x close

อ้าง ปส.อุ้ม 5 โจ๋ ซ้อมน่วมบีบสารภาพซื้อ ยาเสพติด

ทำร้ายร่างกาย



อ้าง ปส.อุ้ม 5 โจ๋ ซ้อมน่วมบีบสารภาพซื้อ ยาเสพติด (ไทยรัฐ)

          คนร้ายอ้างเป็นตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด อุ้มวัยรุ่นชาย หญิง 5 คน ขังในเซฟเฮ้าส์ ถุงดำคลุมหัว ซ้อมจนน่วม เพื่อให้สารภาพแหล่งซื้อยาเสพติด...

          เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 18 พฤศจิกายน 2552 นายทิวา มาสว่าง อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 167 ม.10 ต.ศรีสุขสำราญ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น นายอภิชาต อินบุญญา อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 ม.10 ต.ศรีสุขสำราญ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น นายหมี (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี ( นายตะวัน หมีตี อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 ม.2 ต.ศรีสุขสำราญ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น) นายกบ (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี ( นายโสภณวิชญ์ รอสองเนิน อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73/1 ม.3 ต.บ้านแท่น อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ) น.ส.ปลา (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ( น.ส.สุนทร โหว่ภักดี อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 ม.13 ต.โคกสูง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น) พร้อมผู้ปกครอง เข้าพบ พ.ต.ต.ยุทธนา งามชัด พงส.(สบ.2) สภ.เมืองขอนแก่น 

          โดยเปิดเผยว่า ถูกตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด อุ้มไปขังไว้ในเซฟเฮ้าส์ ซึ่งเป็นบ้านสองชั้น ถนนกลางเมือง ในพื้นที่ตำบลเมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น จากนั้นก็ถูกคลุมศีรษะด้วยถุงพลาสติก ถูกทำร้ายร่างกาย ด้วยเข็มขัดหนังและของแข็ง ใช้เชือกไนล่อนมัดมือมัดเท้า ใบหน้าบวม เขียวช้ำ ในขณะเดียวกันผู้เสียหายที่เป็นชายทั้ง 4 คน ได้ถอดเสื้อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ดูบาดแผลตามร่างกาย ซึ่งก็ทำให้มองเห็นบาดแผลที่แผ่นหลังเป็นรอยยาวอย่างชัดเจน

          จากการสอบถาม ผู้ปกครองของนายอภิชาต อินบุญญา อายุ 24 ปี บอกว่า เพื่อนลูกชาย โทรไปบอกตนว่า ลูกชายหายตัวไป ตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน 2552 และไม่กลับที่พัก ตนจึงโทรศัพท์หาลูกชาย สัญญาณติดทุกครั้ง แต่ไม่รับสาย ตนจึงฝากข้อความเสียง จากนั้นไม่นานก็มีโทรศัพท์จากเครื่องของลูกชายโทรกลับมา อ้างว่าเป็นเพื่อนลูกชาย บอกว่าลูกชายเมามาก และรับสายไม่ได้ หากสร่างเมาจะให้กลับบ้าน รอจนดึกดื่นก็ไม่เห็นลูกชายกลับ ตนจึงโทรกลับไปใหม่ แต่ไม่มีใครรับสายอีก ต่อมามีโทรศัพท์โทรหาตน แต่เป็นเบอร์โทรศัพท์ที่ตนไม่รู้ ตนจึงขอไปรับลูกชายกลับบ้านเอง และอยากรู้ว่าลูกชายอยู่ไหน คนที่อ้างตัวเป็นเพื่อนลูกชาย ก็ไม่ยอมบอก ตนจึงบอกไปว่า ถ้าไม่บอก จะแจ้งให้ตำรวจออกตามหา 

          กระทั่งช่วงเช้ามืดวันนี้ ลูกชายโทรศัพท์ไปบอกว่า ถูกตำรวจอุ้มไปขัง ทำร้ายร่างกาย บังคับให้บอกที่ซ่อนยาเสพติด ทางด้าน นายทิวา ทราบว่า ทำงานอยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ริมถนนกลางเมือง ในเมืองขอนแก่น และเมื่อวันจันทร์ ที่ 16 พฤศจิกายน 2552 เวลาประมาณ 21.00 น. ขณะที่ตนกำลังทำงานอยู่นั้น ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์หลายคน ใช้รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ โตโยต้า วีโก้ สีบรอนด์ ไม่ทราบทะเบียน และรถเก๋งสีบรอนด์ ไม่ทราบยี่ห้อ ทะเบียน ไปที่ร้านอาหาร ชายฉกรรจ์ทั้งหมดแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด ได้เชิญตนไปคุยข้างนอก ซึ่งทางผู้จัดการร้านอาหาร เห็นว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงให้ความร่วมมือ 

          ตนจึงออกจากร้านไปกับกลุ่มชายดังกล่าว ต่อมาได้ขับรถพาตนไปที่เซฟเฮ้าส์แห่งหนึ่ง เป็นบ้านสองชั้น อยู่ลึกเข้าไปในซอย ห่างจากถนนกลางเมือง-พิมาณธานี ประมาณ 100 เมตร เมื่อไปถึงตนก็ถูกสอบถามเรื่องการค้าขายยาบ้า ตนก็ปฏิเสธว่าไม่มี ไม่รู้เรื่อง ต่อมาก็ถูกถามถึงเพื่อนสนิทว่ามีใครบ้าง พอตนเอ่ยชื่อแต่ละคนขึ้นมา เพื่อนก็ถูกนำตัวมาขังไว้ในเซฟเฮ้าส์เช่นกัน ซึ่งตลอดเวลาที่อยู่ในเซฟเฮ้าส์ ตนจำหน้าได้หมดว่า ใครทำอะไรกับตนบ้าง ทั้งตีด้วยเข็มขัด ท่อนไม้ มัดมือมัดเท้าตรึงเข้าหากัน จากนั้นก็จะใช้ถุงดำคลุมศีรษะ ใช้เท้าถีบกลิ้งอยู่ที่พื้น ขู่บังคับให้บอกที่ซ่อนยาเสพติด แต่ตนไม่มียาเสพติด จึงบอกไม่ได้

