x close

จากใจประชาชน 26 ก.พ. ต้องเคารพกติกา





จากใจประชาชน 26 ก.พ. ไม่ว่าจะ หัว ก้อย กลาง ต้องเคารพกติกา (ไทยรัฐ)

          26 ก.พ. 2553 เป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนประเทศไทย ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาในรูปแบบใด "ไทยรัฐออนไลน์" พาไปฟังเสียงความคิดเห็นจากใจภาคประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศว่าพวกเขาคิด กันอย่างไรในวันที่ประเทศไทยมาถึงอีกหนึ่งจุดเปลี่ยน

          นางสาววิไลวรรณ แซ่เตีย ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย กล่าวกับ "ไทยรัฐออนไลน์" ว่าไม่ว่าผลจะออกมาในรูปแบบไหน ยึดทรัพย์ทั้งหมด ไม่ยึดทรัพย์ทั้งหมด หรือยึดส่วนทรัพย์เพียงส่วนหนึ่ง ไม่ว่าจะออกมาในหน้าไหน พวกเราแรงงานไทยจะได้รับผลกระทบอย่างมหาศาล



นางสาววิไลวรรณ แซ่เตีย



          "คำถามก็คือเมื่อสถานะ การเมืองที่ไม่นิ่งแบบนี้ ทำให้ชาวต่างชาติเองก็วิตกไม่อยากมาลงทุน กิจการมากมายต้องปิดตัวลงมากมาย ส่งผลประชาชนโดยรวมทั้งประเทศ จะเห็นได้ว่าผลกระทบมันเกี่ยวโยงกันอย่างมหาศาล ในการเคลื่อนไหวในแต่ละกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของกิจการ โรงพยาบาล การจราจร และที่ปฏิเสธไม่ได้กระทบกับคนที่ทำมาหากินแบบหาเช้ากินค่ำ แน่นอนการตัดสินจะออกมาในรูปแบบไหนก็แล้วแต่ชาวบ้านรากหญ้าจะได้รับผลกระทบ เต็ม ๆ "

          อย่างไรก็ดี ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทยบอกว่า สิ่งที่ชาวรากหญ้ากังวลมากที่สุดในสถานการณ์มืดแปดด้านแบบนี้ จะมีการปฏิวัติรัฐประหาร เพราะว่าสังคมโลกคงไม่สนับสนุน จะเป็นการซ้ำเติมบ้านเมือง ซ้ำเติมคนที่หาเช้ากินค่ำ และรากหญ้า ซึ่งมีมากกว่า 30 ล้านคน

          "สิ่งที่พวกเราอยากจะแนะนำก็คือ ที่ผ่านมาเป็นบทเรียนที่เจ็บปวดมากอยู่แล้ว ไม่อยากมันซ้ำไปมากกว่านี้อีก ทุกคนควรคำนึงถึงประเทศชาติ เหมือนอย่างที่ทุก ๆ สีมักจะพูดกันว่ารักประเทศชาติ ถ้ารักจริง ๆ เราก็น่าจะให้อยู่อย่างสงบ คุณต้องเคารพและต้องฟังเสียงคนอื่นด้วย วันนี้เราอยากจะให้ทุก ๆ สี ในสังคมหันหน้ามาคุยกัน ถ้าบ้านเมืองเราสงบ เศรษฐกิจก็จะดีชีวิตเราก็มีความสุข" 

          ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์ แรงงานไทย บอกอีกว่า สิ่งที่สำคัญเหนืออื่นใดไม่ว่าจะออกหน้าไหน หัว-ก้อย-กลาง ยังไงทุก ๆ คนก็ต้องเคารพคำวินิจฉัยของศาล เพราะว่าศาลเป็นที่เพิ่งสูงสุดของทุก ๆ คน คือเราก็ยอมรับมันคือกติกาการร่วมกันของบ้านเมืองส่วยความคิดเห็นแตกต่างก็ว่า กันไป ที่สำคัญความคิดเห็นแตกต่างก็ต้องไม่ทำให้คนอื่นเดือนร้อน 

          "อย่าทำให้ชาติบอบช้ำไปมากกว่านี้ อย่าทำให้วิกฤติเศรษฐกิจได้รับผลกระทบไปมากกว่านี้ที่ผ่านมา อย่าลืมว่ายิ่งมีเรื่องกันเท่าไหร่ เศรษฐกิจเป็นแบบนี้ค่าจ้างเขาก็ถูกคาครองชีพสูง งานก็ไม่มีจะทำ แล้วเราจะอยู่อย่างไรในสภาสังคมเป็นแบบนี้ อะไรคือความสุขของคนในสังคม" นางสาววิไลวรรณ กล่าว



นายรัชฏะ ศรีบุญรัตน์




          นายรัชฏะ ศรีบุญรัตน์ ประธานสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทยกล่าวแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ว่า จะยึดทรัพย์หรือไม่ยึด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่มีผลกระทบโดยตรง 

