เขาพระวิหาร
สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยรัฐ
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 17 กันยายน ทหารไทยที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เตรียมความพร้อมรับมือการชุมนุมทวงคืนปราสาทพระวิหารของ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ภาคอีสาน ในวันที่ 19 กันยายน ด้วยการนำรั้วลวดหนามหีบเพลงมาวางโดยรอบบริเวณทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร พร้อมจัดเวรยามเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ได้ตั้งจุดตรวจเพิ่มอีก 1 จุดตามเส้นทางระหว่าง อ.น้ำขุ่น กับ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จากเดิมมีเพียงจุดตรวจของทหารพรานที่ตั้งไว้นานแล้ว ขณะเดียวกันมีผู้ติดป้ายขนาดใหญ่ เขียนข้อความแสดงความไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมพร้อมเรียกร้องความสงบ สันติในพื้นที่ชายแดน ติดบริเวณแยกถนนต่าง ๆ
ทั้งนี้ กลุ่มการ์ดพันธมิตรประมาณ 20 คน ที่ได้เดินทางมาถึงล่วงหน้า ได้ปักหลักพักค้างคืนภายในอาคารชั้นเดียวของอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร โดยนำสิ่งของเครื่องใช้ และข้าวสารอาหารแห้งมาหุงหาอาหารรับประทาน และไม่ยินยอมให้บุคคลภายนอกเข้าไปในที่พักแรม รวมทั้งขอตรวจค้นผู้ที่เข้าใกล้ที่พักแรม อ้างว่าเพื่อความปลอดภัย แม้ฝ่ายทหารและหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร จะขอร้องให้ออกจากสถานที่ราชการ เนื่องจากต้องควบคุมพื้นที่บริเวณนี้ไว้ แต่การ์ดพันธมิตรปฏิเสธ อ้างว่าบริเวณดังกล่าวสร้างด้วยเงินภาษีประชาชน ทุกคนย่อมมีสิทธิเข้าไปอยู่อาศัยได้
ด้าน พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า พื้นที่อ้างสิทธิเป็นพื้นที่ที่อันตรายและมีพื้นที่จำกัด สิ่งอำนวยความสะดวกค่อนข้างน้อย เมื่อครั้งที่ผ่านมาก็มีการปะทะกันระหว่างกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย ตนได้ให้แนวทางเจ้าหน้าที่ว่ ต้องไม่ให้มีการปะทะกัน และประชาชนต้องได้รับความปลอดภัย เจ้าหน้าที่จะดูแลความปลอดภัยให้ผู้ที่ไปร่วมชุมนุม โดยเตรียมพื้นที่ไว้ให้แล้ว แต่อยากขอความร่วมมือว่า จะทำอะไรขอให้อยู่ในกรอบกฎหมาย อยู่ในความปลอดภัย และคำนึงถึงความสัมพันธ์ต่อประเทศเพื่อนบ้าน การชุมนุมอาจจะสร้างปัญหาในการเจรจาระหว่างสองประเทศ และขณะนี้ทราบว่ามีแกนนำผู้ชุมนุมบางส่วนเข้าไปพูดคุยกับทหารเคลื่อนไหวและเคลื่อนย้ายเข้ามาในพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ แล้ว
เขาพระวิหาร
ขณะที่ พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส. นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร กล่าวเรียกร้องให้กระทรวงการต่างประเทศ รัฐบาล ตลอดจนผู้นำกองทัพไทยเร่งทำความเข้าใจกับทางการกัมพูชา ว่า การชุมนุมของคนไทยเป็นสิทธิเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญไทยให้การรองรับ ก่อนที่พันธมิตรจะจัดชุมนุมที่ อ.กันทรลักษ์ เพื่อขับไล่ชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่อ้างสิทธิ นอกจากนี้ กองทัพต้องมีมาตรการป้องกันไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้าไปใกล้บริเวณข้อพิพาท และพื้นที่สุ่มเสี่ยงโดยเด็ดขาด เพราะเกรงว่าผู้ชุมนุมจะไปยั่วยุ กระทบกระทั่งกับทหารกัมพูชา ซึ่งคิดว่าความอดทนของทหารกัมพูชาคงมีไม่มาก ดังนั้น รัฐบาลและนายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ จะมัวเอ้อระเหยลอยชายไม่ได้ ไม่เช่นนั้นจะนำไปสู่ความสูญเสีย และลุกลามบานปลายแน่นอน
ทางด้านสำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ว่า นายคฮุม โสชีต โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาแถลงว่า รัฐบาลกัมพูชาได้ส่งตำรวจปราบจลาจล 50 นาย พร้อมไม้กระบอง แก๊สน้ำตา และสุนัขตำรวจ ขึ้นไปประจำการที่ปราสาทพระวิหาร เพื่อเตรียมความพร้อมไว้รับมือกับสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อเหลือง จากประเทศไทย (พธม.) ซึ่งอาจข้ามเขตแดนเข้าไปอย่างผิดกฎหมาย และก่อปัญหาขึ้น ทั้งนี้ ตำรวจกัมพูชาได้รับคำสั่งให้ป้องกันไม่ให้คนกลุ่มนี้ข้ามเขตแดนเข้ามา และไม่ต้องการให้เกิดการนองเลือดขึ้น แต่หากพวกเขาไม่ยอมรับฟังอาจจำต้องใช้มาตรการป้องกันตัวเอง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
