x close

นายกฯ ให้ กทม. ร่วมดูแลชุมนุมเสื้อแดง เน้นจัดจราจร

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ


นายกรัฐมนตรีให้ กทม.ร่วมดูแลการชุมนุมใหญ่เสื้อแดง เน้นจัดจราจร (สำนักข่าวไทย)

          นายกรัฐมนตรีซักซ้อมความเข้าใจเจ้าหน้าที่ กทม. ให้ช่วยดูแลการชุมนุมใหญ่คนเสื้อแดง เน้นช่วยจัดจราจรและทำความเข้าใจกับประชาชน ย้ำต้องไม่เป็นคู่กรณีขัดแย้งกับใคร ยอมรับสิ่งที่กลัวที่สุดคือการสูญเสีย แต่ยังมั่นใจบริหารสถานการณ์ได้  

          นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังประชุมร่วมกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. และผู้อำนวยการเขตทั้ง 50 เขต วันนี้ ที่ทำเนียบฯ เป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง เพื่อรับทราบการประเมินสถานการณ์การชุมนุมทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตลอดจนซักซ้อมแนวทางปฏิบัติในการรับมือกับผู้ชุมนุม

          นายกรัฐมนตรี ย้ำว่ารัฐบาลและเจ้าหน้าที่ กทม. ถือว่าการรักษาความสงบเรียบร้อยเป็นภารกิจหลัก ไม่เป็นคู่กรณีขัดแย้งกับใคร และไม่มีเป้าหมายปราบปรามการชุมนุมหรือการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่เป็นสิทธิเสรีภาพของการชุมนุม ดังนั้น เจ้าหน้าที่จึงจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอดทนอดกลั้นสูงสุด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์บานปลาย แม้มีแนวโน้มว่าคนบางกลุ่มมีความคิดที่จะทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง 

           "ภารกิจของเจ้าหน้าที่ไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่เป็นเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่จะต้องมีความพร้อมทุกด้าน ทั้งป้องกันเหตุและแก้ไข หากเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ขึ้น รวมถึงการดูแลอำนวยความสะดวก เนื่องจากอาจเกิดปัญหาการจราจรและการให้บริการประชาชน ซึ่งแต่ละฝ่ายได้แบ่งหน้าที่กันชัดเจนแล้ว" นายกรัฐมนตรี กล่าว 

           นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุมวันนี้ได้ซักซ้อมการดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งกฎหมายปกติและกฎหมายความมั่นคง หากคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ประกาศใช้ ขณะเดียวกัน ต้องขอความร่วมมือจากประชาชนที่อาจไม่ได้รับความสะดวกจากการปฏิบัติหน้าที่หรือการป้องกันเหตุของเจ้าหน้าที่ และหากประชาชนพบเหตุหรือมีอะไรผิดสังเกต ขอให้แจ้งข้อมูลและเบาะแสกับเจ้าหน้าที่ด้วย

           "ที่สำคัญขอให้ทำความเข้าใจกับประชาชนว่า ไม่ว่าจะมีความเห็นทางการเมืองอย่างไร อย่าได้นำตัวเองเข้าไปสู่ความขัดแย้งที่อาจนำไปสู่ความรุนแรงได้ เพราะหากความรุนแรงเกิดขึ้นแล้ว ความสูญเสียจะเกิดขึ้นกับทุกฝ่าย" นายกรัฐมนตรี กล่าว 

           นายกรัฐมนตรีขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก การเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ หรือการประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร เป็นเพียงการตั้งอยู่บนความไม่ประมาทเท่านั้น หากประชาชนให้ความร่วมมือก็ไม่มีอะไรที่ต้องกังวล รัฐบาลและ กทม. จะช่วยกันดูแลให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ โดยทางออกที่ดีที่สุดขณะนี้ คือ พิสูจน์ให้คนไทยทั้งประเทศและชาวโลกได้เห็นว่า เรามีความคิดเห็นที่แตกต่าง และสามารถใช้สิทธิทางการเมืองโดยไม่ละเมิดกฎหมาย ซึ่งเป็นหลักการสำคัญของระบอบประชาธิปไตย 

           "เราไม่สามารถทำให้ทุกคนเห็นตรงกันได้ ขณะเดียวกันก็ไม่สามารถปล่อยให้ใครก็ตามใช้เรื่องความรุนแรงหรือการข่มขู่ เข้ามากำหนดอนาคตของประเทศ เพราะปัญหาจะไม่มีวันจบ และกลายเป็นวงจรที่ทำให้บ้านเมืองเราเสียหลัก" นายกรัฐมนตรี กล่าว

           อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีไม่พูดชัดว่าการดูแลความเรียบร้อยของการชุมนุมจะใช้เจ้าหน้าที่ของ กทม.จำนวนเท่าไร เพราะเกรงจะมีการนำไปเปรียบเทียบกับจำนวนผู้ชุมนุม บอกแต่ว่าเจ้าหน้าที่ กทม. จะเน้นบริหารการจราจรเพื่ออำนวยความสะดวก แนะนำเส้นทางต่าง ๆ ให้กับประชาชนและผู้ชุมนุม เพราะมีการเชิญชวนให้ประชาชนมาชุมนุมจำนวนมาก และนำยานพาหนะมาด้วย

           "ที่เน้นใน กทม.และปริมณฑล เนื่องจากมีการเชิญชวนให้เข้ามาชุมนุมใน กทม. เมื่อคนเข้ามามาก และมาเกี่ยวข้องกับการสัญจรทั้งทางบกและทางน้ำ จึงจำเป็นต้องดูแลสถานการณ์เป็นพิเศษ แต่ในต่างจังหวัดก็ได้ให้เตรียมความพร้อมไว้ด้วยเช่นกัน" นายกรัฐมนตรี กล่าว 

           นายกรัฐมนตรี ย้ำว่ามาตรการในการดูแลการชุมนุมจะมีเป็นขั้นเป็นตอน เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงจะต้องยึดหลักกฎหมายและหลักสากล การจะดำเนินการใด ๆ จะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าจะไม่มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐ ไปใช้ความรุนแรงกับประชาชน จะไม่มีการเข้าปราบปราม โดยไม่มีเหตุที่ต้องไประงับ และจะหลีกเลี่ยงถึงที่สุด ไม่ให้เจ้าหน้าที่พกพาอาวุธ แต่จะมีอุปกรณ์ในการป้องกันตัวเอง 

           ต่อข้อถามว่า รัฐบาลประเมินสถานการณ์การชุมนุมครั้งนี้จะรุนแรงกว่าเดือนเมษายน 2552 ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ได้บอกเช่นนั้น บอกเพียงแต่ว่ามีคนบางกลุ่มต้องการเห็นความรุนแรง และสิ่งที่รัฐบาลทำทั้งหมดก็เพราะไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์เหมือนเดือนเมษายน 2552 และขอยืนยันว่ารัฐบาลจะบริหารสถานการณ์ให้ดีที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุรุนแรง 

           เมื่อถามว่า มาจนถึงวันนี้กลัวหรือไม่ เพราะถูกหมายหัวในบัญชีดำของคนเสื้อแดง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า "ผมไม่กลัว ผมอยู่ในบัญชีดำมานานแล้ว" และว่าสิ่งที่กลัวที่สุดในการชุมนุมใหญ่ครั้งนี้คือ กลัวเกิดความสูญเสีย เพราะทุกชีวิตมีค่า และไม่ควรมีใครต้องมาเสียชีวิต หรือสูญเสียกับสิ่งที่ความจริงแล้ว เราสามารถบริหารจัดการได้ 

           "นี่คือสิ่งที่ผมไม่อยากให้เกิดขึ้น เพราะเวลามีคนมาชุมนุมจำนวนมาก และมีคนที่มีเจตนาแอบแฝง ต้องการฉกฉวยโอกาส ก็จะมีความเสี่ยง แต่ขอยืนยันว่ารัฐบาลจะพยายามไม่ให้เกิดขึ้น ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ของประเทศก็ไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสีย ดังนั้น ถ้าเราร่วมมือกัน เราจะรักษาความปกติและความสงบได้" นายกรัฐมนตรี กล่าว 

           อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีปฏิเสธที่จะให้ความเห็นว่า ผู้ที่มาชุมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาลอย่างเดียว หรือมีเป้าประสงค์อื่น โดยให้เหตุผลว่าคนที่จะมาชุมนุมมีจำนวนมาก แต่ละคนก็มาด้วยเหตุผลต่าง ๆ กัน จึงไม่สามารถสรุปได้ ส่วนถ้าสถานการณ์วุ่นวาย จะยุบสภาเพื่อให้เลือกตั้งใหม่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีย้ำว่า ถ้ายุบสภาแล้วเหตุการณ์สงบ เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ก็ไม่มีปัญหา แต่ปัจจุบันไม่มีสัญญาณว่าจะหยุดจากกลุ่มที่บอกให้ยุบสภา 

           ต่อกรณีที่การชุมนุมอาจกระทบกับการสมัครสอบเข้าเรียนต่อของนักเรียน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการแจ้งว่าจะเลื่อนการสอบออกไป เพื่อไม่ให้เป็นปัญหา แต่วันศุกร์ที่ 12 มีนาคม ยังไม่ได้ประกาศเป็นวันหยุดราชการ รัฐบาลจะตัดสินใจตามสถานการณ์ ไม่ได้ตั้งธงไว้ล่วงหน้า


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ภาพประกอบจาก ไอเอ็นเอ็น

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
นายกฯ ให้ กทม. ร่วมดูแลชุมนุมเสื้อแดง เน้นจัดจราจร อัปเดตล่าสุด 9 มีนาคม 2553 เวลา 16:04:45 10,308 อ่าน
TOP