x close

อนุมัติแผน ชะอำ หัวหิน คุมถกอาเซียน

ทหาร



อนุมัติแผน"ชะอำ-หัวหิน"คุมถกอาเซียน (คมชัดลึก)

          นายกฯ "อภิสิทธิ์" ถกกอ.รมน.อนุมัติแผนชะอำ-หัวหิน รปภ.ประชุมอาเซียน สนธิกำลังตร.-ทหาร-พลเรือน 18,298 คน มั่นใจกำลังพร้อมป้องเหตุป่วน ฮึ่มห้ามม็อบเข้าพื้นที่ประชุม เฝ้าระวังพื้นที่รอบนอก ยันยังไม่มีข่าวก่อการร้ายต่างชาติ 

          (9 ตุลาคม) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นภายในราชอาณาจักร (ผอ.รมน.) เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการกอ.รมน. รวม 22 คน โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ทรงกิตติ  จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.กำธร  พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงษ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมประชุม เพื่ออนุมัติแผนการรักษาความปลอดภัยการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-25 ตุลาคม นี้ ที่อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี

          จากนั้น เวลา 09.00 น. นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมกอ.รมน.รับทราบการแต่งตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผู้บัญชาการทหารบก เป็น ผู้ช่วยกอ.รมน. นอกจากนี้ที่ประชุมได้มีการอนุมัติใช้แผนยุทธการชะอำ-หัวหิน 521 โดยได้มีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัย (ศอร.รปภ.) เพื่อใช้ในการรักษาความปลอดภัยการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งที่ 15 ซึ่งที่ประชุมได้มีการพิจารณาในรายละเอียดของแผน และการปฏิบัติ การวางกำลัง การกำหนดพื้นที่ และผู้รับผิดชอบ ซึ่งจะมีพล.อ.ประวิตร เป็นผู้อำนวยการ ศอร.รปภ. โดยจะใช้กำลังพลจากพลเรือน ตำรวจ ทหารรวม 18,298 คน โดยใช้กำลังตำรวจ 4 พันกว่านาย โดยแบ่งเป็น กำลังที่ใช้ควบคุมฝูงชน 13 กองร้อย และใช้กำลังจากกองทัพบก 5,400 กว่านาย ส่วนกำลังที่เหลือแบ่งเป็นกองทัพเรือ กองทัพอากาศและพลเรือน

          "นอกจากนี้มีศูนย์ข่าวร่วมและศูนย์ปฏิบัติการมวลชนที่เป็น 2 ศูนย์ปฏิการที่สำคัญในศอร.รปภ. ซึ่งจะทำงานร่วมกับสื่อมวลชน โดยที่ตั้งหลักของศูนย์จะตั้งอยู่ที่หอประชุมของอุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติ อ.ชะอำ นอกจากนี้ยังมีส่วนแยกและส่วนหน้าที่โรงแรมฮอลิเดย์อินท์ ทั้งนี้ในที่ประชุมได้มีการประเมินความปลอดภัยในพื้นที่ที่จะมีการเคลื่อนไหวบ้าง เพราะมีกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองอยู่แล้วใน จ.เพชรบุรี และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ แต่กิจกรรมต่าง ๆ ในพื้นที่ชั้นในที่มีการประกาศพ.ร.บ.ความมั่นคง จะห้ามไม่ให้มีการชุมนุม" นายปณิธาน กล่าว 

          นายปณิธาน กล่าวว่า ส่วนพื้นที่รอบนอกที่ไม่ได้มีการประกาศใน 9 ตำบลนั้น อาจมีการเคลื่อนไหวบ้าง คือ กลุ่มแรกเป็นกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง กลุ่มที่สองคือ กลุ่มภาคองค์กรประชาชนที่ปกติมีการเคลื่อนไหวชุมนุมอยู่แล้ว โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม และการอนุรักษ์ธรรมชาติ ขณะนี้ได้มีการประสานกับกลุ่มต่างๆเพื่อจัดระบบพื้นที่ หากกลุ่มดังกล่าวต้องการเคลื่อนไหวหรือแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมมนูญซึ่งสามารถทำได้ หากชุมนุมโดยสงบ และกลุ่มที่สาม คือ กลุ่มทางวิชาการ และกลุ่มที่เคลื่อนไหวทางการเมืองในจังหวัดอื่นๆ เช่น กรุงเทพฯ

