เรียกทูตกลับด่วน! สัมพันธ์ ไทย-เขมร ตึงเครียด



ประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย

ฮุนเซน - อภิสิทธิ์



สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยรัฐ 



          เมื่อเวลา 15.10 น. วันที่ 5 พฤศจิกายน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า การแถลงของรัฐบาลกัมพูชา มีส่วนที่พาดพิงมาถึงกระบวนการยุติธรรมของเรา ตนก็เชื่อว่ากระทบต่อความรู้สึกของพี่น้องประชาชนพอสมควร ฉะนั้น ขณะนี้ทางกระทรวงการต่างประเทศก็จะดำเนินการมาตรการเพื่อให้กัมพูชา รับทราบถึงความรู้สึกของประชาชนไทย และการที่มาพาดพิงกระบวนการภายในของเราอย่างนี้ ซึ่งจะเป็นการดำเนินการตอบโต้ตามขั้นตอนทางการทูต โดยจะให้นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศได้เป็นคนชี้แจงในรายละเอียด

          "แต่มาตรการทั้งหมดเราจะทำไม่ให้กระเทือนต่อความสัมพันธ์ระหว่างประชาชน กับประชาชน เพราะผมเชื่อว่าประชาชนไทยและประชาชนกัมพูชาต้องการที่จะเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน แต่เมื่อรัฐบาลมาทำในสิ่งที่มีปัญหาก็จะเป็นการตอบโต้ในส่วนของรัฐบาล จริง ๆ แล้วตนจะพยายามดูให้ความสัมพันธ์ระหว่างเป็นไปอย่างราบรื่น แต่ในแง่ของความร่วมมือ ที่เป็นเรื่องที่รัฐบาลกัมพูชาเคยร้องขอมาอะไรต่าง ๆ ก็คงจะต้องมาพิจารณา แล้วก็ต้องให้กัมพูชารับทราบ และจะไม่มีการปิดพรมแดนแน่นอน เพราะเรื่องการค้าขายชายแดนเป็นเรื่องผลประโยชน์ของประชาชนร่วมกัน แต่ในแง่ของที่ไทยจะมีมาตรการ ผมได้คุยกับนายกษิตและหน่วยงาน ก็คิดว่าจะมีมาตรการที่เหมาะสมในการที่จะดำเนินการ และประชาชนคนไทยจะไม่เดือดร้อน" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

กระทรวงต่างประเทศ


           ทางด้านกระทรวงต่างประเทศ ได้ออกแถลงการณ์ ถึงท่าทีของรัฐบาลไทยต่อกรณีรัฐบาลกัมพูชาแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษา ความว่า...

          ตามที่รัฐบาลกัมพูชาได้แต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลกัมพูชาและที่ปรึกษาส่วนตัวของนายก รัฐมนตรีกัมพูชา และยืนยันจะไม่ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ให้กับไทยตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน หากได้รับการร้องขอนั้น กระทรวงการต่างประเทศขอแถลง ดังนี้...

          1. รัฐบาลได้ชี้แจงกับรัฐบาลกัมพูชาไปแล้วในโอกาสต่าง ๆ ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างทั้ง 2 ประเทศ ต้องอยู่เหนือความสัมพันธ์ส่วนบุคคล

          2. การดำเนินการใด ๆ ของฝ่ายกัมพูชาเกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่สามารถแยกแยะออกจากความสัมพันธ์ระหว่างทั้ง 2 ประเทศได้ และกระทบต่อความรู้สึกของคนไทยทั้งชาติ เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้หลบหนีคดีอาญา และยังคงมีบทบาททางการเมืองในประเทศอยู่

          3. การแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นที่ปรึกษารัฐบาลกัมพูชาและที่ปรึกษาส่วนตัวของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ถือว่าเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของไทย และเป็นการปฏิเสธกระบวนการยุติธรรมของไทย รวมทั้งทำให้ความสัมพันธ์และผลประโยชน์ส่วนบุคคลอยู่เหนือความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ

          4. รัฐบาลไทยจึงนิ่งเฉยไม่ได้ และมีความจำเป็นจะต้องรับฟังความคิดเห็นของประชาชนทั้งประเทศ การดำเนินมาตรการต่างๆ ของรัฐบาลไทย ก็เพื่อจะทำให้ฝ่ายกัมพูชารับรู้ถึงความไม่พึงพอใจของประชาชนไทยทั้งปวง

