ปราง เวชชาชีวะ
มะปราง ลูกสาวนายกรัฐมนตรี (เดลินิวส์)
พรทิพย์ สุวรรณทิชากร : เรื่อง
สุรเชษฎ์ วัชรวิศิษฎ์ : ภาพ
เมื่อเอ่ยชื่อของ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" หลายคนคงนึกถึงนักการเมืองรูปหล่อที่ลงสนามการเมืองมานานราว 20 ปี และด้วยการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ทำให้เขาสามารถก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 27 ของไทย นอกจากที่เราได้เห็นได้รู้จักชีวิตเบื้องหน้า ผลงาน และความเป็นไปของตัวนายกรัฐมนตรีคนนี้แล้ว หลายคนคงอยากรู้จักชีวิตครอบครัวเบื้องหลังของเขาด้วย
โดยเฉพาะสาวหน้าใส วัย 19 ปี ชื่อ "น้องมะปราง" ปราง เวชชาชีวะ ลูกสาวคนโตของ "อภิสิทธิ์-ดร.พิมพ์เพ็ญ เวชชาชีวะ" ที่เพิ่งเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยด้วยการเป็นนิสิตชั้นปีที่ 1 คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และวันนี้เราได้มีโอกาสพูดคุยกับเธอเพื่อให้รู้จักเธอมากขึ้น
น้องปรางสนใจด้านศิลปะมาตั้งแต่เมื่อไหร่?
น้องปราง : เริ่มสนใจช่วงระหว่าง ม.3-ม.4 แค่สนใจเฉย ๆ ตอนจบ ม.4 ก็นัดพี่ ๆ มาติวเพื่อจะสอบเข้าที่นี่ (คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)
ทำไมถึงชอบเรียนวาดรูป เรียนศิลปะ เพราะคุณพ่อ (อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี) ก็ชอบเรียนเชิงด้านการเมือง และคุณแม่ (ดร.พิมพ์เพ็ญ เวชชาชีวะ) ก็เรียนในเชิงวิทยาศาสตร์?
น้องปราง : ถ้าเทียบกับพวกนั้น รู้สึกว่าจะเครียดกว่า (หัวเราะ) เรียนแล้วเครียดน้อยกว่า และวิชาดูเป็นอิสระมากกว่า พอทำไปทำมาก็รู้สึกว่าชอบ เออ...ไปทางนี้แหละ คุณพ่อคุณแม่ก็สนับสนุน
ปราง เวชชาชีวะ
เลือกเรียนคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาฯ เป็นอันดับ 1 เลยหรือเปล่า?
น้องปราง : เลือกเรียนที่นี่อันดับ 1 เพราะที่นี่เหมาะกับมะปรางมากกว่า ตอนสอบเอ็นฯ ติดที่นี่ก็ดีใจได้มีที่เรียนต่อแล้ว พ่อแม่ไม่ต้องเครียดแล้ว (หัวเราะ) วันแรกที่เริ่มมาเรียนที่นี่ก็ตื่นเต้นอยู่เหมือนกัน ก็เรียนมหาวิทยาลัยด้วย อะไรอย่างนี้ ตัวเองก็เปลี่ยนไปบ้างนิดหน่อย ก็คงมาจากการรับน้อง ประมาณว่ามีภูมิต้านทานมากขึ้น เช่น ตอนรับน้องก็มีโดนว้าก เดี๋ยวนี้คนด่าเรา เราก็ไม่สนใจแล้ว เริ่มชิน วิชาที่เรียนตอนปี 1 ก็มีเรียนปั้น วาด และวิชาครีเอทีฟ ดีไซน์ ส่วนวิชาที่เป็นเลกเชอร์ก็มีพวกวิชาเบื้องต้น ประวัติศาสตร์ศิลปะตะวันตก การบ้านเยอะค่ะ บางครั้งพวกงานปั้นส่วนมากก็ต้องมาทำที่คณะ ชอบเรียนวาดมากกว่า ปั้นมันเหนื่อย กล้ามโตเลยแต่ตอนนี้เริ่มยุบไปแล้ว (หัวเราะ)
ผลการเรียนออกมาเป็นอย่างไร?
