในขอบเขตที่ไม่ไปกระทบกระเทือนทั้งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน  ทั้งในแง่ของการไปกระเทือนกับเศรษฐกิจในภาพรวม

          ผู้ดำเนินรายการ  ถ้าสมมติว่ามีการนัดกันอีกที่บอกว่าวันที่ 5

          นายกรัฐมนตรี  จริงๆ ผมก็อยากจะคุยว่าให้ไปคุยกัน อย่างเช่นที่ผ่านมา  เขาก็จัดกิจกรรมมาหลายครั้ง  ส่วนใหญ่ไม่ได้มีปัญหา จัดที่สนามหลวงบ้าง  จัดที่นั่นที่นี่บ้าง  แต่ถ้าบอกว่าจะต้องมาปิดล้อมทำเนียบฯ ไม่ให้คนเข้าทำงานได้ อันนี้ความจริงศาลเคยมีคำสั่งเอาไว้  ว่าทำไม่ได้  มันไม่ใช่เป็นส่วนหนึ่งของสิทธิภายใต้รัฐธรรมนูญที่จะทำอย่างนั้น  เราก็จะขอว่าถ้าคุยกันด้วยดี  อยากจะตั้งเวทีตรงไหน  อยากจะเข้ามายื่นหนังสือ  อยากจะปราศรัยตรงไหน  ก็ว่ากันไป  แต่อย่าไปสร้างเงื่อนไข  สร้างความเสี่ยง เกิดการปะทะกันขึ้นมาเลือดตกยางออก  บางทีของพวกนี้มันไม่ได้มีใครตั้งใจก็มี  แม้กระทั่งเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์หลายครั้ง อาจจะเกิดจากอุบัติเหตุ  ความเข้าใจผิด  ความสื่อสารกันผิด  อาจจะไม่ได้เกิดจาก 2 ฝ่าย  เขาถึงเรียกว่ามีมือที่ 3  แต่ว่าดีที่สุดคือป้องกันไว้ก่อน

          ผู้ดำเนินรายการ  ท่านนายกฯ พอเปิดเผยได้ไหมครับว่าที่มอบให้ท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไปพูดคุยกับแกนนำ  แกนนำระดับไหน  เขาสามารถที่จะตัดสินใจได้ไหม  และแกนนำอื่นๆ ที่มองไม่เห็น คุยกันบ้างหรือเปล่า

          นายกรัฐมนตรี   ท่านผู้บัญชาการ เป็นคนที่มีประสบการณ์อยู่แล้ว  คงจำได้เดือนเมษายนช่วงสุดท้าย  ท่านเป็นคนเข้าไปเพื่อเจรจาว่าตกลงเขาจะเลิกสลายการชุมนุม  นึกออกไหมครับ  และก็พาแกนนำออกมา

          ผู้ดำเนินรายการ   นึกออกที่พัทยา 

          นายกรัฐมนตรี   ที่กรุงเทพฯ ตรงทำเนียบฯ  หลังจากที่เกิดเหตุการณ์วุ่นวายอะไรกันเยอะแยะไปหมด  พอเข้าไปก็ไม่ได้มีการไปสลายการชุมนุม  แต่มีการไปเจรจา  และสุดท้ายผู้ชุมนุมบอกโอเค  เลิก  เพราะฉะนั้น ก็มีความคุ้นเคยอยู่กับแกนนำ   ผมก็อยากให้ได้พยายามคุยให้เห็นว่า เอาล่ะอยากจะแสดงจุดยืนทางการเมืองกัน  ก็ทำ แต่ถ้าหากว่ามันเกินเลยไปจากนั้น  กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย  และอย่าลืมว่าความจริงหลายคนก็ยังมีคดีอยู่ในระหว่างการประกันตัวด้วยซ้ำจากเหตุการณ์เมื่อเดือนเมษายน  มันก็จะเป็นการไปผิดเงื่อนไขของศาล  สิ่งเดียวที่เราอยากจะทำคือขอให้ทุกคนเคารพกฎหมายรักษากฎหมายเป็นใช้ได้