          "แต่ประชาชนและเยาวชนทั้งหมดจะได้รับผลกระทบ ทางอ้อมแน่นอน หากผู้เสียผลประโยชน์ ทำความวุ่นวายให้กับบ้านเมืองเพราะวันนี้เราอยู่ในการเมืองที่ทุก ๆ กลุ่มทำการเคลื่อนไหวแบบไม่สร้างสรรค์ ฉะนั้น ลักษณะตรงนี้ก็ไม่ใช่การเรียนรู้ที่ดีในกระบวนการนิติบัญญัติของประเทศไทย ที่เด็กจะเอาเป็นแบบอย่าง ตรงนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงมากที่สุด เด็ก ๆ จะได้รับ ทัศนคติที่ไม่ดี"

          ประธานสภาเด็กและเยาวชนแห่ง ประเทศไทย ยกตัวอย่างว่า สมมติว่าผลลัพธ์ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองออกมาอย่างไรก็แล้วแต่ ก็จะมีคนเสียผลประโยชน์ แน่นอน ต้องมีกลุ่มคนส่วนหนึ่งออกมาเคลื่อนไหว เพราะไม่เคารพกฎกติกาบ้านเมือง ดังนั้นมันจะทำให้เด็ก ๆ รับรู้ว่าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ไม่ศักดิสิทธิ์ เด็ก ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องรักษากติกาบ้านเมืองก็ได้ 

          "ดังนั้นอยากให้เห็น ต่างแต่ต้องอยู่ร่วมกันให้ได้ อยู่ร่วมกับความแตกต่างกันในสังคม เพราะเราต้องเรียนรู้ที่จะปรับเปลี่ยนทัศนคติไม่ละเมิดสิทธิ์คนอื่นและ ต้องเคารพสิทธิของตัวเอง การเคารพสิทธิ์ในประชาธิปไตยไม่ใช่ต้องไปเลือกตั้งเพียงอย่างเดียว ต้องเคารพในสิทธิคนอื่นและเคารพสิทธิของตัวเอง หากผู้เสียผู้ประโยชน์ใด ๆ แล้วต้องคำนึงเป็นพิเศษว่าไปละเมิดสิทธิ์ของใครหรือเปล่าประชานจะตัดสินเอง ว่าวันนี้ใครจะทำให้ชาติวุ่นวาย อย่างไรก็ดีไม่ว่าผลลัพธ์ในวันนั้นจะเป็นอย่างไร ที่สำคัญพวกเราเยาวชนเรียกร้องให้ทุก ๆ คนรักษากติกาบ้านเมือง"



นายอรุณฉัตร คุรุวาณิชย์



          นายอรุณฉัตร คุรุวาณิชย์ ประธานสภาเยาวชนกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เยาวชนกำลังมองปรากฏการณ์นี้อยู่ ทั้งนี้ไม่ใช่เรื่องเงิน 7.6 หมื่นล้านบาท แต่เป็นเพราะคนที่ถือเงินมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของคนจำนวนมาก และการตัดสินครั้งนี้เป็นบรรทัดฐานของสังคม และ เป็นตัวอย่างให้เยาวชนยึดเป็นต้นแบบได้ 

          นางนัยนา  ณ นคร อาชีพขายของกล่าวว่าตามทัศนะส่วนตัวยังลุ้น ๆ อยู่เหมือนกันว่าจะออกมาในรูปแบบไหน  ถ้ายึดทั้งหมดก็ไม่ยุติธรรมกับเขา เพราะธุรกิจที่เขาทำได้มาถูกต้องก็มีควรจะเป็นประเด็นไป เขาทำมาน้ำพักน้ำแรงของเขาก็มี นั่นก็ควรเป็นส่วนที่เขาจะได้ไป แต่ถ้าไม่ยึดเลย มันก็ไม่ได้ มันก็ไม่ยุติธรรมเหมือนกัน เพราะอะไรที่เป็นส่วนของประชาชนก็ควรจะคืน 

          "อย่างไรก็ดีส่วนตัวน่า จะดีที่สุด แต่ที่แน่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็ต้องมีฝ่ายที่ออกมาประท้วง และคิดว่าไม่น่ามีอะไรมากระทบต่ออาชีพหรือชีวิตประจำวันเท่าไหร่ เพราะมันเป็นเรื่องของเขา ก็คงทะเลาะกันอยู่แค่สองฝ่ายที่เห็น ๆ กันอยู่ แต่สิ่งที่สำคัญกว่าการยึดหรือไม่ยึดก็คือ การน้อมรับคำตัดสินของศาลเสาหลักที่สำคัญของประเทศไทย" นัยนากล่าว    

          นายวีรจิตร  ผดุงทศ ผู้ทุพพลภาพ กล่าวว่า ถ้ายึดหมดตนมองแล้วมันเป็นการโกงแบบหน้าด้าน ๆ เพราะเงินทั้งหมดไม่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะได้มาด้วยวิธีไหนก็ตามมันเป็นของเขาทั้งหมด ทั้งเรื่องที่เขาอนุมัติเงินให้พม่า หรือเรื่องของบริษัทชินคอร์ปฯ มันเป็นเรื่องการค้าของเขาไม่เห็นจะผิดอะไร แต่คนก็ตัดสินว่าเขาผิด ผมว่าเขาตั้งใจจะตัดแขนขายึดทั้งหมดเลย

