x close

บ.เอสซี ตั้งกก. สอบคลิป แจงไม่เกี่ยวการเมือง

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีคนที่ 27

 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

 



บ.เอสซี ตั้งกก. สอบคลิป แจงไม่เกี่ยวการเมือง (ไทยรัฐ)

          บริษัท เอสซีฯ ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงคลิปตัดต่อเสียง นายกฯ ยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ขณะพนักงานสอบสวน เข้าค้นโต๊ะพนักงาน 

          เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (31 สิงหาคม) พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รอง ผบก.ป. สั่งการให้ พนักงานสอบสวน บก.ป. ประสานเจ้าหน้าที่ศูนย์ตรวจสอบและวิเคราะห์การกระทำผิดทางเทคโนโลยี (ศตท.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำหมายค้นศาลอาญา เข้าตรวจค้นโต๊ะทำงานของ นายสมศักดิ์ แซ่อึง และน.ส.กันทิมา แต้มครู สองพนักงานบริษัทเอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ต้องหาเผยแพร่คลิปเสียงนายกฯ ที่แผนกธุรกิจสัมพันธ์ ชั้น 19-20 อาคารชินวัตร 3 เลขที่ 1010 ถ.วิภาวดีรังสิต แขวง และเขตจตุจักร โดยให้เจ้าหน้าที่ ศตท.นำอุปกรณ์โคลนนิ่งข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์ที่โต๊ะทำงานผู้ต้องหามา รวมทั้งคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คของพยานบางคนที่เป็นเพื่อนร่วมงานของผู้ต้องหาทั้งสองมาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

          อย่างไรก็ตาม ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้นำเอกสารชี้แจงเรื่องดังกล่าวจากทางบริษัทมาแจกจ่ายให้กับสื่อมวลชน โดยในเอกสารดังกล่าวระบุว่า วันนี้ เวลา 11.30 น. เจ้าพนักงานตำรวจได้นำหมายค้นศาลอาญามาที่บริษัทเอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เพื่อขอตรวจสอบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ของพนักงานบริษัทฯ บางรายการ เฉพาะพนักงานบริษัทฯ ที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องทางบริษัทฯ โดยผู้แทนได้ทราบวัตถุประสงค์ของเจ้าพนักงานตำรวจจึงให้ความร่วมมือในการตรวจสอบด้วยดี เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ของบริษัทฯ ต่อเจ้าพนักงานตำรวจ และเพื่อให้สังคมโดยทั่วไปเข้าใจได้ว่าบริษัทมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับการแผยแพร่ หรือ ส่งต่อข้อมูลทางคอมพิวเตอร์เกี่ยวกับคลิปเสียงของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี

          วันนี้บริษัทได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นทราบข้อเท็จจริงว่า พนักงานที่ต้องสงสัย และถูกกล่าวหา มิได้เกี่ยวข้องและกระทำการใดๆ ในลักษณะเป็นผู้ผลิต หรือ ตัดต่อคลิปเสียงของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ตามที่ปรากฏเป็นข่าวแต่อย่างใดทั้งสิ้น นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีระเบียบข้อบังคับในการปฏิบัติงาน ห้ามพนักงานใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัว และขณะนี้บริษัทได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้ว

          สำหรับเรื่องที่พนักงานบริษัทฯ ถูกกล่าวหาจากเจ้าพนักงานตำรวจ บริษัทฯ ทราบว่าพนักงานที่ถูกกล่าวหาได้ให้การปฏิเสธในเรื่องที่ถูกกล่าวหาในชั้นจับกุม และในชั้นสอบสวน โดยจะขอทำคำให้การเป็นหนังสือชี้แจงต่อพนักงานสอบสวนภายใน 30 วัน และมิได้รับสารภาพว่า เป็นผู้ตัดต่อคลิปตามที่เป็นข่าว และพนักงานบริษัทฯที่ถูกกล่าวหา ยืนยันข้อเท็จจริงว่า มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับกลุ่มการเมืองทั้งสิ้น บริษัทฯขอยืนยันว่าบริษัทฯประกอบธุรกิจและมีจุดยืนที่จะไม่เกี่ยวข้องทางการเมืองจึงขอชี้แจ้งข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง

