พกซีโฟร์เข้าบ้าน ระเบิดบึม ฉีกร่าง2ผัวเมีย (ไทยรัฐ)
เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 19 พ.ย. ตำรวจ สภ.บ่อไร่ จ.ตราด รับแจ้งจากนายสมภาร บุญคง คนงานในโรงงานระเบิดหิน หจก.ส.ศิลาทองสำราญสุข ม.8 ต.บ่อพลอย อ.บ่อไร่ ว่าเกิดเหตุระเบิดขึ้นในบ้านพักคนงานในโรงงานระเบิดหิน หจก.ส.ศิลาทองสำราญสุข ทำให้มีผู้เสียชีวิต จึงรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ไม่มีเลขที่ สภาพพังเสียหายเกือบทั้งหลัง ซากกำแพงบ้านและหลังคาบ้านพังทับร่างผู้เสียชีวิต 2 รายในสภาพร่างกายแหลกเละ หลายท่อน ชิ้นส่วนกระเด็นไปไกลกว่า 100 เมตร เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องช่วยกันเก็บชิ้นส่วนรวบรวมให้ พ.ญ.รุจิรา กิตติภิญโญภาพ แพทย์เวรโรงพยาบาลบ่อไร่ชันสูตร ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายเพ็ญ พิณนะ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69 ม.10 ต.บ่อทอง อ.ทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ และนางสายใจ บุญธรรม อายุ 43 ปี
สอบถามนายสมภาร บุญคง คนงาน หจก.ส.ศิลาทองสำราญสุข และเป็นญาติผู้เสียชีวิต ทราบว่า นายเพ็ญ และ นางสายใจ สองสามีภรรยา มีอาชีพเป็นช่างระเบิดหิน และรับจ้างทั่วไป ทุกวันก่อนไปทำงานนายเพ็ญ ต้องไปเบิกระเบิดซีโฟร์ที่โกดังเก็บระเบิดของบริษัท วันละประมาณ 30-50 แท่ง และในตอนเย็นช่วงเลิกงานนายเพ็ญ มักนำระเบิดซีโฟร์ที่ใช้ไม่หมดเก็บกลับมาบ้านเป็นประจำ ก่อนจะนำออกไปใช้งานในวันต่อไป โดยระเบิดชนิดดังกล่าวนี้จะระเบิดได้นั้นจะต้องได้รับการจุดชนวนด้วยระบบไฟฟ้าเท่านั้น โดยจะใช้ไฟฟ้าในการจุดระเบิดประมาณ 1.5 โวลท์ ซึ่งจะต้องมีกระแสไฟฟ้าไปเป็นตัวในการจุดระเบิด ระเบิดจึงจะทำงาน
นายสมภาร ให้การด้วยว่า ระยะหลัง นายเพ็ญ ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลศรีธัญญาเกี่ยวกับอาการโรคประสาท ซึ่งนิสัยส่วนตัวของนายเพ็ญ เป็นคนชอบดื่มสุรา และมักจะทะเลาะมีปากเสียง กับ นางสายใจ อยู่เป็นประจำ ระหว่างเกิดเหตุนั้น มีเพียงนายเพ็ญกับ นางสายใจ อยู่กันเพียง 2 คนเท่านั้น ส่วนคนงานอื่น ๆ พักอยู่กันคนละที่
ด้านนายสุรศักดิ์ อิงประสาร เจ้าของโรงโม่หิน หจก.ส.ศิลาทองสำราญสุข เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนอยู่ที่บ้านพักและได้ยินเสียงระเบิดดังติดต่อกันถึง 2 ครั้ง จึงเกิดความสงสัย จึงเดินออกมาดูพบคนงานวิ่งมาบอกข่าว คาดว่าปริมาณน้ำหนักระเบิดครั้งนี้ น่าจะไม่ต่ำกว่า 3 กิโลกรัม และ เนื่องจากการระเบิดเกิดขึ้นภายในห้องนอนทำให้เกิดแรงอัดมากกว่าในที่โล่ง ทำให้ร่างของผู้เสียชีวิตแหลกละเอียดกระเด็นไปไกลกว่าร้อยเมตร
พ.ต.ท.เสรี สมไพรบูรณ์ สารวัตรเวรเจ้าของคดี กล่าวว่า ยังไม่สามารถระบุถึงสาเหตุของการระเบิดในครั้งนี้ได้ เบื้องต้นได้รับข้อมูลว่าที่ผ่านมาทั้ง 2 คนมีเหตุทะเลาะกันบ่อยครั้ง และในระยะหลังมีการทะเลาะกันที่รุนแรงมากขึ้น อาจจะเป็นสาเหตุทำให้ นายเพ็ญ ตัดสินใจจุดชนวนระเบิดขึ้นเพื่อฆ่าตัวตาย หรือตัดสินปัญหา หรืออาจมีการผิดพลาดเกี่ยวกับระเบิดในชนิดนี้ ซึ่งจะต้องให้เจ้าหน้าที่ที่มีความรู้และถนัดทางด้านระเบิดซีโฟร์มาตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง พร้อมทั้งตรวจสอบการเก็บวัตถุระเบิด ว่ามีความปลอดภัยมากน้อยเพียงใด และมีการควบคุมการใช้อย่างไร เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดีต่อไป
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