น้องปราง : ก็ออกมาดีใช้ได้ ได้เกรดเฉลี่ยประมาณ 3.4 วิชาที่ได้เกรดเอ คือ วิชาวาดเส้น ได้เอกันหลายคน และวิชาภาษาเกาหลีที่เป็นวิชาเลือก ก็ได้เอ (หัวเราะ) พ่อแม่ก็ดีใจกับผลการเรียน บอกว่าดีกว่าที่คิด และบอกว่าให้รีบเก็บคะแนนตั้งแต่ตอนปี 1 เพราะปี 2 ปี 3 จะเก็บคะแนนยากขึ้น ส่วนเทอม 2 ก็รู้ว่าเรียนหนัก ต้องเตรียมตัวไว้ก่อน ต้องนอนเยอะก่อนเปิดเทอม ช่วงปิดเทอมก็ไปเที่ยวกับเพื่อนบ้างในกรุงเทพฯ ไปหัดขับรถด้วย
ในอนาคตถ้าเรียนจบแล้วตั้งใจจะทำอะไรต่อไป จะเรียนต่อด้านนี้หรือเปล่า?
น้องปราง : ต้องดูก่อน ยังคิด ๆ อยู่ว่าทำอะไรดี ยังไม่รู้เลยว่าด้านศิลปะมีงานอะไรให้ทำบ้าง
ปราง เวชชาชีวะ
ปกติยามว่างทำกิจกรรมอะไรบ้าง?
น้องปราง : ถ้าอยู่บ้าน ก็ฟังเพลง ดูทีวี เล่นคอมพิวเตอร์ บางทีก็ออกไปเที่ยวบ้างนิด ๆ หน่อย ๆ นัดกับเพื่อน อะไรอย่างนี้ ส่วนอินเทอร์เน็ต ก็เล่นเว็บไฮไฟว์และเฟซบุ๊ก แต่เล่นไม่ค่อยบ่อย ถ้าเป็นไฮไฟว์ก็เล่นไม่ค่อยบ่อย ถ้าเฟซบุ๊กก็เล่นบ่อยขึ้น มีเพื่อนไม่เยอะหรอก แค่ร้อยกว่าคน ส่วนมากเป็นเพื่อนที่เรียนมาด้วยกัน ตั้งแต่อนุบาลจนถึงตอนนี้ก็มี คนมาขอแอดเยอะแต่หนูก็คิด ๆ ดูแล้วว่าคนไหนจะรับ ไม่รับดี ส่วนเว็บทวิตเตอร์ก็เพิ่งสมัครไปไม่นาน ยังเล่นไม่ค่อยเป็น
เห็นว่าน้องปรางชอบฟังเพลงเกาหลี แนวเค-ป๊อป?
น้องปราง : ใช่ค่ะ เค-ป๊อปส่วนมาก จะเรียกว่าล้วน ๆ เลยก็ได้ ชอบวง "ดงบังชินกิ" และวง "ซูเปอร์จูเนียร์" เริ่มฟังเพลงแนวนี้ตอน ม.3 มาชอบเองเลย ไม่มีใครชักชวน ไม่มีอะไรทั้งนั้น ประมาณว่าลองฟังหลาย ๆ เพลง หลาย ๆ แนว แล้วก็ชอบแนวนี้ บางทีก็ฟังจากอินเทอร์เน็ต ชอบเอง ไม่มีใครแนะนำ ที่ชอบก็เพราะฟังแล้วรู้สึกดี ดนตรีเพราะ เพลงดูมีคุณภาพ อะไรอย่างนี้ ฟังแล้วไม่เบื่อ ฟังได้หลายปี เรื่องภาษาเกาหลีก็ฟังรู้เรื่อง หนูไปเรียนภาษาเกาหลีมา มีช่วงปิดเทอมยาว ๆ ก็ไปเรียนบ้าง และช่วงเปิดเทอมก็ไปลงเรียนเป็นวิชาเลือกที่คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ เรียนเพราะชอบฟังเพลง ดูรายการ ดูละครเกาหลี เรื่องที่ชอบดูมาก ๆ คือ เมื่อก่อนชอบเรื่อง "แดจังกึม" มาก ๆ ตอนนี้ก็ชอบซีรีส์เรื่อง "รักฉบับใหม่หัวใจ 4 ดวง (Boys Over Flowers)" เคยไปเที่ยวประเทศเกาหลีใต้มาแล้วตอนที่ยังไม่คลั่งกันมาก ไปแล้วก็รู้สึกว่าประเทศเขาน่าสนใจดี ภาษาของเขาฟังยาก แต่ถ้าฟังบ่อย ๆ ก็จะรู้เป็นคำ ๆ ตอนนี้พอไปเรียนก็รู้เป็นคำ ๆ พอพูดได้เป็นบางประโยค
มีเวลาไปเที่ยวกับครอบครัวบ้างหรือเปล่า ?
