x close

น้องหม่อง ประกาศคว้าแชมป์กลับไทย หลังได้พาสปอร์ตเหลืองบินสู้ศึก

 น้องหม่อง
น้องหม่อง

น้องหม่อง
น้องหม่อง

สรุปประเด็นข่าวดดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบ หนังสือพิมพ์ข่าวสดมติชนออนไลน์

          กระทรวงการต่างประเทศออกเอกสารเดินทางคนต่างด้าว (พาสปอร์ตเหลือง) ให้แก่ ด.ช.หม่อง ทองดี บุตรแรงงานต่างด้าวที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน ซึ่งเป็นนักเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนบ้านห้วยทราย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เพื่อไปแข่งเครื่องบินพับกระดาษนานาชาติ ที่เมืองชิบะ ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 19-20 กันยายนนี้แล้ว ทั้งนี้ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 กันยายน ที่กองตรวจลงตราและเอกสารเดินทางคนต่างด้ีว กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ นายดวงฤทธิ์ เภติมา ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยทราย ได้พา ด.ช.หม่อง มารอรับพาสปอร์ตเหลือง

          จากนั้น นางมธุรพจนา อิทธะรงค์ รองอธิบดีกรมการกงสุล เป็นตัวแทนมอบเอกสารเดินทางคนต่างด้าวให้แก่ ด.ช.หม่อง พร้อมกับชี้แจงรายละเอียดเอกสารว่าเป็นเอกสารที่มีอายุ 1 ปี คือตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน 2552-3 กันยายน 2553 โดยได้มีการลงตราวีซ่าเพื่อกลับเข้าประเทศไทยภายใน 3 เดือน ดังนั้น ในช่วง 3 เดือนนี้ ด.ช.หม่อง สามารถไปประเทศใดก็ได้ แต่ต้องกลับเข้ามาประเทศไทยภายใน 3 เดือน และเมื่อครบ 3 เดือนแล้ว หาก ด.ช.หม่องต้องเดินทางไปแข่งเครื่องบินกระดาษพับอีก ก็สามารถมาติดต่อขอประทับตราวีซ่าเพื่อกลับเข้าประเทศได้อีก ประทับตราวีซ่าได้ครั้งละ 3 เดือน จนกว่าจะครบ 1 ปี ของอายุเอกสาร โดยไม่จำเป็นต้องมีหนังสือขอความอนุเคราะห์ของกระทรวงมหาดไทยอีก


น้องหม่อง
น้องหม่อง

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ด.ช.หม่อง ได้มอบเครื่องบินกระดาษให้นางมธุรพจนาเป็นการขอบคุณ พร้อมกล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรี และกระทรวงมหาดไทยที่ช่วยดำเนินการในเรื่องนี้ให้ว่า ผมรู้สึกดีใจและฝากบอกเพื่อนๆ ที่โรงเรียนบ้านห้วยทรายด้วยว่าจะได้ไปแข่งที่ญี่ปุ่นแล้ว ขอให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้ด้วย ผมจะคว้าแชมป์กลับมาให้ได้

          นายดวงฤทธิ์ กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่นายอภิสิทธิ์ให้ความสำคัญกับเด็ก และสนับสนุนไปแข่งขัน แต่ ด.ช.หม่อง ได้ยื่นฟ้องนายชวรัตน์ ชาญวีรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ต่อศาลปกครองฐานออกหนังสือรับรองเดินทางออกนอกประเทศล่าช้า และขอให้ศาลสั่งคุ้มครองสถานภาพเด็กที่เกิดในประเทศ ซึ่งสภาทนายความให้ความช่วยเหลือเพื่อให้ ด.ช.หม่อง มีสถานภาพบุคคลที่ขึ้นทะเบียนในประเทศ และมีสิทธิไปแข่งขันได้ ซึ่งเป็นคดีตัวอย่างและเป็นบรรทัดฐานในคดีเด็กไร้สัญชาติขอเดินทางออกนอก ประเทศ

          "ยังไม่ทราบจะเดินทางกลับเชียงใหม่เมื่อไหร่ ต้องรอศาลวินิจฉัยก่อน และทำเรื่องไปญี่ปุ่น เลยไม่ได้จองตั๋วเครื่องบินกลับ อาจใช้เวลาอีก 1-2 วันเสร็จ ซึ่งได้โทรศัพท์แจ้งผู้ปกครอง ด.ช.หม่อง แล้วว่าไม่ต้องเป็นห่วง จะดูแลเป็นอย่างดี และต่อสู้จนกว่าจะประสบความสำเร็จ ก่อนเดินทางกลับจะขอพบคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เพื่อรายงานความคืบหน้าและขอบคุณที่ช่วยเหลือโดยตลอด" นายดวงฤทธิ์ กล่าว

          ขณะที่ นายยุ้น ทองดี บิดา ด.ช.หม่อง เปิดเผยว่า ดีใจมากที่ลูกจะได้ไปแข่งขันที่ญี่ปุ่น และขอขอบคุณนายอภิสิทธิ์ โรงเรียนที่ดูแลและทุกฝ่ายที่ช่วยเหลือ ก่อนไปแข่งขันจะพาลูกไปไหว้พระธาตุดอยสุเทพ เพื่อกราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอพรให้ชนะและคว้าแชมป์กลับประเทศ สร้างชื่อเสียงตอบแทนแผ่นดินเกิด ซึ่งนางมอย มารดา บนบานศาลกล่าวให้ลูกประสบความสำเร็จ ซึ่งลูกชายอยู่บ้านชอบเล่นและสอนน้องสาววัย 2 ขวบ ทำเครื่องบินกระดาษพับบริเวณหน้าบ้านเช่าและช่วยแม่ทำงานบ้าน ทั้งหุงข้าว ซักผ้า กวาดบ้าน เลี้ยงน้อง และช่วยแม่จุดธูปเทียนไหว้ศาลพระภูมิในตอนค่ำ นั่งสมาธิ เพื่อฝึกจิตให้นิ่ง ไม่วอกแวก เวลาว่างจะชอบดูการ์ตูนในทีวี แต่ไม่ชอบอ่านหนังสือ ส่วนเสาร์อาทิตย์ จะช่วยพ่อทำงานก่อสร้าง บางวันจะขอพ่อพาไปออกกำลังกายที่สนามเด็กเล่นและสวนสาธารณะภายในโรงพยาบาล สวนปรุง เพื่อวิ่ง วิดพื้นและบริหารกล้ามเนื้อท้อง เพื่อสร้างความแข็งแกร่งกล้ามเนื้อด้วย


ขอขอบคุณข้อมูลจาก



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
น้องหม่อง ประกาศคว้าแชมป์กลับไทย หลังได้พาสปอร์ตเหลืองบินสู้ศึก อัปเดตล่าสุด 9 กันยายน 2552 เวลา 11:33:34 7,094 อ่าน
TOP