
ป.บุกรวบหนุ่มแบงก์ฉก 56 ล้าน (ข่าวสด)
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 26 กันยายน ที่กองปราบปราม พ.ต.อ.กิติศักดิ์ สุขวัฒน์ธนกุล ผกก.5 บก.ป. สั่งการพ.ต.ท.จอม สิงห์น้อย พ.ต.ต.ศตยุ ไชยสุวรรณ สว.กก.5 บก.ป. พร้อมกำลังจำนวนหนึ่งเข้าจับกุมนายทัศนัย หรือโจ้ วัฒนวงศ์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 200/45 หมู่ 5 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม. ตามหมายจับศาลอาญา 275/2551 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง หรือที่อยู่ในความครอบครองของนายจ้าง ปลอมและใช้เอกสารปลอม ได้ที่ชั้นใต้ดินห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาลาดพร้าว ก่อนควบคุมตัวมาดำเนินคดี ทั้งนี้ ทราบว่าผู้ต้องหาเคยเป็นพนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ (มหาชน) สาขาถนนนวมินทร์ เป็นเจ้าหน้าที่อาวุโสประจำเคาน์เตอร์ คอยรับฝาก - ถอนเงิน กระทั่งเมื่อเดือนกรกฎาคม 2551 ผู้ต้องหาก็ได้หนีหายไปไม่ยอมมาทำงาน จนทางธนาคารไล่ออก
ต่อมาหลังจากนายทัศนัยหายตัวไป ธนาคารได้เริ่มตรวจสอบพบความผิดปกติว่า เมื่อช่วงเวลาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2550 จนถึงเดือนมกราคม 2551 ผู้ต้องหาได้ปลอมลายมือชื่อเพื่อถอนเงินจากบัญชีลูกค้านำไปเข้าบัญชีของผู้อื่น ที่คาดว่าเป็นบัญชีของนายทัศนัยเอง โดยผู้ต้องหาได้ปลอมลายมือเพื่อถอนเงินจากบัญชีของลูกค้า รวมทั้งหมด 6 บัญชีด้วยกัน โดยกระทำทั้งหมด 18 ครั้ง แต่ละครั้งถอนเงินตั้งแต่ 200,000 บาทจนถึง 1,500,000 บาท ร่วมมูลค่าความเสียหายทั้งหมด 56,755,401 บาท
เบื้องต้นเชื่อว่าผู้ต้องหากลัวทางธนาคารจะตรวจพบเลยชิงหลบหนีไปก่อน ต่อมาทางธนาคารส่งเจ้าหน้าที่เข้าแจ้งความไว้กับ สน.ลาดพร้าวและออกหมายจับกุมเอาไว้ จนวันเดียวกันนี้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับรายงานว่า ผู้ต้องหาหลบหนีมาเช่าห้องพักอยู่ที่อาคารลุมพินีวิลล์ ถ.ประชาอุทิศ แขวง-เขตห้วยขวาง จึงติดตามตัวผู้ต้องหาตั้งแต่ออกจากห้องพักไปจนถึงห้างเซ็นทรัล ก่อนเข้าจับกุมตัวไว้ได้
สอบสวนนายทัศนัยรับสารภาพว่า เหตุที่ต้องทำเนื่องจากติดหนี้พนันฟุตบอลต่างประเทศจำนวนมาก การเล่นพนันฟุตบอลนี้เล่นมาตั้งแต่สมัยเป็นนักศึกษา จนมาทำงานได้กว่าสิบปี ภายหลังเริ่มเล่นหนักขึ้นเรื่อย ๆ บางคู่แทงหนักถึงคู่ละเป็นล้านบาท เมื่อเสียก็ไม่รู้จะหาเงินมาใช้หนี้ด้วยวิธีไหน เลยมองหาช่องทางนำเงินจากบัญชีเงินฝากลูกค้าที่พอจะรู้วิธีการอยู่บ้าง ตอนแรกคิดว่าจะนำเงินออกไปใช้แทงพนันบอลก่อน เมื่อได้กลับคืนมาก็จะนำเข้าบัญชีเพื่อใช้คืน แต่กลับเสียหนักมากขึ้นเป็นเงินจำนวนมาก และคิดว่าในที่สุดทางธนาคารจะต้องรู้ความจริง เลยหลบหนีไม่ยอมกลับไปทำงานอีก จากนั้นก็หลบมาเช่าห้องพักอยู่ที่อาคารลุมพินีวิลล์ กระทั่งถูกตามจับกุมได้ ส่วนเงินที่เบิกมาจากบัญชีของลูกค้านั้นไม่มีเหลือแล้วเพราะนำไปใช้หนี้จนหมด หลังการสอบสวนเจ้าหน้าที่จึงส่งตัวผู้ต้องหาให้ตำรวจสน.ลาดพร้าว รับไปดำเนินคดี
ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก อสมท.