น้องปราง : มีค่ะ แต่ไม่ได้บ่อยมาก ปกติก็ตอนปีใหม่แน่ ๆ และพวกวันหยุด สถานที่ก็เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ชอบทะเล บรรยากาศดี
ปราง เวชชาชีวะ
คุณพ่อหวงลูกสาวไหม และมีคนมาจีบปรางบ้างหรือเปล่า?
น้องปราง : หวงอยู่เหมือนกัน ก็มีห่วงบ้าง ยังไม่มีคนมาจีบเลย
แล้วสเปกผู้ชายที่ปรางชอบ เป็นแบบไหน ?
น้องปราง : สไตล์เกาหลีมั้ง (หัวเราะ)
คุณพ่อมาเล่นการเมือง เคยชวนให้ไปช่วยหาเสียง แจกแผ่นพับด้วยกันบ้างไหม และเคยคุยกับคุณพ่อถึงเรื่องการเมืองบ้างไหมว่าทำไมมันเป็นอย่างนั้นอย่างนี้?
น้องปราง : ไม่เคยชวน เรื่องการเมือง คุยกับคุณพ่อน้อยมาก ไม่ค่อยได้คุยถึง และคุณพ่อไม่ค่อยเล่า ส่วนใหญ่เป็นหนูถาม
รู้สึกอย่างไรต่อการที่คุณพ่อเป็นนักการเมืองชื่อดัง มีคนมาขอลายเซ็น ขอถ่ายรูป เวลาเดินกับคุณพ่อรู้สึกเกร็งไหม และเคยมีคนมาทักปรางไหมว่าเป็นลูกนายกฯหรือเปล่า?
น้องปราง : เวลาเดินกับคุณพ่อก็เกร็งเหมือนกัน แต่ไม่ค่อยรู้สึกอย่างไรเท่าไหร่ ไม่ได้สนใจอะไรมาก ก็เคยมีคนมาทักหนูนะว่าเป็นลูกนายกฯใช่ไหม หนูก็เงียบไม่ตอบอะไรแล้วเดินหนี หนูไม่ค่อยชอบ เพราะหนูต้องการเวลาส่วนตัว
ปราง เวชชาชีวะ
เป็นห่วงคุณพ่อบ้างไหม รู้สึกอย่างไรเวลาที่คุณพ่อเจอข่าวในเชิงลบ หรือถูกเขียนโจมตีแรง ๆ สร้างข่าวขึ้นมาทั้งที่มันไม่จริง?
น้องปราง : หนูเป็นห่วงอยู่แล้ว เห็นเดี๋ยวนี้ก็หน้าเครียด พอเป็นนายกฯก็ดูหน้าเครียดขึ้น ดูแก่เร็ว น่าเป็นห่วงมากขึ้นจริง ๆ หนูก็ให้กำลังใจคุณพ่อ 2 คำ "สู้ ๆ" อย่างนี้ทุกครั้ง แค่นี้เขาก็มีกำลังใจแล้ว เรื่องที่มันไม่ใช่เรื่องจริง จะไปกลัวอะไร บางคนด่าตัวเองก็มี บางทีหนูก็คิดว่าเขาหาเรื่องขวางโลกหรือเปล่า
รู้สึกอย่างไรเมื่อพูดถึงคำว่า "การเมือง" และคิดว่าวัยรุ่นควรจะเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองหรือไม่
น้องปราง : ไม่สนใจเลย มันเครียด (เน้นเสียง) การเมืองที่นี่มันเครียด รู้สึกว่าเห็นมานานแล้ว ถ้าการเมืองมันมีแต่แง่บวกก็คงสนใจ ถ้าไม่มีแง่ลบ เป็นด้านดี ก็น่าจะเป็นที่สนใจมากกว่าหรือสมควร เพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง แต่จริง ๆ ก็อย่าไปยุ่งเลยดีกว่า เพื่อความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สิน หนูไม่สนใจการชุมนุมอะไร ไม่ได้อยู่ข้างไหน เหลืองแดงอะไรของมันก็ไม่รู้ กีฬาสีมั้ง
คงได้เห็นแล้วว่าสาวหน้าใสหัวใจใฝ่งานศิลป์คนนี้ แม้จะเป็นลูกไม้ไกลต้น แต่ความคิดอ่านที่ตรงไปตรงมาของเธอนั้นดูไม่ต่างจากต้นฉบับผู้เป็นพ่อของเธอเลย
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก