เอกชัย ชุนหชัย หรือ เอกขาว
เอกชัย ชุนหชัย หรือ เอกขาว
สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คมชัดลึก
ความคืบหน้าการจับกุม เอกขาว หรือ นายเอกชัย ชุนหชัย อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาค้ายาไอซ์ และยิง ร.ต.อ.อาทิตย์ บุบผา หรือ ผู้กองโอ๊ต รองสารวัตรสืบสวนสอบสวน (รอง สว.สส.) สน.หัวหมาก เสียชีวิตขณะเข้าล่อซื้อยานั้น
เมื่อเวลา 22.45 น. วันที่ 18 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจกองปราบปราม ร่วมกับตำรวจภูธรภาค 6 และตำรวจภูธรวังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ เดินทางไปที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 6 ต.วังหิน อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ หลังจากสืบทราบว่า นายเอกชัย หรือ เอกขาว ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุยิง ร.ต.อ.อาทิตย์ เสียชีวิต มากบดาน
ทั้งนี้เมื่อตำรวจไปถึงและแสดงตัวเข้าจับกุม ปรากฏว่านายเอกชัยยิงปืนเข้าใส่ตำรวจ ก่อนจะวิ่งหลบหนีออกจากบ้านที่หลบซ่อนตัวอยู่ ทำให้เกิดการยิงปะทะกันขึ้น และในที่สุดตำรวจวิสามัญฯ นายเอกชัย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ก่อนรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น
ด้านนายสำรวย คงสอน นายอำเภอวังโป่ง กล่าวว่า ได้รับรายงานว่า ช่วงดึกวันที่ 18 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญฯ นายเอกชัย ในพื้นที่ หมู่ 6 ต.วังหิน เบื้องต้นได้รับรายงานว่า คนร้ายขัดขืนการจับกุม และยิงต่อสู้จึงถูกวิสามัญฯ ล่าสุดได้สั่งการให้ปลัดอำเภอ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเข้าร่วมชันสูตรศพแล้ว
ต่อมาวันนี้ (19 พฤศจิกายน) พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วยผบ.ตร. ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ขณะเข้าล้อมจับนายเอกชัย ชุนหชัย หรือ เอกขาว ผู้ต้องหาในคดียิง ร.ต.อ.อาทิตย์ บุบผา รองสารวัตร สน.หัวหมาก จนกระทั่งเกิดการวิสามัญ ว่า หลังเกิดเหตุตำรวจได้ติดตามและพยายามจะจับกุม นาย เอกขาว มาโดยตลอด จนกระทั่งสืบทราบว่าผู้ต้องหาเข้าไปหลบซ่อนอยู่ที่หมู่ 6 ต.วังหิน อ.วังโปง จ.เพชรบูรณ์ จึงนำกำลังอรินทราช 14 นาย พร้อมประสานตำรวจพื้นที่เข้าไปพื้นที่ดังกล่าว โดยใช้วิธีการเดินเท้าระยะ 2-3 กิโลเมตร ก่อนถึงบ้านที่ผู้ต้องหาซุกซ่อนตัวอยู่ โดยเดินเท้าเข้าไปตั้งแต่เวลาประมาณ 20.00 น.วานนี้
"เมื่อไปถึงบ้านที่ผู้ต้องหาซุกซ่อนตัว ตำรวจที่เตรียมพร้อมใส่เสื้อเกราะป้องกันทุกคน พยายามใช้วิธีการนิ่มนวล ตะโกนบอกให้มอบตัว แต่ผู้ต้องหายิงปืนใส่ตำรวจ ตำรวจต้องป้องกันตัว เพราะเกรงว่าจะเกิดการสูญเสียอีก เมื่อคนร้ายยิงสวนก็ต้องป้องกันยิงตอบโต้จนถูกคนร้ายเสียชีวิต ส่วนเรื่องที่มีการติดต่อเข้ามอบตัว ผมไม่ทราบ เพราะอยู่ต่างจังหวัดตลอด" พล.ต.อัศวิน กล่าว
ทั้งนี้ พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวอีกว่า สำหรับบ้านที่ผู้ต้องหาใช้หลบซ่อนเป็นบ้านทรงไทย 2 ชั้น โดยผู้ต้องหาใช้วิธีซ่อนตัวอยู่ที่ฝ้าของชั้น 2 โดยผูกเปลนอน ตำรวจตรวจสอบพบอาหารการกิน เครื่องใช้ที่จำเป็น รวมถึงอุปกรณ์ปัสสาวะเคลื่อนที่ (คอมฟอร์ด 100) เมื่อตำรวจโอบล้อมตัวบ้าน ผู้ต้องหาซึ่งอยู่เพียงคนเดียวได้ใช้ปืนยิงสวนมาตลอด
"ขณะนี้กำลังตรวจสอบว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นของใคร ใครเป็นผู้ครอบครอง มีความเกี่ยวข้องอย่างไรกับผู้ต้องหา อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะมีการขยายผลต่อไป ว่าใครเกี่ยวข้องบ้างเพื่อที่จะดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป" พล.ต.ท.อัศวินกล่าว
ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 18 พฤศจิกายน นางประภาพรรณ เดชะเทศบุปผา หรือ เอ็ม อายุ 27 ปี ภรรยาของ ร.ต.อ.อาทิตย์ เดินทางไปที่เกิดเหตุ พร้อมพระครูปลัดนาก อิริโก พระลูกวัดลาดพร้าว และบรรดาญาติ ๆ รวมทั้งเพื่อนฝูงคนสนิท เพื่อทำพิธีทางศาสนาในการเชิญวิญญาณผู้ตายกลับเข้าร่างตามความเชื่อ โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที จึงเสร็จพิธี
นางประภาพรรณ กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเพื่อนสนิทของสามีได้มาเล่าให้ฟังว่า เมื่อคืนฝันเห็นผู้กองโอ๊ตมายืนอยู่ที่หน้าคอนโด และไม่ได้พูดจาอะไร เพื่อนคนดังกล่าวจึงบอกไปว่าไม่ต้องเป็นห่วงจะดูแลภรรยาให้เอง ส่วนตนเมื่อคืนที่ผ่านมาได้ฝันเห็นสามีมาหา โดยมานั่งที่เตียงก่อนจะมาลูบขาแล้วบอกว่า "เอ็ม โอ๊ตมาหาแล้วนะ โอ๊ตขอโทษ" จากนั้นก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