          ต่อมาเวลา 12.00 น. ที่บริเวณชั้นล่างอาคารชินวัตร 3 นายพิชิต ชื่นบาน ทนายความ ในฐานะที่ปรึกษาด้านกฎหมายตระกูลชินวัตร ยอมรับว่า พนักงานบริษัทฯ ทั้งสองมีคลิปเสียงนายกฯ จริง แต่ได้รับฟอร์เวิร์ดเมล์มาจากที่อื่น ไม่ได้เป็นผู้ผลิตหรือตัดต่อคลิปดังกล่าวแต่อย่างใด จะเป็นเพียงแต่ผู้เผยแพร่คลิปเสียงดังกล่าวเท่านั้น

          รายงานข่าวแจ้งว่า น.ส.กันทิมา เป็นผู้ได้รับแผ่นซีดีคลิปเสียงนายกฯ มาจากผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งยืนแจกแผ่นซีดีอยู่ที่ท่ารถตู้โดยสารสาธารณะ บริเวณท่ารถตู้ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังได้รับมาก็นำมาเปิดฟัง และคิดจะส่งไปให้เพื่อนทางอีเมล์ แต่ไม่สามารถส่งไฟล์ผ่านทางอีเมล์ได้จึงไปขอความช่วยเหลือจากนายสมศักดิ์ เพื่อนร่วมงานในแผนกเดียวกันจัดการแปลงไฟล์ หลังจากนายสมศักดิ์ แปลงไฟล์เสร็จจึงส่งไฟล์ดังกล่าวกลับมาให้ น.ส.กันทิมา ทางอีเมลล์ จากนั้น น.ส.กันทิมา ก็ส่งต่อไปให้เพื่อนๆ ก่อนที่จะแพร่กระจายไประบบอินเตอร์เน็ต ส่วนซีดีที่ได้มานั้นหลังจากแปลงไฟล์เรียบร้อยแล้วก็ได้หักทิ้งไปทันที

          รายงานข่าวแจ้งอีกว่า นายสมศักดิ์ เป็นผู้นำคลิปเสียงดังกล่าวเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์เป็นคนแรก และส่งต่อให้กับ น.ส.กันทิมา เพียงคนเดียว โดยใช้ชื่อไฟล์ในการส่งว่า คลิป ฟอร์ ยู แต่ไม่ได้ส่งต่อไปให้คนอื่นๆ ส่วน น.ส.กันทิมา นั้น ได้ส่งต่อไปให้เพื่อนๆ อีก 6 คน

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับแนวทางการสืบสวน เพื่อไปให้ถึงต้นตอผู้ที่ตัดต่อคลิปนั้น ได้แยกออกเป็นสองส่วน ส่วนแรก คือ ที่มาของแผ่นซีดีที่ น.ส.กันทิมา อ้างว่าได้มาจากการแจกจ่าย ส่วนที่สองนั้นคือการสืบสวนหาที่มาตามที่ นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร ระบุว่า ได้คลิปเสียงมาจากเว็บไซต์ของสถานีโทรทัศน์ของทีวีไทที่มีคนนำไปโพสต์ไว้ ก่อนนำไปเปิดกระจายเสียงที่สถานีวิทยุชมรมคนรักอุดร ซึ่งในส่วนนี้ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่า นายขวัญชัย ได้นำคลิปเสียงเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์หรือไม่ เพราะหากไม่ได้นำเข้าสู่ระบบก็ไม่สามารถดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เช่นเดียวกับที่พนักงาน บริษัท เอสซี แอสเสทฯ ทั้งสองถูกดำเนินคดี


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
บ.เอสซี ตั้งกก. สอบคลิป แจงไม่เกี่ยวการเมือง อัปเดตล่าสุด 31 สิงหาคม 2552 เวลา 21:52:24 4,697 อ่าน
TOP