          ผู้ดำเนินรายการ แต่ขณะเดียวกันเรื่องของการชุมนุม เอาล่ะมันจะต้องมีการไปเรื่อยๆ ว่าอย่างนั้น ฟังแกนนำบอก  ถ้าสมมติว่ารัฐบาลประกาศเมื่อไหร่  เราก็จะเลื่อนไปเรื่อยๆ  ผมเลยดูไปเดือนตุลาคม  เราก็จะเป็นเจ้าภาพในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน  ตรงนี้ภาพพจน์และความรู้สึก ผลกระทบต่อคนที่อื่นเขามองเราอยู่  รัฐบาลจะสร้างความเชื่อมั่นอย่างไร

          นายกรัฐมนตรี  ในส่วนของอาเซียนก็มีการทบทวน  ขณะนี้คือจะไปจัดการประชุมที่หัวหิน  ซึ่งคิดว่าจะสามารถดูแลในเรื่องของความปลอดภัยได้ง่ายขึ้น  ผมอยากจะย้ำอีกครั้งว่าตอนเกิดเหตุการณ์ที่พัทยาเมื่อเดือนเมษายน  จนถึงวันนี้ต้องถือว่าเราได้รับความเสียหายอยู่พอสมควร  ภาพกว้างก็ส่วนหนึ่ง  แต่ว่าไปเกี่ยวข้องกับผู้นำที่เป็นมิตรประเทศกับเราก็เป็นอีกส่วนหนึ่ง  ก็ต้องตั้งคำถามว่า  ทำไมเราถึงจะอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้น  เกิดไปแล้วใครได้อะไร  ผมกล้ายืนยันเลยนะครับ  ใครที่คิดว่าเกิดความวุ่นวายแล้ว  และจะเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้  ไม่ใช่ล่ะครับ  เกิดความวุ่นวายแล้ว  คนไทยทุกคนสูญเสียหมด  เศรษฐกิจอย่างที่เราเคยกลัวว่าปีนี้คนอาจจะว่างงานเป็น 2 ล้าน  ตอนนี้มันกำลังจะดีขึ้นมาแล้ว  แต่ว่าถ้าเกิดเจอเหตุการณ์อย่างนี้อีก  ท่องเที่ยวหายอีก นักลงทุนหายอีก  ประชาชนเองก็กังวลว่ามันจะเป็นอย่างไรกันแน่  เดี๋ยวก็ไม่กล้าที่จะจับจ่ายใช้สอยอีก  ก็จะเป็นปัญหาเป็นลูกโซ่ไป 

          ผู้ดำเนินรายการ  เพราะฉะนั้น คนที่เหนื่อยที่สุดคงจะเป็นรัฐบาล

          นายกรัฐมนตรี   คนที่เหนื่อยที่สุดคือประชาชนครับ  เพราะว่าจริงๆ แล้วประชาชนได้รับผลกระทบ  ถ้าหากว่าบ้านเมืองยังไม่เรียบร้อย  รัฐบาลรับผิดชอบอยู่แล้วจะต้องเหนื่อย  มีหน้าที่ที่จะต้องเหนื่อย  ที่จะต้องแก้ปัญหา  แต่ว่าเวลามันเกิดปัญหาจริงๆ สิ่งที่ผมอยากจะบอกมันไม่กระเทือนรัฐบาล  เท่ากับกระเทือนประชาชนหรอก 

          ผู้ดำเนินรายการ  ความอดทนของพี่น้องประชาชนบอกว่าทนมา 3 ปีแล้ว  ทำอย่างไร  จับเข่ากันคุยไม่ดีเหรอ  เอามานั่งต่างมุมคุยให้จบเลย

          นายกรัฐมนตรี  เราก็มีความพยายามในการที่จะเคลื่อนบางอย่างไปข้างหน้า  และวันจันทร์นี้ในการประชุมร่วมของรัฐสภา ท่านประธานเองท่านก็ไปตั้งกรรมการไว้  จำได้ไหมครับ  หลังจากเหตุการณ์เดือนเมษายน  ผมขอท่านบอกว่าช่วยตั้งกรรมการของสภาฯ หน่อย จะได้มีทุกพรรคเข้ามา  จะได้มีคนนอกเข้ามา  เขาก็จะรายงานในเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ  ในเรื่องของเหตุการณ์เท่าที่จะรายงานได้  ผมคิดว่าอันนี้ก็จะเป็นโอกาสในการเดินหน้าต่อ  และผมคิดว่าประเด็นที่อยู่ในใจ  ในเรื่องรัฐธรรมนูญบางประเด็นน่าจะเดินได้เลย  เช่น  ระบบเลือกตั้งบ้าง  มาตรา 190 มาตราอะไรต่างๆ  อย่างนี้สามารถที่จะเดินหน้าได้  แต่อันไหนที่ยังมีความละเอียดอ่อนอยู่ก็มาคุยกันว่าอยากจะเดินหน้าอย่างไรที่จะให้ทุกฝ่ายยอมรับ 

          ผู้ดำเนินรายการ  มันจะเดินหน้าไปถึงขนาดไหนไม่รู้ท่านนายกฯนะครับ  วันนั้นเห็นพูด  ท่านประธานชัยบอกว่าเดี๋ยวจะได้ยุบสภาหน่อยว่าอย่างนั้น  ท่านนายกฯ บอกเป็นหน้าที่ผม  ยังไม่มีเงื่อนไข  ตอนนี้ท่านนายกฯ ยังยืนยันอย่างไรครับ

          นายกรัฐมนตรี   ผมเรียนอย่างนี้นะครับ  ถ้าเป็นเรื่องยุบสภา เรื่องอะไร ผมไม่ค่อยกังวล เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของระบอบประชาธิปไตย ต้องพูดแบบนี้ก่อน  อย่าไปตื่นตระหนกตกใจ  ถ้ายุบสภาหรือถ้าลาออก หรืออะไรแล้ว แปลว่ามันเป็นปัญหา  มันไม่ได้เป็นปัญหา  แต่สิ่งที่เราไม่ต้องการให้เกิดคือว่า ถ้ามันเป็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากความรุนแรง  เป็นการเปลี่ยนแปลงซึ่งอยู่นอกกรอบ นอกกติกา ถ้าเป็นอย่างนั้นมันส่งผลกระทบไม่ใช่เฉพาะในส่วนของเราเอง แต่ว่าการจะทำให้ต่างประเทศเข้าใจ ยากมาก

          ผู้ดำเนินรายการ  ท่านนายกฯ บอกไม่กังวล แสดงว่ามั่นใจไหมครับว่าเลือกตั้งคราวหน้า เลือกตั้งจริง  ประชาธิปัตย์จะชนะ

          นายกรัฐมนตรี ผมมั่นใจครับไม่ชนะ ก็แพ้  ก็มีอยู่ 2 อย่าง ขอให้เป็นกระบวนการที่เป็นการแข่งขันที่เปิดกว้าง  ผมถึงบอกว่าความจริง  ถ้าอยากจะเลือกตั้ง  ผมก็อยากเห็นบรรยากาศบ้านเมืองสงบกว่านี้  ถ้าเลือกตั้งแล้วก็มีลักษณะที่บอกว่า ห้ามพรรคการเมืองมาหาเสียงจังหวัดนี้  ห้ามพรรคการเมืองนี้ไปหาเสียงจังหวัดนั้น  ไม่อย่างนั้นอาจจะมีการปะทะกัน  อะไรกัน  อันนั้นไม่เป็นผลดีเลย อันนั้นไม่เป็นประชาธิปไตยด้วย  เพราะฉะนั้น ถ้าบรรยากาศมันดีๆ ผมคิดว่าการเลือกตั้งวันหนึ่งวันใด  มันก็คงจะเกิดขึ้น  ผมไม่ได้คิดว่าจะเป็นเรื่องคอขาดบาดตายอะไร 

          ผู้ดำเนินรายการ  โดยเฉพาะบรรยากาศที่เมื่อสักครู่ท่านนายกฯ ก็ย้ำหลังจากพ.ร.บ.งบประมาณไปแล้ว ผ่านไปเรียบร้อยแล้ว 