          นายกบ (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี นายหมี (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี บอกว่า เป็นเพื่อนกับนายนัสจริง ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 24.00 น. วันที่ 16 พฤศจิกายน 2552 ขณะที่ตนทั้งสองคนพร้อมด้วย น.ส.ปลา นอนพักอยู่ที่หอพักไม่มีชื่อ อยู่ใกล้กับโรงเรียนเทศบาลบ้านโนนทัน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ก็ถูกชายฉกรรจ์หลายคน แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพ มาเชิญตัวพวกตนทั้ง 3 คน ไปสอบปากคำ เกี่ยวกับยาเสพติดที่เซฟเฮ้าส์ ซึ่งเป็นที่เดียวกับที่นายนัส ถูกขังเอาไว้ เมื่อไปถึงก็ถูกนำตัวแยกสอบคนละห้อง พอตอบว่าไม่รู้เรื่องยาเสพติด ก็ถูกซ้อม ถูกตีด้วยเข็มขัดหนัง และถูกคลุมศีรษะด้วยถุงพลาสติกสีดำ 

          นายอภิชาต อินบุญญา อายุ 24 ปี บอกว่า วันที่ 17 พฤศจิกายน 2552 ตนไปหานายทิวาที่ร้านอาหาร แต่ไม่เจอ จึงติดต่อทางโทรศัพท์พูดคุยกันไม่นาน ตนก็ถูกชายฉกรรจ์พาขึ้นรถกระบะไปขังไว้ในเซฟเฮ้าส์ที่เดียวกับเพื่อนๆ และถูกสอบสวนเรื่องยาเสพติด แต่ตนตอบไม่ได้ เพราะไม่รู้เรื่อง จึงถูกทำร้ายร่างกายเช่นเดียวกับเพื่อนๆ ซึ่งตลอดเวลาที่ตนถูกขังรวมกับเพื่อน ๆ แม่ของตนได้โทรศัพท์หาตนตลอด แต่ตนรับสายไม่ได้ เพราะถูกทุบตี และถูกยึดโทรศัพท์ กระทั่งแม่โทรเข้าหาตนในช่วงดึกวันเดียวกัน ว่าถ้าไม่ปล่อยลูกชายจะแจ้งตำรวจ เช้าวันนี้ ( 18 พ.ย. 52 ) ตนและเพื่อน ๆ จึงถูกปล่อยตัวออกมา และพากันเดินทางกลับบ้าน 

          เมื่อผู้ปกครองทราบเรื่องจึงพามาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าวนอกจากนี้ทั้งหมด ยังบอกอีกว่า ขณะที่ถูกขังในเซฟเฮ้าส์ ก็ถูกบังคับให้โทรหาเพื่อน เพื่อติดต่อขอซื้อยาบ้ากับเพื่อน บังคับให้ทำงานเป็นสายล่อซื้อยาเสพติด ทั้งบอกว่าให้ติดต่อผู้ปกครอง นำเงินไปเสียค่าปรับคนละ 20,000 บาท แต่ไม่มีใครยอมทำตาม จึงถูกทำร้ายร่างกาย 

          ส่วน น.ส.ปลา นั้นถูกสอบสวนเรื่องยาเสพติด และบังคับให้เป็นสาย แต่ไม่ถูกทำร้ายร่างกายภายหลังรับทราบเรื่องดังกล่าว พ.ต.ต.ยุทธนา งามชัด พงส.(สบ.2) สภ.เมืองขอนแก่น ได้พาผู้เสียหายทั้ง 5 คนพร้อมผู้ปกครองไปสอบสวนต่อที่ห้องหมายเลข 8 และทำการปิดล๊อคประตู ไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าไป ทำการสอบสวนประมาณ 1 ชั่วโมง ทั้งหมดก็ออกจากห้องสอบสวน ซึ่งทางผู้ปกครองของผู้เสียหาย พูดเพียงว่า มาพบตำรวจ เพราะไม่อยากให้ลูกถูกทำร้ายร่างกาย ไม่อยากให้เป็นสายตำรวจ และกลัวลูกจะถูกอุ้มไปอีก จึงมาแจ้งให้ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่นทราบเรื่องเอาไว้ซึ่งทาง พ.ต.ต.ยุทธนา งามชัด บอกว่า ผู้ปกครองพาลูกหลานมาพบตำรวจ และแจ้งให้ทราบเฉย ๆ เขาไม่ต้องการเอาเรื่อง อะไรเป็นอะไร เด็กทั้งหมดก็รู้อยู่แก่ใจ และไม่ต้องการมีเรื่อง ไม่อยากข่าว จึงรีบเดินทางกลับ



ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
อ้าง ปส.อุ้ม 5 โจ๋ ซ้อมน่วมบีบสารภาพซื้อ ยาเสพติด อัปเดตล่าสุด 19 พฤศจิกายน 2552 เวลา 14:05:52 10,405 อ่าน
TOP