x close

สร.รฟท.รวมตัวลานพระรูป รอผลจี้ อภิสิทธิ์ เลิกคำสั่งไล่ออก


"สาวิทย์"นัดสร.รฟท.รวมตัวลานพระรูปฯ รอผลจี้"มาร์ค"เลิกคำสั่งไล่ออกพนักงาน-ปลดผู้ว่าฯ (มติชนออนไลน์)

          "โสภณ"เผยยังไม่ได้รับแจ้งจากนายกฯนัดคุย สร.ร.ฟ.ท.-ผู้บริหารรถไฟ ยันแก้ถูกทาง "สาวิทย์"ทำหนังสือจี้"มาร์ค"เลิกคำสั่งไล่ออกพนักงาน-ปลดผู้ว่าฯ นัดรวมตัวลานพระบรมรูปทรงม้ารอฟังผลเจรจา นักวิชาการ มธ.เผยผลศึกษา ถึงเวลาต้องยกเครื่องรถไฟครั้งใหญ่

          นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จากพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กำกับดูแลการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ให้สัมภาษณ์ เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน ว่ายังไม่ได้รับแจ้งจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ถึงการนัดหมายเจรจากับผู้แทนสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ การรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.ร.ฟ.ท.) และ สร.ร.ฟ.ท.สาขาหาดใหญ่ ในวันที่ 3 พฤศจิกายน และไม่ทราบว่าจะมีการหารือกันในประเด็นใด แต่ขอยืนยันว่า กระทรวงคมนาคมได้ดำเนินการมาถูกทาง เพราะเป็นการแก้ปัญหาทั้งระบบไม่ใช่แก้ไขเพื่อให้รถไฟสามารถเปิดให้บริการได้เท่านั้น 

          "การแก้ปัญหานั้นไม่ใช่แค่ทำให้รถไฟเดินรถได้เท่านั้น จะต้องแก้ทั้งระบบ การดำเนินการที่ผ่านมาได้ยึดตามกฎระเบียบ ข้อบังคับและกฎหมาย หากแก้ไขไม่ได้ก็ต้องให้รัฐบาลเข้ามาแก้" นายโสภณกล่าว

          รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า ในส่วนของแผนการปฏิรูป ร.ฟ.ท. ทั้งระบบนั้น จะสรุปรายละเอียดได้ภายในสัปดาห์นี้ และจะนำเสนอต่อ ครม.ในสัปดาห์หน้า ซึ่งก็แล้วแต่นายกฯจะบรรจุเป็นวาระพิจารณาเมื่อใด ซึ่งแผนจะครอบคลุมปัญหาทั้งหมด ตั้งแต่การจัดหาหัวรถจักรใหม่ การปรับปรุงระบบอาณัติสัญญาณ การซ่อมบำรุงรางทั่วประเทศ ตลอดจนการพัฒนาโครงการรถไฟทางคู่ในอนาคต การเพิ่มบุคลากรให้เพียงพอ และการเปิดใช้โครงการแอร์พอร์ตลิ้งก์ด้วย 

          นายโสภณกล่าวว่า สำหรับอุบัติเหตุเครื่องยนต์ของขบวนรถสปริ๊นเตอร์หลุด ระหว่างทางที่ จ.ลำปาง เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมานั้น ได้รับรายงานเบื้องต้น เกิดจากสลักหรือน็อตของเครื่องยนต์หลุดออกจากตัวถัง ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงก่อนจะถึงกำหนดที่จะต้องนำหัวรถจักรตัวนี้เข้าทำการซ่อมบำรุงตามวาระ 1 ปี ในวันที่ 21 พฤศจิกายนนี้ จึงได้กำชับไปยังผู้บริหาร ร.ฟ.ท.ให้เร่งแก้ไขปัญหาเหล่านี้เพื่อให้เห็นผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว 

          นายกริช ศฤงชัยธวัช วิศวกรใหญ่ฝ่ายการช่างกล ร.ฟ.ท. กล่าวว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ได้ทำการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบว่าเกิดจากการกลั่นแกล้งหรือวางยาเพื่อให้เกิดอุบัติเหตุ เพราะขั้นตอนการปลดน็อตที่ยึดระหว่างเครื่องยนต์กับหัวรถจักรนั้นทำได้ยาก การคลายน็อตให้หลวมต้องนำหัวรถจักรเข้าเครื่องกับรางยกระดับเท่านั้น แต่จะต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียด โดยเฉพาะการซ่อมบำรุงครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา ว่ามีความบกพร่องในจุดใด    

          ขณะที่นายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธาน สร.ร.ฟ.ท. กล่าวว่า ได้ทำหนังสือถึงนายอภิสิทธิ์เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงและปัญหาของ ร.ฟ.ท.โดยมี พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับเรื่อง 6 ข้อคือ 

          1.ให้นายกฯยกเลิกคำสั่งไล่ออกพนักงาน สาขาหาดใหญ่ 6 คน เพราะถือว่ากระทำการ (หยุดเดินรถ) เพื่อความปลอดภัยของขบวนรถและประชาชน ยึดตาม พ.ร.บ.แรงงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ.2543 

          2.ขอให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการรถไฟอย่างปลอดภัยโดยเร็ว

           3.ตั้งคณะกรรมการกลาง ร่วมกับ สร.ร.ฟ.ท.และฝ่ายบริหาร เพื่อรวบรวมปัญหาที่จะนำไปสู่การแก้ไขที่ยั่งยืน

           4.ขอให้ปลดผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. 