          นายกรัฐมนตรี เหลือวุฒิสภาอยู่ คือตัวเลขทางเศรษฐกิจเอง มาตรการของรัฐบาลเอง มันกำลังเดินไปข้างหน้า  ตัวเลขเศรษฐกิจเราก็ทราบ เศรษฐกิจโลกก็ดีขึ้น เศรษฐกิจไทยถ้าวัดเดือนต่อเดือน ไตรมาสต่อไตรมาสก็เริ่มดีขึ้น  มาตรการรัฐบาลชุดแรกลงไปเรียบร้อยแล้ว และทำต่อเนื่อง เช่น เรื่องเรียนฟรี เรื่องอะไรต่างๆ ชุดที่ 2 ที่บอกไทยเข้มแข็ง กำลังจะไปสร้างถนน กำลังจะไปสร้างแหล่งน้ำ กำลังจะไปปรับปรุงโรงเรียน  กำลังจะไปปรับปรุงสถานีอนามัย ก็จะเป็นผลดี ถ้าตรงนี้มันเดินได้ ผมกำลังมองว่าเรากำลังจะหลุดจาก อย่างน้อยเงื่อนไขเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ แต่ว่าเรื่องการเมืองผมเข้าใจ  เดี๋ยวคนบอกคุณเป็นรัฐบาลอยู่ คือผมไม่ได้บอกว่าจะต้องเป็นกันครบเทอมหรืออะไร เพียงแต่บอกว่าประเด็นทางการเมืองที่จะต้องพูดคุยกันก็มาว่ากันตามระบบ ซึ่งเรื่องรัฐธรรมนูญก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำได้ แต่ต้องเข้าใจด้วยว่ามีประชาชนอีกจำนวนมากที่เขาไม่ต้องการให้แก้รัฐธรรมนูญ เราก็ต้องอธิบายได้ว่าถ้าจะแก้ประเด็นนี้ ทำไมต้องแก้ มีความเร่งด่วนอย่างไร

          ผู้ดำเนินรายการ ท่านนายกรัฐมนตรีมั่นใจ ถ้าพ.ร.บ.ผ่านวุฒิสภาไปแล้ว ท่านเดินหน้าโครงการต่างๆ ทั้งหลายทั้งปวงลงพื้นที่ได้ไหมครับในแต่ละภูมิภาค

          นายกรัฐมนตรี จริงๆ การลงพื้นที่  ผมก็ทำอยู่เป็นระยะๆ  แต่ว่ามันก็เป็นเรื่องซึ่งละเอียดอ่อนตรงที่ว่า มันมีกลุ่มคนที่เขาไปประกาศว่าไม่อยากให้ลง  สำหรับผมๆ  คิดว่ามันไม่ถูกต้อง  ทีนี้ผมไม่อยากเป็นเงื่อนไข คือผมลงไปก็จะต้องมี พอมันมีบรรยากาศอย่างนี้ ก็ต้องมีหน่วยรักษาความปลอดภัย ต้องมีอะไรต่อมิอะไรเยอะแยะไปหมด 1. มันก็สิ้นเปลือง 2. ถ้าไปขึ้นมาเกิดมีอะไรนิดอะไรหน่อย เกิดตีกันอะไรกันขึ้นมา มันก็เสียบรรยากาศบ้านเมือง แต่ว่าผมก็อยากจะเรียกร้องว่า ถ้าเราเป็นนักประชาธิปไตย เราต้องเปิดใจกว้าง ปล่อยให้แต่ละคน  แต่ละฝ่ายทำงานไป  ฝ่ายผมก็ทำไป  ฝ่ายค้าน ฝ่ายเสื้อแดงอยากจะทำงานอะไรก็ทำไป และประชาชนก็ไปตัดสินในช่วงของการเลือกตั้ง แต่ถ้าบอกว่าคุณห้ามมานะ อย่างนี้มันก็ไม่ใช่ 

          ผู้ดำเนินรายการ ท่านนายกรัฐมนตรีบอกว่าเปิดโอกาสคุยกันสิครับพร้อมที่จะไปคุยด้วย ปัญหาไม่ได้อยู่ที่บอกว่าเชิญแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงในกรุงเทพมหานครมาคุยกันเท่านั้น  ปัญหาต้นตอจริงๆ ก็คืออดีตท่านนายกฯ ทักษิณ คุยกันได้ไหมครับท่านนายกฯ

