สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
จากกรณีที่แกนนำเสื้อแดงได้ประกาศจะพาทัพเสื้อแดงเดินขบวนไปเทเลือด และทำพิธีสาปแช่งที่บ้านพักของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ภายในซอยสุขุมวิท 31 นั้น ทำให้วันนี้ (17 มีนาคม) เจ้าหน้าที่ได้เสริมกำลังทหาร และตำรวจเพิ่มอีก 10 กองร้อย จากเดิม 6 กองร้อย เพื่อรักษาความปลอดภัยบริเวณบ้านพักของนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ยังได้มีการนำรั้วลวดหนามมาขึงรอบบ้านอีก 1 ชั้นด้วย
ขณะที่บรรยากาศของกลุ่มเสื้อแดง ที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ไม่ได้มีการรับบริจาคเลือดเพิ่มเติมแต่อย่างใด ก่อนที่ในเวลา 08.30 น. กลุ่มเสื้อแดงชุดแรกจะได้เดินทางไปถึงบ้านพักของนายกรัฐมนตรี พร้อมกับเลือดจำนวน 10 แกลลอนที่แช่น้ำแข็งไว้ โดยใช้เส้นทางออกจากหลานหลวง ไปถนนยมราช ถนนเพชรบุรี ผ่านน้ำพุราชวิถี สยามสแควร์ ถนนราชประสงค์ เข้าถนนสุขุมวิท สี่แยกนานา สี่แยกอโศก และเข้าสู่บ้านนายกฯ
จากนั้นในเวลา 09.30 น. กลุ่มเสื้อแดงได้เคลื่อนตัวออกจากที่ตั้ง เพื่อเดินทางไปสมทบกับกลุ่มเสื้อแดงชุดแรกที่บ้านนายกรัฐมนตรี โดยมีนายวีระ มุสิกพงษ์ เป็นแกนนำ ขณะผู้ชุมนุมได้โบกธงชาติ และธงแดงไปมาระหว่างทาง พร้อมกับชูตีนตบตามคำปราศรัยของแกนนำเป็นระยะ
ขณะที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ได้เรียกร้องให้รัฐบาล ทั้งนายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และนายเนวิน ชิดชอบ ออกมาต่อสู้อย่างเปิดเผยกับคนเสื้อแดง หลังมีข่าวว่า รัฐบาลจะจัดคนถือผ้าสีขาวมาโบกยั่วยุ ระหว่างที่กลุ่มเสื้อแดงเดินทางมาที่บ้านนายกรัฐมนตรี เพื่อทำลายภาพคนเสื้อแดงที่ประสบความสำเร็จในการชุมนุม และต้องการทำให้เห็นว่า คนเสื้อแดงได้รับการต่อต้านจากคนกรุงเทพฯ
ด้าน นพ.เหวง โตจิราการ ระบุว่า การเทเลือดที่บ้านนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ จะใช้เลือด 1 ล้านซีซี และจะใช้หมดในคราวเดียว พร้อมขอให้ผู้ชุมนุมอดทน หากมีคนยั่วยุ โดนยึดหลัก "ไม่โกรธ ไม่รุนแรง ไม่ตอบโต้"
ทั้งนี้ การเคลื่อนขบวนของเสื้อแดง ทำให้ตำรวจต้องสั่งปิดการจราจรบนถนนสุขุมวิท ขาออก ตั้งแต่แยกอโศก ไปถึงซอยสุขุมวิท 22 ทันที โดยแนะให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนเลี้ยวขวาตรงซอย 22 เพื่อเลี่ยงไปใช้ถนนเพชรบุรีแทน ส่วนประชาชนที่มาจากแยกอโศก จะบังคับให้เลี้ยวขวา และเลี้ยวซ้ายได้เท่านั้น ซึ่งขณะนี้บริเวณถนนเพชรบุรี ขาออก และขาเข้า รวมทั้งถนนสุขุมวิท ขาเข้า และบริเวณแยกราชประสงค์ การจราจรติดขัดแล้ว
ต่อมาเมื่อเวลา 11.00 น. กลุ่มเสื้อแดงได้เดินทางถึงปากซอยสุขุมวิท 31 ห่างจากบ้านนายกฯ เพียง 200 เมตรเท่านั้น โดยแกนนำได้เจรจาต่อรองผ่านเครื่องเสียงกับพล.ต.ต.วิชัย สิงห์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล1 ฉายามือปราบหูดำ เพื่อขอให้เปิดทางให้เข้าใกล้บ้านนายกฯ มากที่สุด อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ตรึงกำลังไว้ โดยมีรถคุมขัง และรั้วลวดหนามขึงไว้สกัดผู้ชุมนุมไม่ให้เข้าใกล้บริเวณบ้านของนายกฯ โดยขอให้กลุ่มเสื้อแดงตระหนักในสิทธิ์ของประชาชนที่อาศัยอยู่โดยรอบด้วย
ขณะที่ผู้ชุมนุมต่างแตกฮือ เมื่อเกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้ต้องวิ่งหาที่หลบฝนกันอลหม่านวุ่นวาย ส่วนเจ้าหน้าที่ก็ต้องนำโล่มาใช้บังศีรษะแทน
จากนั้นนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ได้เข้าเจรจากับ พล.ต.ต.วิชัย แต่ระหว่างนั้นก็มีผู้ชุมนุมบางส่วนพยายามดันตัวและปะทะกับเจ้าหน้าที่ที่ตั้งแถวกั้นอยูด้วย จากนั้นไม่นานกลุ่มเสื้อแดงนำโดยนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ได้ฝ่าวงล้อมของเจ้าหน้าที่เข้าไปถึงหน้าบ้านนายกรัฐมนตรี และเทกองเลือดลงบนถนน ขณะที่ผู้ชุมนุมอีกส่วนหนึ่งมีลักษณะท่าทางโกรธแค้น ได้ปาถุงเลือดและถุงอึเข้าไปภายในบ้านพักของนายกฯ ทำให้หลังคาบ้านเต็มไปด้วยเลือดและเศษถุงพลาสติก ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้ใช้สายยางมาฉีดน้ำโต้ตอบไว้
ก่อนที่นายณัฐวุฒิจะปราศรัยขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่เปิดทางให้ และขอให้ผู้ชุมนุมหยุดขว้างสิ่งของเข้าไปในบ้าน และประกาศให้ทุกคนเดินทางกลับไปรวมตัวที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศตามเดิม
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดก็ได้เข้ามาราดน้ำยาฆ่าเชื้อและทำความสะอาดบริเวณบ้านพักนายกรัฐมนตรี