          5.ยืนยันคัดค้านการแปรรูป ร.ฟ.ท.ที่จะแยกเป็นบริษัท 

           6.ขอแนวทางแก้ปัญหาระยะสั้นและระยะยาว ตามแนวทางที่พล.ต.สนั่น เป็นประธานแก้ไขปัญหา      

          ขณะเดียวกัน ตัวแทนสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้านครหลวง (สร.กฟน.) กว่า 20 คนได้เข้ายื่นหนังสือต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เมื่อเวลา 14.00 น. ขอให้กระทรวง และ ร.ฟ.ท. ยกเลิกประกาศคำสั่งเลิกจ้างพนักงาน ร.ฟ.ท. ซึ่งเป็นสมาชิก สร.ร.ฟ.ท. โดยกล่าวเหตุผลขอให้ยกเลิกว่าเป็นการลงโทษที่รุนแรง ละเมิดสิทธิแรงงานและสิทธิมนุษยชน เพราะการชุมนุมเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน สร.กฟน. มีความเป็นห่วงว่าเรื่องนี้จะมีประเด็นซ่อนเร้นทางการเมือง เพื่อใช้เป็นข้ออ้างเพื่อนำไปสู่การแปรรูป ร.ฟ.ท. โดยไม่เปิดเผยให้ประชาชนได้รับทราบหรือแสดงความคิดเห็น ทั้งนี้ ในส่วนของสมาชิก สร.ร.ฟ.ท.นัดรวมตัวกันที่ลานพระบรมรูปทรงม้า เวลา 10.00 น. วันที่ 3 พฤศจิกายน เพื่อรอฟังผลการหารือระหว่างนายกฯกับ สร.ร.ฟ.ท. และฝ่ายบริหาร ร.ฟ.ท.

          ทางด้านนายบุญชัย รุ่งเรืองไพศาลสุข ประธานเครือข่ายคัดค้านการขึ้นค่าโดยสารรถสาธารณะและนายกสมาคมคุ้มครองค่าโดยสารและบริการรถสาธารณะ เข้ายื่นหนังสือถึงนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่สำนักงานดีเอสไอ ขอให้รับกรณีรถไฟตกรางที่สถานี ต.เขาเต่า อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม เป็นคดีพิเศษ เนื่องจากถือเป็นเหตุการณ์ครั้งใหญ่ที่ทำให้ประชาชนขาดความมั่นใจในการบริหารรถไฟสาธารณะ ทั้งยังตั้งข้อสังเกตว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจไม่ใช่อุบัติเหตุเนื่องจากความอึมครึมที่เกิดขึ้นจากความขัดแย้งภายในองค์กรเองด้วย ขณะที่นายธาริตกล่าวว่า จะรับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณาเพื่อนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) โดยจะเร่งรวบรวมข้อมูลในเบื้องต้น พร้อมเตรียมตั้งชุดทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยวันที่ 3 พฤศจิกายน จะมีประชุมหารือในเรื่องดังกล่าวด้วย

          นายสถาพร โอภาสถานนท์ อาจารย์ประจำสาขาบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ โลจิสติคส์และการขนส่ง คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) แถลงผลการศึกษา การปฏิรูปรถไฟไทยว่า ได้ศึกษาเรื่องนี้จากกรณีที่รถไฟตกราง และข้อพิพาทระหว่างผู้บริหาร และ สร.ร.ฟ.ท. พบว่าถึงเวลาที่รัฐบาลจะต้องใช้โอกาสนี้ปฏิรูป ร.ฟ.ท. และจะต้องนำมาเป็นวาระแห่งชาติ เพราะหากยังปล่อยให้เป็นอย่างเดิมก็จะเกิดปัญหาซ้ำเดิมอีก และรถไฟจะเดินหน้าการพัฒนาต่อไปไม่ได้ เพราะองค์กรมีความเก่าแก่ และค่อนข้างเทอะทะ แต่ก็ยอมรับว่าการปฏิรูปเป็นไปค่อนข้างยาก แต่ก็คงไม่เหลือบ่ากว่าแรง หากผู้บริหาร สร.ร.ฟ.ท.และรัฐบาลต้องมาหารือกันการที่ควรดำเนินการคือการแยกบัญชีออกมาเป็น 2 ส่วน คือส่วนของโครงสร้างพื้นฐานและส่วนของการเดินรถ แต่ทั้งนี้ ต้องมีการแก้ไขกฎหมายและกฎระเบียบของ ร.ฟ.ท.ก่อน โดยทั้งหมดเป็นทรัพย์สินของ ร.ฟ.ท.อยู่ แต่ยอมรับว่า ร.ฟ.ท.มีปัญหาเรื่องผลประโยชน์ด้านที่ดิน ซึ่งจะต้องเข้าไปดูแลเรื่องนี้ และจะต้องมีการให้สิทธิประโยชน์ที่จูงใจกับพนักงาน รวมทั้งการทำความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ด้วย  

          "ภาครัฐจะต้องมีแผนการพัฒนา ร.ฟ.ท.อย่างชัดเจน ซึ่งที่ผ่านมามีการพูดเป็นเรื่องๆ แต่ไม่เคยพูดเรื่องปรับปรุงรถไฟ ทำให้การบริหารรถไฟไปตามยถากรรม และหากรัฐยังปล่อยให้ผู้บริหาร และ สร.ร.ฟ.ท.แก้ปัญหากันเองก็ไม่สามารถแก้ไขได้ เพราะต่างคนต่างมองคนละมุมและไม่ยอมเข้าใจกัน"  นายสถาพรกล่าว




ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สร.รฟท.รวมตัวลานพระรูป รอผลจี้ อภิสิทธิ์ เลิกคำสั่งไล่ออก อัปเดตล่าสุด 3 พฤศจิกายน 2552 เวลา 11:52:40 9,206 อ่าน
TOP