          5. จากการดำเนินการของรัฐบาลกัมพูขา ทำให้รัฐบาลไทยจำเป็นต้องทบทวนสถานะความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา และดำเนินการ ดังนี้

          - 5.1 เรียกเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ กลับ
          - 5.2 ทบทวนพันธกรณีต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับฝ่ายกัมพูชาในช่วงที่ผ่านมา
          - 5.3 ทบทวนความร่วมมือต่าง ๆ ที่รัฐบาลไทยกำลังดำเนินการกับกัมพูชา ซึ่งการทบทวนนี้ รัฐบาลไทยจะกระทำด้วยความจำใจ เนื่องจากรัฐบาลไทยประสงค์มาโดยตลอดที่จะให้ความร่วมมือกับฝ่ายกัมพูชา เพื่อพัฒนาการอยู่ดีกินดีของชาวกัมพูชา เพื่อลดช่องว่างของประชาชน และลดช่องว่างระหว่างกัมพูชากับประเทศสมาชิกอาเซียนอื่น ๆ 


          อย่างไรก็ตาม วันนี้เดียวกัน นายซก อาน รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา แถลงว่า รัฐบาลกัมพูชาตัดสินใจเรียกนางยูออย เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย กลับประเทศกัมพูชา เป็นการตอบโต้ กรณี รัฐบาลไทย เรียก นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำราชอาณาจักรกัมพูชา (กรุงพนมเปญ) ช่วงบ่ายวันเดียวกัน โดยรัฐบาลกัมพูชาจะส่งเอกอัคราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย กลับประเทศไทยก็ต่อเมื่อรัฐบาลไทย ส่ง เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำราชอาณาจักรกัมพูชา (กรุงพนมเปญ) กลับประเทศกัมพูชา

          ด้าน นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า การจะตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับรัฐบาลกัมพูชาหรือไม่ขึ้นอยู่กับรัฐบาลกัมพูชาว่า ต้องการสังฆกรรมกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือ ประเทศไทย 


ฮุนเซน - พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร





          อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานข่าวรัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์แต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาส่วนตัวของ สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา รวมถึงดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจรัฐบาลกัมพูชา ขณะที่พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี พระมหากษัตริย์พระองค์ปัจจุบันแห่งกัมพูชา ได้ทรงลงพระนามรับรองพระราชกฤษฎีกาแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

          ทั้งนี้ แถลงการณ์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านทางสถานีโทรทัศน์แห่งชาติกัมพูชา เมื่อเวลา ประมาณ 21.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น วันที่ 4 พฤศจิกายน และเนื้อหาในแถลงการณ์ยังระบุเพิ่มเติมด้วยว่า ข้อกล่าวหาที่รัฐบาลไทยมีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นประเด็นทางการเมืองพร้อมยืนยันว่าหากอดีตนายกรัฐมนตรไทยตัดสินใจจะพำนักที่กัมพูชา ก็จะไม่มีการส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมายังไทยเป็นอันขาดและรัฐบาลกัมพูชาอนุญาตให้ พ.ต.ท.ทักษิณ สามารถเดินทางเข้าหรือออกนอกประเทศได้ตามสะดวก เพื่อปฏิบัติหน้าที่ที่ปรึกษารัฐบาล

          สำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานเพิ่มเติมด้วยว่า แถลงการณ์ของกัมพูชาอาจส่งผลกระทบระลอกใหม่ต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทยและ กัมพูชา หลังจากที่สมเด็จฯ ฮุน เซน เคยสร้างความไม่พอใจแก่รัฐบาลไทย เมื่อครั้งเดินทางมาเข้าร่วมการประชุมอาเซียน ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนด้วยการประกาศให้ที่พำนักในกัมพูชาแก่ พ.ต.ท.ทักษิณ

 

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร


          ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ขอบคุณนายกรัฐมนตรีฮุนเซน พร้อมระบุว่า นายกรัฐมนตรีฮุนเซน เพิ่งส่งสำเนาที่พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี ทรงโปรดเกล้ามาให้ตนเองแล้ว และก็นับเป็นเกียรติ แต่คงไม่สนุกเหมือนลงมือทำเองให้คนไทยหายจนแน่นอน

 




ขอขอบคุณข้อมูลจาก
         

เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เรียกทูตกลับด่วน! สัมพันธ์ ไทย-เขมร ตึงเครียด อัปเดตล่าสุด 6 พฤศจิกายน 2552 เวลา 14:32:49 76,717 อ่าน
TOP
x close