          "ส่วนตัวเชื่อว่าถ้ายึดทรัพย์บางส่วนผมว่าไม่มีทางหรอกเพราะเป็นไปไม่ได้ แต่ถามว่าถ้าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นนั้น ผมเชื่อว่าไม่มีอะไรกระทบเลย เพราะตนมันคนพิการแล้ว แต่คำถามที่ใหญ่ก็คือประเทศไทยพัง เศรษฐกิจพัง ถ้าทุกคนไม่หันเข้ามาสมานฉันท์กัน"

          ด้านนายณัฐกรณ์ ทองนพเก้า กล่าวว่าไม่ว่าผลจะออกมาในรูปแบบไหน ยึดทรัพย์ทั้งหมด ไม่ยึดทรัพย์ทั้งหมด หรือยึดส่วนทรัพย์เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ส่วนตัวคิดว่าหากศาลตัดสินว่าผิดจริงก็ยึดไป พอยึดแล้วคิดว่าอาจจะทำให้เสื้อแดงเคลื่อนไหวมากขึ้น 

          "แต่ส่วนตัว เชื่อว่าคงไม่รุนแรงมาก เพราะประเด็นการยึดทรัพย์มันเป็นเรื่องของคน ๆ เดียว คนทั่วไปเขาไม่ใส่ใจกันแล้วแต่ถ้าไม่ยึด แน่นอนว่าฝ่ายเสื้อเหลืองต้องออกมา เพราะพวกนี้เล่นกับทักษิณอยู่แล้ว ส่วนตัวผมคิดว่าเขาไม่ได้โกงไปมากมายนะ เพราะมันก็มีเงินส่วนที่เขาหามาเองด้วยและถ้ายึดทรัพย์บางส่วนมันก็ดี สมน้ำสมเนื้อ เหมือนพบกันครึ่งทาง แต่ไม่ว่าจะเป็นทางออกไหน ยึดไม่ยึด มันก็ไม่ทำให้ปัญหาสีเสื้อหมดไป ผมว่ามันเลยจุดสมานฉันท์ไปแล้ว จะว่าเรื่องนี้กระทบต่อตัวผมไหม ก็ไม่เลย เพราะเรื่องนี้มันค่อนข้างไกลตัว อย่างที่บอกมันเป็นเรื่องของคนๆเดียว ต้องให้เขาออกมาเคลียร์ตัวเองจะดีกว่า วิธีนี้น่าจะเวิร์ก แต่คงเป็นไปไม่ได้หรอก" นายณัฐกรณ์ กล่าว

          นายชยนพ  บุญประกอบ พนักงานรัฐวิสาหกิจ กล่าวว่าไม่ว่าผลจะออกมาในรูปแบบไหน ยึดทรัพย์ทั้งหมด ไม่ยึดทรัพย์ทั้งหมด หรือยึดส่วนทรัพย์เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น 

          "ถาม ผม ๆ ว่าก็น่าจะโดนยึดไปตั้งนานแล้ว ทำอะไรไว้ก็ควรได้รับผลตามนั้น มันก็คงวุ่นวายแบบนี้ต่อไปไม่จบสิ้น ถ้าไม่ยึดมันก็จะเป็นแบบอย่างให้คนที่ทำแบบนี้เกิดขึ้นอีกเยอะแยะ เพราะทำแบบนี้แล้วได้ดี โกงแล้วจับไม่ได้ "มึงโกงได้ กูก็โกงได้" ผมว่ามันเป็นแบบนี้มาเยอะมากพอแล้ว"

          "แต่ถ้ามองแบบเชิงลึกกับเรื่อง นี้ มันก็สะท้อนให้เห็นถึงสันดานของคนไทยที่อยากได้ อยากมี เล่นพรรคพวก ใช้ทางลัดหาผลประโยชน์ให้ตัวเองสบาย ถือว่า พ.ต.ท.ทักษิณนี่แหละตอบโจทย์สันดานคนไทยได้เห็นภาพชัดเจนมาก หรือถ้ายึดบางส่วนหรือ มันก็คงดีกว่าไม่ทำอะไรเลยมั้งครับ แต่ก็คงมีคนไม่พอใจอยู่ดี ก็ฟ้องร้องกันต่อไป เพราะอาชีพอย่างพวกผมก็ไม่ได้กระทบกับเรื่องนี้โดยตรงหรอก ยังมองไม่เห็นภาพขนาดนั้น ไม่เหมือนตอนที่ยึดสนามบิน เพราะเหตุการณ์นั้นเล่นซะคนที่ทำงานแบบผมได้นอนสบายอยู่บ้านนานเลยทีเดียว อันนี้โดนเต็ม ๆ เลยล่ะครับ" นายชยนพ กล่าว


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
จากใจประชาชน 26 ก.พ. ต้องเคารพกติกา อัปเดตล่าสุด 22 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 15:31:01 21,766 อ่าน
TOP