          นายกรัฐมนตรี คืออดีตนายกฯ มีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคดีความต่างๆ ซึ่งตรงนี้เราก็ต้องระมัดระวัง เพราะถ้าหากว่าเราไม่รักษากฎหมายมันก็จะเป็นปัญหา แต่ถ้าคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมตรงไหน ก็มีสิทธิ์ที่จะร้อง เหมือนอย่างเช่นที่มีการพูดถึงเรื่องการถวายฎีกา ความจริงไม่ต้องใช้คนเป็นหมื่นเป็นแสนเป็นล้าน ในระบบของเราการจะฎีกาก็สามารถทำได้ ถ้าเจ้าตัว ถ้าครอบครัว ผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้องโดยตรง ทำแต่เป็นการทำในลักษณะที่ยอมรับกระบวนการในระดับหนึ่ง ไม่ใช่บอกว่าไม่พอใจกับการตัดสิน แล้วไม่ยอมรับโทษ ไม่ยอมรับผิด ถ้าอย่างนี้ต่อไปก็จะลำบาก เหมือนกับตอนนี้มีการเถียงกันเรื่องกฎหมายนิรโทษกรรมก็เหมือนกัน คือมองในมุมหนึ่งอาจจะบอกว่ามันดีไหม ถ้าหากว่าเหมือนกับลืมๆ กันไป แต่อย่าลืมว่าพอทำอย่างนี้แล้ว อาจจะกลายเป็นว่าต่อไปวันข้างหน้า คนก็คิดว่าก็ทำผิดก็ได้ ผิดเสียแล้วก็ไปเรียกร้องให้เลิกแล้วกันไป ซึ่งอันนี้ก็อันตราย เพราะฉะนั้น เราต้องหาความพอดี  

          ผู้ดำเนินรายการ ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายนิรโทษกรรมก็ดี เรื่องของการถวายฎีกาก็ดี อันนี้รัฐบาลยืนยันได้ไหมครับว่ากระบวนการทุกอย่างรัฐบาลจะวางเฉย ไม่ได้ไปแทรกแซง 

          นายกรัฐมนตรี ผมยืนยันเลยครับว่าการปฏิบัติเหมือนทุกกรณี ความหมายก็คือว่าที่ปัจจุบันโดยปกติมีคนถวายฎีกา สมมติว่าเป็นฎีกาเรื่องการขออภัยโทษ มีหลักเกณฑ์อย่างไรเราก็จะปฏิบัติอย่างนั้น ไม่มีการเลือกที่รักมักที่ชัง เพราะว่าต้องเป็นมาตรฐานเดียว ฉะนั้น ต้องไปเทียบเคียงดูกับกรณีซึ่งคล้ายคลึงกัน และจะสามารถที่จะให้ความเห็นของรัฐบาลได้ อย่างนี้เป็นต้น หรือว่าเรื่องอื่นๆ ก็ตามการดำเนินคดีก็ดี นโยบายต่างๆ ก็ดี ผมก็ย้ำเสมอว่าเป็นเรื่องที่เราจะต้องมีคำตอบที่เป็นคำตอบในเชิงหลักการ หลักเกณฑ์ในเชิงระบบ ไม่ใช่ว่าเพราะเป็นคนนี้ต้องทำอย่างนี้ เพราะเป็นอีกคนหนึ่งต้องทำอย่างนั้น

          ผู้ดำเนินรายการ คงพอหอมปากหอมคอกับคำถามและเวลาที่มีอยู่นะครับ จริงๆ แล้วช่วงนี้สำคัญอยู่เยอะหลายเรื่องนะครับ ทางการเมือง เรื่องของการแต่งตั้งโยกย้ายก็ดี ไม่ว่าจะเป็นตำรวจก็ดี ทหารก็ดี หรือแม้แต่กระทั่งปลัดหลายกระทรวง  แต่เอาไว้โอกาสหน้าค่อยได้มาสนทนากับท่านนายกฯ ต่อนะครับ วันนี้ต้องกราบขอบพระคุณที่ให้โอกาสมาสนทนาด้วยครับ ขอบพระคุณมากครับ สวัสดีครับ

          นายกรัฐมนตรี สวัสดีครับ



ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คมชัดลึก, ไทยรัฐ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
แบไต๋ไฮเทคพิสูจน์ คลิปอภิสิทธิ์ ที่ช่อง11 อัปเดตล่าสุด 31 สิงหาคม 2552 เวลา 17:37:25 7,315 อ่าน
TOP