          เมื่อถามว่า เกรงหรือไม่ว่า มือที่สามจะเข้ามาสร้างความวุ่นวาย นายปณิธาน กล่าวว่า ทุกครั้งมีการเฝ้าระวัง แต่ครั้งนี้นายกฯได้ให้ข้อคิด ความเห็นในที่ประชุมว่า การประชุมครั้งนี้มีความสำคัญและเป็นการประชุมเพื่อย้ำเตือนความมั่นใจให้นานานชาติ หลังจากที่เกิดปัญหาการประชุมในครั้งที่พัทยา จ.ชลบุรี ทั้งนี้นานาชาติต้องการความมั่นใจจากเรา ดังนั้นการเฝ้าระวังต่างๆทำเต็มที่ ซึ่งการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนที่ภูเก็ต ที่ผ่านมา เป็นส่วนที่ทำให้นานาชาติมั่นใจมากขึ้น แต่การประชุมครั้งนี้เป็นการยกระดับ คือ การประชุมผู้นำ โดยนายกฯขอให้ทุกฝ่ายทำงานร่วมกันอย่างจริงจัง และแข็งขัน ซึ่งนายกฯ ขอบคุณเจ้าหน้าที่ได้พยายามร่วมกันทำงานมากขึ้น และเห็นความสำคัญของการประชุมครั้งนี้

          นายปณิธาน กล่าวว่า นายกฯ บอกว่า การประชุมครั้งนี้เป็นบททดสอบว่า ประเทศไทยคืนสู่ภาวะปกติ รวมถึงในแง่การรับรองในการจัดการระดับนานาชาติ  ทั้งนี้นายฯมั่นใจว่า การประชุมจะผ่านไปด้วยดีหากทุกฝ่ายร่วมมือกันทำงาน ซึ่งแผนการรักษาความปลอดภัยที่นำเสนอมีความรอบคอบ และรัดกุม

          ทั้งนี้ จากการประเมินอาจมีการเคลื่อนไหวบ้างจากกลุ่มพลังต่าง ๆ บ้าง แต่ยังไม่มีการเชื่อมโยงต่างประเทศ แต่เราดำเนินการเฝ้าระวังอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสถานที่ราชการสำคัญทั้งในพื้นที่ที่มีการประชุม และในกรุงเทพฯ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบซึ่งกันและกัน ซึ่งสถานการณ์ขณะนี้ยังเรียบร้อยปกติดี

          "เจตนารมณ์ของการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงมี 2 ส่วน คือ 1.เฝ้าระวัง และ 2.ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุ ซึ่งหากเกิดเหตุขึ้นจะใช้โครงสร้างของ ศอร.รปภ.และหน่วยเฉพาะกิจที่ได้มีการจัดกำลังดูแล ซึ่งคิดว่ามีความเพียงพอ รวมถึงจะมีหน่วยส่งกำลังบำรุงและหน่วยสนับสนุนทางอากาศ ทั้งนี้ได้มีการจัดกำลังทางทะเลมากขึ้น โดยในพื้นที่ควบคุม 3 ไมล์ทะเล หรือประมาณ 5.6 กิโลเมตร จะมีการคุมการเข้าออกไม่ให้มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ ส่วนพื้นที่รอบนอก 12 ไมล์ทะเล จะเป็นพื้นที่เฝ้าระวัง โดยเราจะใช้เรือลาดตระเวนขนาดกลางประมาณ 12 ลำ" นายปณิธาน กล่าว

          เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่า มีการก่อการร้ายในช่วงที่มีประชุม?

          นายปณิธาน กล่าวว่า ไม่มี ซึ่งก่อนการประชุม ได้ประเมินสถานการณ์เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างประเทศ มีเพียงกลุ่มที่เคลื่อนไหวในประเทศ แต่ยังอยู่ในกรอบไม่มีปัญหาอะไร ทั้งนี้เจตนารมณ์ของประชาชน ไม่อยากเห็นความรุนแรงทางการเมือง และการเกิดปัญหากับการประชุมนานาชาติระดับผู้นำ อย่างไรก็ตามมั่นใจว่า การจัดวางกำลัง ควบคุมพื้นที่ของเราสามารถดูแลได้ เพื่อไม่ให้รุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์หรือกำลังมากมาย


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
 
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยรัฐ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
อนุมัติแผน ชะอำ หัวหิน คุมถกอาเซียน อัปเดตล่าสุด 9 ตุลาคม 2552 เวลา 15:39:19 3,235 อ่าน
TOP