สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เดลินิวส์, ไทยรัฐ
ความคืบหน้าคดีเจ้าหน้าที่ไทยจับกุมผู้ต้องหาต่างชาติชาวคาซัคสถาน และชาวเบลารุส รวม 5 คน ลักลอบขนอาวุธสงครามชนิดร้ายแรงน้ำหนักรวม 40 ตัน ผ่านทางเครื่องบินลำเลียงแบบทหารสัญชาติจอร์เจีย ขณะแวะพักเติมน้ำมันที่ท่าอากาศยานดอนเมือง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2552 นั้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2553 สำนักข่าวอาร์ไอเอ โนวอสติ ของรัสเซีย รายงานว่า ผู้ต้องหาชาวคาซัคสถานทั้ง 4 คน ได้ส่งข้อความเป็นจดหมายผ่านกองบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งของคาซัคสถาน ถึงนายนูร์ซุลตาน นาซาร์บาเยฟ ประธานาธิบดีคาซัคสถาน เพื่อขอความช่วยเหลือและปกป้อง โดยใจความในจดหมายระบุว่า
"เรียนประธานาธิบดีนูร์ซุลตาน อาบิเชวิช นาซาร์บาเยฟ พวกเราพลเมืองคาซัคสถานอัน ลูกเรือของเครื่องบิน ไอแอล-76, เที่ยวบิน เอดับเบิลยูจี-731/732: เส้นทางเคียฟ-บากู-ฟูไจราห์-กรุงเทพฯ-เปียงยาง-กรุงเทพฯ-โคลัมโบ-ฟูไจราห์- เคียฟ ได้ทำการบินตามที่ได้รับมอบหมายจากสายการบินแอร์เวสต์ จอร์เจีย และผู้เช่าเครื่องบินของสายการบินแอร์เทค จากยูเครน โดยตามสัญญาต้องขนส่งสินค้าพลเรือนทั่วไปจำนวน 35 ตัน ซึ่งสินค้าที่ขนส่งได้ถูกปิดผนึกอยู่ในกล่องและประทับตราเรียบร้อยแล้ว ถูกจดทะเบียนว่าเป็น "ชิ้นส่วนเครื่องจักรกล" และเราได้ทำการบินด้วยความปกติ ไม่มีปัญหาใด ๆ
กระทั่งเมื่อวันที่ 11ธันวาคม 2009 หลังลงจอดที่สนามบินในกรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ศุลกากรและเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของประเทศไทยได้มาถึง พร้อมกับสงสัยว่าเครื่องบินนี้บรรทุกสินค้าทางทหารและได้ยึดเครื่องไว้ หลังจากนั้นเราถูกแจ้งข้อหาว่าขนสินค้าทางทหารและได้ถูกจับกุม ต่อมาเราถูกนำตัวไปยังศาล และถูกส่งไปยังเรือนจำ อยู่รวมกับนักโทษที่ถูกตัดสินแล้วในคดีอาชญากรรมร้ายแรง และในส่วนคุมขังของเรามีผู้ต้องขัง 30-40 คน เรานอนบนพื้น ปูด้วยผ้าห่มที่บาง ไม่มีหมอน ไม่มีการเปิดไฟ อาหารไม่ได้ชวนรับประทาน และอาจถึงขั้นไม่เหมาะแก่การบริโภค ต่อมาตัวแทนของสาธารณรัฐคาซัคสถานได้ยื่นคำร้องขอประกันตัว แต่ถูกปฏิเสธ โดยให้เหตุผลว่าเราเป็นชาวต่างชาติและอาจหลบหนีออกจากประเทศโดยผิดกฎหมาย ซึ่งเราไม่มีแผนที่จะทำ โดยศาลสามารถยืดเวลาควบคุมตัวได้ถึง 7 ครั้ง ในระยะเวลา 12 วันต่อครั้ง (รวม 84 วัน) ในช่วงของการสอบสวน หลังจากนั้นเราจะถูกสั่งฟ้องและจะเข้าสู่กระบวนการตัดสินคดีที่อาจกินเวลาเกินกว่าปี
อย่างไรก็ตาม เราได้รับทราบว่าตามกฎหมายของประเทศไทย เราอาจถูกตัดสินโทษตั้งแต่จำคุก 10 ปี กระทั่งประหารชีวิต นี่มันอะไรกัน เราเพียงทำการบินขนส่งสินค้าพลเรือนปกติ ตามที่ระบุไว้ในสัญญาและเอกสาร ประกอบ! ความผิดทั้งหมดควรจะอยู่ที่ฝ่ายต้นทางที่ส่ง! เราเป็นเพียงคนส่งของที่ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายจากนายจ้างคือ สายการบินและผู้เช่าเครื่องบินเท่านั้นเอง ทั้งนี้ การควบคุมตัวพวกตนโดยข้อหาที่เป็นเท็จคือการละเมิดสิทธิ และเสรีภาพตามที่กล่าวมาแล้ว ดังนั้น จึงให้ท่านประธานาธิบดีคุ้มครอง และยื่นมือเข้าช่วยเหลือ อันเปรียบเสมือนหลักประกันของการปกป้องผลประโยชน์ ของสาธารณรัฐคาซัคสถาน และประชาชนของประเทศ
ลงชื่อ: กัปตันเครื่อง อิลยาส อิซัคโควิช อิซัคคอฟ, นักบินที่ 2 วิตาลี ชุมคอฟ, เนวิเกเตอร์ วิคเตอร์ อับดุลลาเยฟ, วิศวกรภาคพื้นดิน อเล็กซานเดอร์ ซรึบเนฟ ที่ กรุงเทพฯ เรือนจำกรุงเทพฯ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก